(3 ก.พ.) เจ้าหน้าที่บ้านพักฯ เริ่มเครียด โรฮิงญา ออกลาย อยู่ไปวันๆ ได้คืบเอาศอก ใช้เด็กกำพร้าทำงานแทน วอนให้รัฐบาลเร่งจัดการปัญหาโรฮิงญาด่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีชาวโรฮิงญาอพยพเข้าสู่ประเทศไทย ยังคงเป็นปัญหาระดับภูมิภาคที่ทางการกำลังดำเนินการแก้ไขและหาทางออกด้วยวิธีที่เป็นธรรมที่สุด ส่วนชีวิตความเป็นอยู่ของชาวโรฮิงญาในขณะนี้เป็นไปด้วยดี แม้ว่าจะเริ่มเกิดปัญหาหนักใจให้แก่เจ้าหน้าที่บ้างแล้วก็ตาม
โดยเฉพาะที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรัง เขตเทศบาลเมืองตรัง ซึ่งมีชาวโรฮิงญาอพยพ อาศัยอยู่ 13 คน เป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 คน 12 คน และหญิงวัยกลางคน 1 คน ทั้งหมดได้ถูกส่งตัวมาจากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสงขลาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ช่วยเหลือดูแลเรื่องอาหารการกินและที่พักอาศัย
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรัง ค่อนข้างมีพื้นที่จำกัด ประกอบกับมีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ จึงประสบปัญหาในเรื่องของการพยายามจัดระบบ เพราะชาวโรฮิงญาที่อยู่อาศัยมาได้ราวๆ ครึ่งเดือน เริ่มมีการต่อต้านข้อตกลงและไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ทำตามใจตัวเอง ถึงขั้นเอาเปรียบและใช้งานเด็กเล็กที่อาศัยอยู่ที่บ้านพักเด็กฯ มาก่อนหน้านี้ด้วย
นางภารวี วัตตะสิงห์ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ช่วงแรกชาวโรฮิงญาส่วนใหญ่จะช่วยเจ้าหน้าที่ปรุงอาหาร ทำกับข้าว ล้านจาน หรือทำความสะอาด แต่ในช่วงหลังชาวโรฮิงญาได้พยายามสร้างเงื่อนไข ข้อต่อรองและไม่ยอมปฏิบัติตามกฎ บางคนไม่ยอมทำอะไรเลย นอกจากลงมากินข้าวและอาหารว่าง ก่อนกลับเข้าไปนอนที่บ้านพัก ปล่อยให้ภาระทั้งหมดตกอยู่ที่เจ้าหน้าที่ เพราะเห็นหน่วยงานหลายฝ่าย ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือจึงเกิดอาการได้คืบจะเอาศอก
เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรัง ยังบอกอีกว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทำงานหนักและเครียดมาก เพราะต้องจัดเตรียมอาหารให้กินวันละ 3 มื้อ ของว่างอีก 2 มื้อ เก็บกวาดและดูแลสถานที่ตลอด 24 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่บางคนเริ่มท้อใจในหน้าที่การงานบ้างแล้ว