เกิดเหตุกุฎิพระเก่าแก่อายุเกือบ 200 ปี ของวัดหนองดง ตำบลท่าเสา อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร ทรุดตัวพังลง
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นหลังพระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดหนองดง และดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะอำเภอโพทะเล ได้ว่าจ้างช่าง มาทำการยhายกุฎิ เพื่อทำการถมดิน ให้สูงขึ้น เพื่อหนีจากน้ำท่วม เนื่องจากที่วัดหนองดง มีพื้นที่ติดกับแม่น้ำยม และเกิดน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี ทางวัดจึงทำการปรับภูมิทัศน์ของวัดใหม่ และทำการย้ายกุฎิ ให้สูงจากน้ำท่วม โดยระหว่างการย้ายกุฎินั้น กุฎิซึ่งสร้างขึ้นจากไม้สัก และอายุเก่าแก่เกือบ 200 ปี เนื่องจากวัดแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยอยุทธยา ได้พังลงมา ทับรถบรรทุก 10 ล้อ ที่ช่างใช้ขนอุปกรณ์ โดยเฉพาะหลังคา ที่มีลักษณะหน้าจั่วสูง หน้าทำจากแผ่นไม้สัก แกะสลักเป็นลายไทยโบราณ ทั้ง 2 ด้าน พังลงมาเสียหายทั้งหมด จนทำให้หลังคาจากทรงไทยสูง กลายเป็นคล้ายตึก ทีไม่มีการสร้างหลังคา
นายแจ้ว ฉลวบอ่อนสุวรรณ์ กรรมการวัด ที่อยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ตนเองกำลังควบคุมงานการกก่อสร้างอยู่นั้น กุฎิหลังดังกล่าว ก็มีเสียงลั่นดัง และเอียงลงมาอยู่กบพื้น คนงานที่กำลังทำงานพยามวิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่น
ด้านพระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดหนองดง เปิดเผยว่า กุฎิหลังนี้เก่าแก่มาก เพราะสร้างในสมัย อยุธยาตอนปลาย คาดว่า มีอายุราว 200 ปี โดยจากการดูส่วนประกอบในการก่อสร้างวัด พบว่าวัดแห่งนี้เป็นวัดที่สร้างขึ้นมามีพระอุโบสถ เก่าแก่ เป็นเสมาไม้คู่ ซึ่งจะเป็นวัดที่พระมหากษัตย์ หรือเจ้าขุนมูลนายชั้นสูง เป็นผู้สร้างวัด แต่ไม่ปรากฎปีและ มีการใช้เงินสร้างกุฎิ ไม้สัก หลังนี้ ใช้เงิน ก่อสร้างทั้งสิ้นจำนวน 500 บาท ซึ่งก็เป็นเงินที่สูงมาก ในสมัยนั้น ‘
พระครูพิสุทธิวรากร เปิดเผยอีกว่า ทางวัดและชาวบ้านพยามที่จะออกบอกบุญกับชาวบ้าน เพื่อหาเงินมาทำการปรับภูมิทัศน์วัด โดยเฉพาะการถมดินให้สูง เพื่อให้พ้นจากน้ำท่วมซ้ำซาก แต่เมื่อมาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ซึ่งกุฎิเก่าแก่ เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน มาพังลงโดยเฉพาะหลังคา ทำให้ เหลือเพียงส่วนล่างทางวัดยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป