ความคืบหน้ากรณี ร.ต.ต.ประยงค์ นากองศรี รองสารวัตรป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สภ.ท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ ถูกนายไพรัตน์ วงค์ชาลี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีค้ายาเสพติด ค้าไม้พะยูง มีอาวุธสงคราม พยายามฆ่าเจ้าหนักงาน ยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ระหว่างเข้าทำการตรวจค้นจับตัวนางอุมา แสนกุง ผู้ต้องหาค้ายาบ้า ภรรยานายไพรัตน์ พร้อมขโมยรถของตำรวจหลบหนีไป ซึ่งหลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ได้ลงพื้นที่ติดตามคดีด้วยตนเองและสั่งการตำรวจทุกพื้นที่เร่งติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้อย่างเร่งด่วน จนสามารถพบรถยนต์ที่คนร้ายจอดทิ้งไว้ในจังหวัดอุดรธานี

 ล่าสุดเมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 4 ก.พ. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 สั่งการให้ พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ นำกำลังชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ชุดสืบสวนสภ.ท่าทันโค จังหวัดกาฬสินธุ์ ชุดสืบสวนสภ.กระนวน จังหวัดขอนแก่น และหน่วยอรินทราชหรือหน่วยคอมมานโดตำรวจภูธรภาค 4 กว่า 50 นาย พร้อมอาวุธครบมือเข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นบ้านในบ้านคำเจริญ ตำบลหัวนาคำ อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของนางวิลัยภรณ์ แสงมณี อายุ 40 ปี อดีตภรรยานายไพรัตน์ วงค์ชาลี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีค้ายาเสพติด คดีค้าไม้พะยูง คดีมีอาวุธสงคราม และคดีพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ หลังมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสว่านายไพรัตน์ หนีเข้ามาหลบซ่อนตัวเพื่อรักษาบาดแผลที่ถูกยิงภายในบ้านหลังดังกล่าว    

 โดยปฏิบัติการครั้งนี้เจ้าหน้าที่ต้องกระจายกำลังปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าวไว้ทุกด้านและหน่วยคอมมานโดที่เข้าตรวจค้นต้องทำอย่างระมัดระวัง เนื่องจากคนร้ายรายนี้มาอาวุธปืนและพร้อมที่จะต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา ซึ่งก็ไม่พบตัวนายไพรัตน์แต่อย่างใด พบเพียงนางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ลูกสาวนายไพรัตน์ พร้อมเพื่อนชายอายุ 16 ปี และ13 ปี ที่กำลังมั่วสุมเสพยาบ้าภายในบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้สอบสวน และเข้าค้นภายในบ้าน

 จากการตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 35 เม็ด ยาไอซ์ 0.20 กรัม เงินสด 57,000 บาท อาวุธปืนขนาด.22 และกระสุนปืนขนาด .22 อีก 37 นัด อยู่ในกระเป๋าภายในบ้าน และยึดรถจักรยานยนต์ 4 คัน ซึ่งนางสาวเอ รับสารภาพว่ายาบ้าทั้งหมดเป็นของตนที่รับมาจากวัยรุ่นคนหนึ่งในหมู่บ้าน ส่วนอาวุธปืนก็เอาไว้ป้องกันตัว แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากนางสาวเอ พร้อมเพื่อนอายุยังน้อย คาดว่ายาบ้าทั้งหมดน่าจะเป็นของนายไพรัตน์ ที่นำมาให้ลูกสาวเป็นผู้นำไปขาย ส่วนอาวุธปืนก็น่าจะเป็นของนายไพรัตน์ ที่ให้ลูกสาวไว้ป้องกันตัว   

             
 พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุพล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 สั่งการให้ตำรวจลงพื้นที่ติดตามไล่ล่า จนกระทั่งสามารถพบรถยนต์ที่คนร้ายขโมยไปที่จังหวัดอุดรธานี ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังเชื่อว่านายไพรัตน์ น่ายังจะหลบหนีอยู่ในพื้นที่ใน 3 จังหวัด ทั้งในอำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดหนองคาย เพราะคนร้ายได้รับบาดเจ็บอยู่ อย่างไรก็ตามหากประชาชนพบเห็นผู้ต้องหารายนี้ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที เนื่องจากถือว่าเป็นบุคคลอันตราย และมีหมายจับหลายคดี