อุตสาหกรรมบ่อนกาสิโนกำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วเอเชีย เพื่อสนองตอบผู้คนที่ชื่นชอบการพนันเป็นชีวิตจิตใจ ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่บ่อนที่มีเทคโนโลยีชั้นสูงอย่างเกาหลีใต้ไปจนถึงเนปาล ประเทศแถบเทือกเขาหิมาลัย และเวียดนาม แต่บ่อนกาสิโนเหล่านี้มักต้อนรับชาวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยสนับสนุนให้คนท้องถิ่นเข้าไปเล่น ทำให้กาสิโนเป็นแหล่งรายได้สำคัญในการดึงดูดเงินตราต่างประเทศ
ไม่เพียงแค่นั้น กาสิโนยังเป็นตัวกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่ และส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น ขณะที่ มาเก๊า ซึ่งปัจจุบันเป็นศูนย์กลางการพนันที่ใหญ่สุดของโลก มีรายได้พุ่งพรวดร้อยละ 13.5 สร้างรายได้มากเป็นประวัติการณ์ถึง 38,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.1 ล้านล้านบาท เมื่อปี 2555 แต่ก่อให้เกิดผลกระทบทางสังคม เช่น ติดการพนัน และบ้านแตกสาแหรกขาด อีกทั้งนำไปสู่การทำผิดกฎหมาย เช่น ปล่อยกู้นอกระบบ คิดดอกเบี้ยมหาโหด หลายประเทศในเอเชียกำลังดำเนินความพยายามไปพร้อม ๆ กัน นั่นคือ การสร้างบ่อนกาสิโน แต่ห้ามหรือจำกัดอย่างเข้มงวดต่อการเข้าไปเล่นพนันของพลเมืองตัวเอง
คิม จิน-กอน ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวในสังกัดกระทรวงวัฒนธรรมเกาหลีใต้บอกว่า คนเกาหลีมีความหวั่นไหวง่ายต่อการเสพติดพนัน และความรู้สึกของเราคือ คนเกาหลีขาดวุฒิภาวะ และสนุกกับการเล่นพนัน ทำให้รัฐบาลต้องห้ามคนเกาหลีเข้าบ่อน เพราะผลที่ตามมามันร้ายแรงอย่างยิ่ง
เกาหลีใต้ไม่ได้มีกฎห้ามชาวโสมเข้าไปเล่นเสียทีเดียว เนื่องจากกาสิโนที่ถูกกฎหมาย 17 แห่ง ในประเทศนั้น บ่อนแห่งเดียวคือกาสิโนสถานตากอากาศกังวอน แลนด์ รีสอร์ท ห่างจากกรุงโซลหลายร้อยกิโล เมตร เปิดให้คนเกาหลีเข้าไปเล่นได้ กังวอน แลนด์ รีสอร์ทดึงดูดนักท่องเที่ยวเฉลี่ยวันละ 10,000 คน สร้างรายได้เพิ่มขึ้นเกือบ 1.2 ล้านล้านวอน หรือราว 330,000 ล้านบาท เมื่อปี 2554 ถือเป็นตัวเลขที่มากกว่ารายได้ของกาสิโน 16 แห่งที่รับเฉพาะชาวต่างชาติรวมกันเสียอีก ถึงแม้เกาหลีมีกฎเข้มงวดสำหรับคนที่เข้าไปเล่นพนันเดือนละมากกว่า 15 วัน เช่น ต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชน และกำหนดให้วางเดิมพันสูงสุด 300,000 วอน หรือราว 8,400 บาท
อย่างไรก็ตาม มีเสียงเรียกร้องอย่างหนาหูให้บ่อนกาสิโนแห่งอื่น ๆ ยอมให้คนเกาหลีเข้าไปเล่น แต่รัฐบาลปฏิเสธและยืนกรานว่า กังวอน แลนด์ คือโครงการที่รัฐสร้างขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ส่วนคิม เตือนว่า บ่อนกาสิโนแห่งอื่น โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ หากเปิดเสรี จะทำให้คนเกาหลีเข้าไปเล่นเป็นจำนวนมาก จนไม่เหลือพื้นที่สำหรับชาวต่างชาติ
ส่วนเนปาลและเวียดนาม ดำเนินนโยบายบ่อนกาสิโนที่ให้ชาวต่างชาติเข้าไปเล่นได้เท่านั้น ซึ่งเวียดนามเปิดบ่อนกาสิโนแห่งแรกเมื่อปี 2535 แต่ปัจจุบันนี้เวียดนามมีกาสิโน 7 แห่ง แม้คนเวียดนามถูกห้ามเล่นกาสิโนในประเทศ ทว่าพวกเขาสามารถเดินทางข้ามพรมแดนเข้าบ่อนกาสิโนในกัมพูชา รวมทั้งนักพนันจากบ้านเราก็เข้าบ่อนเขมรอยู่บ่อย ๆ.