เมื่อเวลา 20.50 น. วันที่ 3 ก.พ. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า พ.ต.ท บำรุง วสุนธรานิติกุล พงส.สบ.3 สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งชนรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิตคาที่เกิดเหตุ 2 ศพ เหตุเกิดที่บนถนนแสงชูโตขาเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี ช่วงเยื้องกับ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ต.ปากแพรก เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี หลังจากรับแจ้งเหตุพ.ต.ท.บำรุงรีบออกเดินทางพร้อมแพทย์เวรจากรพ.พหลพลพยุหเสนา เพื่อตรวจที่เกิดเหตุและชัณสูตรพลิกศพ
ในที่เกิดเหตุพบศพ 2 ศพ เป็นหญิง ตรวจสอบหลักฐานทราบว่า คือ นางสายพิน ด้วงปลี อายุ 49 ปี อยู่ม.8 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี สภาพศพเสียชีวิตข้างฟุตบาท มีบาดแผลที่ฉีกขาดที่บริเวณคางและรอยถลอกบริเวณหน้าอก เสียชีวิตคาที่เกิดเหตุ ส่วนอีกศพห่างจากศพแรก 3 เมตร คือ นางสาวโสภิศ ด้วงปลี อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของนางสายพิณ นอนคอหักคว่ำหน้า ห่างจากศพประมาณ 60 เมตร พบ รถยนต์เก๋ง โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กฉ-7383 กาญจนบุรี จอดอยู่ข้างทาง โดยมีกันชนด้านหน้ามีท้ายรถจักรยานยนต์ เวฟ 110 ซีซี สีดำ-ขาว ทะเบียน ขตฉ-299 กาญจนบุรี ติดอยู่ในลักษณะที่ท้ายรถติดกับกันชนรถยนต์ แต่ไม่พบผู้ขับขี่รถเก๋งคันดังกล่าว
จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าผู้เสียชีวิต 2 คนแม่ลูกได้ขับจักรยานยนต์มาและรถยนต์เก๋งคงวิ่งตามมาด้วยความเร็วและชนท้ายรถจักรยานยนต์อย่างแรง ทำให้สองแม่ลูกคนใดคนหนึ่งกระเด็นลอยกระแทกกับกระจกหน้ารถทำให้กระจกแตกร้าวทั้งแผ่นและความแรงทำให้ศพกระเด็นตกไปที่พื้นถนนส่วนอีกคนก็กระเด็นไปบนฟุตบาทโดยความแรงทำให้ทั้งคู่เสียชีวิตทันทีคาที่เกิดเหตุ
ส่วนรถเก๋งที่วิ่งชนทั้งคนและรถด้วยความแรงทำให้รถจักรยานยนต์ช่วงท้ายติดกับกันชนหน้าและลากรถติดกับหน้ารถเก๋งต่อไปจากจุดเกิดเหตุ หลังจากนั้นคนร้ายที่ขับรถยนต์เก๋งได้ขับขี่รถต่อไปซึ่งห่างจากจุดเกิด 60 เมตร ต่อจากนั้นจึงจอดรถทิ้งไว้ข้างทางและอาศัยความชุลมุนหลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป