ชาวนอร์เวย์ตื่นตะลึงทั่วประเทศ เมื่อแหงนขึ้นไปมองบนท้องฟ้า เห็นแสงประ หลาดขนาดมหึมา ค่อยๆ ขยายตัวสว่างจ้าไปทั่วเมือง แถมยังหมุนวนเป็นเกลียวลักษณะคล้ายก้นหอย จุดศูนย์กลางมีลำแสงสีน้ำเงินอมเขียวพุ่งออกมา เป็นอยู่นานประมาณ 2 นาที ก่อนจะแตกตัวหายวับไป สร้างความช็อกไปตามๆ กัน เพราะไม่รู้ว่าเป็นแสงอะไร บางกระแสว่าเกิดจากการยิงขีปนาวุธรัสเซีย บ้างก็ว่าเป็นฝีมือมนุษย์ต่างดาว แต่สุดท้ายทางกลาโหมรัสเซียออกมายอมรับว่ายิงขีปนาวุธจริง
เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. เว็บไซต์ข่าวหนังสือพิมพ์เดอะซันและเดลี่เมล์ สื่อสิ่งพิมพ์ชื่อดังแห่งทวีปยุโรป รายงานว่า ประชาชนทั่วประเทศนอร์เวย์ต่างตื่นตะลึงกับแสงประหลาดขนาดมหึมาบนท้องฟ้าทางภาคเหนือ มองเห็นได้ทั่วทั้งนอร์เวย์และพื้นที่ตอนเหนือของฟินแลนด์ ปลุกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ว่าอาจเป็นปรากฏการณ์ดาราศาสตร์รูปแบบใหม่ ซึ่งไม่เคยพบมาก่อน หรือเกิดจากฝีมือมนุษย์ต่างดาว ส่วนบางกลุ่มชี้ว่าเป็นผลลัพธ์การทดลองยิงขีปนาวุธในทะเลขาวของเรือดำน้ำรัสเซีย
รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงเช้ามืดวันพุธ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีลำแสงสีน้ำเงินสาดส่องพุ่งจากด้านหลังภูเขาลูกหนึ่งทางภาคเหนือของนอร์เวย์ขึ้นไปปรากฏบนท้องฟ้า จากนั้นไม่นานก็เกิดกลุ่มลำแสงสีขาวอมน้ำเงิน ค่อยๆ สว่างวาบขยายตัวใหญ่ขึ้นตามลำดับ และยังหมุนวนเป็นเกลียวในลักษณะคล้ายก้นหอยอย่างช้าๆ ขณะเดียวกันพื้นที่จุดศูนย์กลางมีลำแสงสีน้ำเงินอมเขียวพุ่งออกมาข้างนอก ทำให้ชาวนอร์เวย์ซึ่งเห็นเหตุการณ์ตกตะลึงสุดขีด
แสงประหลาดมองเห็นชัดเจนที่สุดในห้วงระยะเวลาประมาณ 2 นาที ก่อนระเบิดแตกตัวหายจากท้องฟ้าไปอย่างสิ้นเชิงภายใน 10-12 นาทีต่อมา เบื้องต้นโฆษกกระทรวงกลาโหมและเจ้าหน้าที่หอสังเกตการณ์ธรณีวิทยาทรอมโซ ประเทศนอร์เวย์ ระบุตรงกันว่า มีความเป็นไปได้มากที่สุดที่แสงลึกลับคือผลลัพธ์จากการยิงทดลองขีปนาวุธ รุ่น "บูลาวา" โดยเรือดำน้ำดมิทรี ดอนสกอย ของรัสเซีย แต่การทดลองล้มเหลวจึงเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวขึ้น อย่างไรก็ตาม กองทัพเรือรัสเซียแถลงยืนยันว่าช่วงเกิดแสงประหลาดเรือดมิทรีฯ ไม่ได้ยิงขีปนาวุธหรืออาวุธใดๆ ทั้งสิ้น และถ้าจะยิงจริงๆ ต้องทำเรื่องแจ้งกับทางการนอร์เวย์ก่อนตามข้อตกลงระหว่างประเทศ
