เพราะฉันคือ....."คนบ้านนอก"

เขียวเอยเขียว เขียวขจีด้วยต้นกล้า

แลสุดตา ช่างพาใจสุขสม

หอมเอยหอม ส่งกลิ่นตามสายลม

ยามดอมดมกลิ่นกล้าช่างสุขใจ




เฝ้ามองดูอยู่ทุกวันมิเคยหน่าย

ปลิวไสวตามสายลมเพลินจริงหนา

มีต้นข้าว เสียงนกร้อง ดังก้องมา

ฟังแล้วพา ใจสุข ในทุกวัน




หอมไอดิน กลิ่นหญ้า เมื่อคราก่อน

ล้มตัวนอนบนฟาง อย่าง สุขสม

ปล่อยความทุกข์ปลิวไปตามสายลม

ไม่จ่อมจม อยู่ใน ความโลภา

 



มองท้องทุ่งเขียวขจีด้วยต้นข้าว

พาใจเราที่หม่นหมองให้เหือดหาย

จะช้ำมากช้ำน้อยด้วยเรื่องใด

แค่มองไปยังทุ่งนาก็บรรเทา




นึกถึงครั้งยังเล็ก..เมื่อเด็กน้อย
ได้ล่องลอยว่ายน้ำตามใจฉัน
มีเพื่อนๆเลื่อน-ลอยด้วยทั้งวัน
สนุกกันยันค่ำ..จำมิคลาย
 

เรื่องข้าวปลาอาหารมิเคยขาด

จนมิอาจบรรยายได้หมดสิ้น

บ้านนาเราไม่เคยขาดเรื่องของกิน

ทรัพย์ในดินสินในน้ำตามตำรา









เถียงนาน้อยที่พ่อทำจำได้แม่น

เคยแน่นแฟ้นด้วยพี่น้องอยู่พร้อมหน้า

ทุกคนต่างยิ้มแย้มยามสบตา

ต่างช่วยกันทำนา ด้วยน้ำใจ




พุพชาติงามพาใจชื้น

ช่างสดชื่นทุกคราที่มาเห็น

ดอกพะยอมกลิ่นหอมเช้ายันเย็น

ดอกสะแบงร่วงเป็นกังหันลม





ชาวนา ดำ หว่าน ไถ เพื่อใครเล่า

ก็เพื่อเจ้า มีกิน อย่างอิ่มหน่ำ

ตากแดดกล้าปลูกข้าวจนกร้านดำ

กลับถูกมองว่า ต่ำ ให้กล้ำกลืน

 



ถึงเราจน เราก็จนอย่างสุขี

ไม่ต้องมีมากมายอย่างใครเขา

จะมีทุกข์มีสุข อยู่ที่เรา

ว่าจะเลือกเอาสิ่งไหนมาใส่ตัว

    อยุ่กันอย่างพอเพียงหาเลี้ยงชีพ

ไม่ต้องรีบ ต้องเร่ง จนสับสน

มีพี่น้องเครือญาติ เพื่อนบ้านตน

ไม่ต้องรีบต้องรน อย่างใครๆ



จากหยาดเหงื่อไหลรินบนใบหน้า

จากน้ำตา แรงงานการหว่านไถ

จนมาเป็นรวงทองผ่องอำไพ

ให้เราได้มีกิน อย่าลงลืม


อย่าหลงลืม ถิ่นที่ให้กำเนิด

ถิ่นที่เกิด จนเติบโตมาป่านนี้

พ่อแก่ แม่เฒ่า ยังคอยเจ้านะคนดี

หวนกลับมายังที่เจ้าได้จากมา

 ท่านชะเง้อคอยทางรอเจ้ากลับ

 อย่าลาลับ ทำลืมว่า มาจากไหน

ยิ่งนับวัน สังขาร ร่วงโรยไป

คอยลูกหลานมาดูใจก่อนสิ้นลม


ใครจะหาว่าฉัน "คนบ้านนอก"

ฉันขอบอก อย่างไม่อายได้เลยหนา

ฉันภูมิใจ ที่ได้เป็นลูกชาวนา

ได้เกิดมา บนผืนนดินถิ่นกันดาร






4 ก.พ. 56 เวลา 18:43 21,591 17 320
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...