วันนี้ ( 4 ก.พ. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษว่า ทีมนักโบราณคดีชาวอังกฤษเปิดเผยภาพกะโหลกศีรษะมนุษย์ ที่มีการขุดพบภายใต้ลานจอดรถแห่งหนึ่งทางภาคกลางของประเทศ เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงมากว่า จะเป็นชิ้นส่วนในพระวรกายของ “พระเจ้าริชาร์ดที่ 3”

นายโจ แอพเพิลบีย์ จากหมาวิทยาลัยเลสเตอร์ ในฐานะหัวหน้าคณะนักโบราณคดีผู้ทำการค้นคว้าในเรื่องนี้ กล่าวถึง กะโหลกศีรษะที่ได้รับการขุดค้นพบภายใต้พื้นลานจอดรถสาธารณะแห่งหนึ่งในเมืองเลสเตอร์ ทางภาคกลางของประเทศ เมื่อเดือนก.ย.ปีที่แล้วว่า แม้จะอยู่ในสภาพเปราะบาง แต่มีกะโหลกชิ้นนี้ความสมบูรณ์มากอย่างไม่น่าเชื่อ เนื่องจากยังมีฟันเหลือครบทุกซี่ โดยมีจุดที่น่าสังเกตคือ รอยที่เกิดจากหัวลูกศรตรงปลายคาง และบาดแผลบริเวณด้านหลังของกะโหลก

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีคำยืนยันชัดเจนจากทีมผู้เชี่ยวชาญชุดนี้ว่า ชิ้นส่วนอวัยวะนี้จะเป็นของพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 อดีตพระมหากษัตริย์ ผู้ทรงขึ้นครองราชย์เมื่อปี 2026 ก่อนจะสวรรคตหลังทรงครองสิริราชสมบัติได้เพียง 2 ปี ในการต่อสู้ที่เมืองบอสเวิร์ธ เมื่อปี 2028 ขณะทรงมีพระชนมพรรษาเพียง 32 พรรษาจริงหรือไม่

ทีมงานจึงทำการขอตัวอย่างลักษณะทางพันธุกรรม หรือ ดีเอ็นเอ มาจากนายไมเคิล อิปเซ่น ช่างไม้ชาวอังกฤษเชื้อสายแคเนเดียน วัย 55 ปี ผู้ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 17 ของพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 เพื่อเปรียบเทียบกับตัวอย่างดีเอ็นเอจากกะโหลกศีรษะที่มีการค้นพบ ก่อนจะมีการแถลงผลอย่างเป็นทางการในวันนี้ เวลา 10.00 น. ตามเวลามาตรฐานสากล ( 17.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย )

ทั้งนี้ นักโบราณคดีเชื่อกันว่า พระบรมศพของพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 ถูกฝังอยู่ภายในโบสถ์ “ฟรานซิสกัน แฟรรีย์ ออฟ เกรย์ แฟร์ส” ในเมืองเลสเตอร์ ทว่ากลับไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดเกี่ยวกับตำแหน่งของโบสถ์แห่งนี้ ยกเว้นข้อมูลที่ระบุว่า โบสถ์ถูกรื้อทิ้งเมื่อกว่า 480 ปีก่อน