สำหรับปฏิกิริยาในสังคมนอร์เวย์ต่อข่าวแสงประหลาดปลุกกระแสวิพากษ์วิจารณ์หลากหลาย โดยบางส่วนเชื่อว่าเป็นผลจากขีปนาวุธรัสเซียจริง แต่จำนวนไม่น้อยเชื่อว่าเป็นฝีมือมนุษย์ต่างดาวและจานผียูเอฟโอ ขณะที่บางกลุ่มบอกว่าอาจเป็นหลุมดำ หรือประตูทะลุมิติตามทฤษฎีวาร์ป ด้านนายคนุต จอร์เกน โรด โอเดการ์ด นักดาราศาสตร์นอร์เวย์ชื่อดัง กล่าวว่า เมื่อแรกเห็นภาพแสงประหลาดคิดว่าเกิดจากการระเบิดของดาวตก แต่เพราะลำแสงคงอยู่กินเวลานานมากจึงไม่น่าใช่ และไม่น่าเกิดจาก ปรากฏการณ์แสงเหนือเช่นกัน เพราะแสงเหนือมีสีอมเขียว
"ความคิดแรกผมคิดว่ามันคือดาวตก หรือสะเก็ดระเบิดดาวเทียมที่พุ่งเผาไหม้ผ่านชั้นบรรยากาศ แต่เมื่อดูลักษณะการหมุนวนแบบกังหันของแสงแล้วคิดว่าไม่น่าใช่ทั้งสองอย่างเพราะขัดกับหลักฟิสิกส์ สิ่งที่เกิดขึ้นแปลกพิสดารและลึกลับมาก ตั้งแต่เกิดมาผมก็ยังไม่เคยเจอ บางทีมันอาจเกิดจากขีปนาวุธรัสเซียก็ได้ แต่ผมไม่รับประกันคำตอบข้อนี้นะครับ" โอเดการ์ดกล่าว
เวลา 17.30 น. วันเดียวกัน เอเอฟพีรายงานจากกรุงมอสโก เมืองหลวงรัสเซียว่า แหล่งข่าวในกระทรวงกลาโหมรัสเซียยอมรับกับผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์คอมเมอร์ซานต์ว่า ช่วงเช้าวันพุธที่ 9 ธ.ค. กองทัพรัสเซียทดลองยิงขีปนาวุธ รุ่น บูลาวา จากเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ดมิทรีฯ จริง โดยหลังจากยิงไปแล้วระบบการทำงาน 2 ขั้น ตอนแรกผ่านไปด้วยดี แต่เมื่อเข้าสู่ขั้นที่ 3 การทำงานของเครื่องยนต์กลับไม่เสถียร จึงเกิดระเบิดขึ้น ถือเป็นความล้มเหลวครั้งที่ 9 จากการทดลองยิงทั้งหมด 13 ครั้ง
นายปาเวล เฟลเกนฮาวเออร์ นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงคนสำคัญของรัสเซีย กล่าวว่า ข่าวข้างต้นพิสูจน์ให้เห็นว่าแสงลึกลับเหนือน่านฟ้านอร์เวย์เกิดจากการระเบิดของขีปนาวุธบูลาวา ไม่ได้เป็นฝีมือมนุษย์ต่างดาว ในอดีตเมื่อการยิงทดสอบขีปนาวุธผิดพลาดและเกิดระเบิดในบรรยากาศชั้นบนของโลกก็เคยมีรายงานพบแสงลักษณะเดียวกันนี้มาแล้ว
"มองในแง่ดี อย่างน้อยการทดลองขีปนาวุธรัสเซียครั้งนี้ถือเป็นการช่วยจุดพลุสวยๆ ให้ชาว นอร์เวย์ได้ชม" ปาเวล กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับปรากฏ การณ์ดังกล่าวมีการนำขึ้นไว้ในเว็บไซต์ยูทูบ ออกเผยแพร่ไปทั่วโลก ทำให้คนทั้งโลกได้มีโอกาสได้ดูและเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา