เมื่อเวลา 10.00.น วานนี้ (2 กุมภาพันธ์) ที่โรงพยาบาลวิภาวดี ห้อง เลขที่ 3611 ชั้น 16 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือ จาก น.ส.เพ็ญพิชาญ เรนุมาร อายุ 35 ปี ที่ได้รับเจ็บ หลังจากเกิดอุบัติเหตุบนเครื่องบิน สายการบินนกแอร์ โดยทำให้หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนจนไม่สามารถที่จะช่วยตัวเองได้ และกลัวว่าตัวเองจะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากสายการบิน
น.ส.เพ็ญพิชาญ และสามี น.ส.เพ็ญพิชาญ เปิดเผยกับทางผู้สื่อข่าว ขณะนอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียงผู้ป่วย มีการให้น้ำเกลือที่บริเวณแขนซ้าย โดย มี นายเรมัน แฮนซัน สามี อยู่เคียงข้าง ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมาเวลาประมาณ 20.00 น. โดย ตนเองพร้อมด้วย สามีเดินทางกลับจากจังหวัดพิษณุโลก ด้วยสายการบินนกแอร์ เที่ยวบิน ดีดี-8421 บินจากจังหวัดพิษณุโลก เมื่อเวลา 20.00 น. มีกำหนดถึงปลายทางที่สนามบินดอนเมือง 21.10 น.
น.ส.เพ็ญพิชาญ เล่าว่า เมื่อเครื่องบินบินขึ้น จากสนามบิน จ.พิษณุโลก ได้ประมาณ 20 นาที ได้มีประกาศจากเครื่องว่า ให้ผู้โดยสารทำการรัดเข็มนิรภัย เนื่องจากอากาศบริเวณด้านนอกแปรปรวน และสักพักเครื่องบินได้ตกหลุมอากาศอย่างรุนแรงถึงขนาดเครื่องเอียง และมีการกระแทกอย่างแรงหลายครั้ง จนกระทั่งถึงสนามบินดอนเมือง ตนเองมีอาการเจ็บบริเวณสันหลัง จนไม่สามารถเดินได้ จนต้องช่วยกันพยุงลงจากเครื่อง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ของสายบิน จะเรียกหมอและนำตัวขึ้นรถเข็น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลวิภาวดีในเวลาเที่ยงคืน
"เมื่อถึงที่ รพ.ทางแพทย์ได้ทำ การเอ็กซ์เรย์และพบว่า หมอนรองกระดูกเคลื่อนและสั่งห้ามขยับตัว ซึ่งตนเองพยายามที่จะลุกขึ้นช่วยตัวเองแต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีอาการปวดอย่างรุนแรง ซึ่งขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล โดยแพทย์ไม่อนุญาตให้ลุกออกจากเตียง" น.ส.เพ็ญพิชาญกล่าว
น.ส.เพ็ญพิชาญเผยต่อว่า ต่อมาได้มีโทรศัพท์ติดต่อเข้ามาหาตนเอง แต่ไม่แจ้งชื่อ อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของสายการบินนกแอร์ ถามว่าจะออกจาก รพ.ได้เมื่อไหร่ ตนเองตอบว่า ยังไม่ทราบ เนื่องจากทางแพทย์ไม่อนุญาตให้ออก เพราะจะมีผลกระทบต่อการรักษา ซึ่งผู้ที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้บอกต่อว่า ค่ารักษาพยาบาลและค่าห้องพักรักษาตัว จะรับผิดชอบเพียงแค่ 3,000 บาทต่อคืนเท่านั้น ซึ่งจากการตรวจสอบของตนเอง พบว่าห้องที่นอนพักรักษาตัว มีราคาค่าห้องคืนละ 4,800 บาท ยังไม่รวมค่ารักษาพยาบาล
"ผู้ที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่นกแอร์ ยังขอให้รีบออกจาก รพ. ทั้งที่ดิฉันยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ประกอบกับวีซ่าของสามีใกล้จะหมดในวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ และอยากให้ทางสื่อมวลชน ช่วยเหลือเรื่องติดต่อกับเจ้าหน้าที่ สายการบินนกแอร์ ที่ต้องมารับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นอุบัติเหตุที่ดิฉันและสามี ไม่ได้เป็นคนก่อ" น.ส.เพ็ญพิชาญ กล่าวและว่า ได้พยายามติดต่อเจ้าหน้าสายการบินดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้บอกว่า ทางผู้บริหารกำลัง ปรึกษาหารือกันอยู่ และตนไม่ทราบว่าทางผู้บริหารรับทราบเรื่องนี้หรือไม่ อยากให้ผู้สื่อข่าวช่วยเป็นสื่อกลางในการติดต่อกับสายการบินนกแอร์ ในเรื่องความช่วยเหลือ ขณะเดียวกัน นายเรมัน สามี วีซ่าจะขาดในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ นี้ ด้วย ซึ่งสามีก็เป็นห่วงตนเอง เพราะอยู่ที่ รพ.ซึ่งในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ สามีจะเดินทางไปพบกับตำรวจท่องเที่ยว เพื่อทำเรื่องขอวีซ่าอยู่ประเทศไทยต่อ
ต่อมาเวลาประมาณ 17.45 น. วันเดียวกัน ทางผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังฝ่ายรับเรื่องร้องเรียนของนกแอร์ โดยมี นายสมศักดิ์ ดวงบุปผา เจ้าหน้าที่ของนกแอร์ เป็นผู้รับสาย แจ้งว่า จะเร่งตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นให้ โดยขอตรวจสอบรายละเอียดการเดินทางของผู้โดยสารทั้งสองที่ได้รับอุบัติเหตุ เพื่อทำรายงานไปยังหน่วยงานฝ่ายที่รับผิดชอบดำเนินการ และตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่นกแอร์ติดต่อไปเจรจากับผู้โดยสารที่ได้รับอุบัติเหตุอย่างไร โดยเบื้องต้นทางนกแอร์ได้ทำประกันอุบัติเหตุเพิ่มไว้ และจะรีบติดต่อไปยังผู้โดยสารทั้งสอง