ฆ่าโหดเจ๊เงินกู้วัย 36 หมกศพในคอนโดฯย่านบางปู สมุทรปราการ ตร.ใช้เวลา 3 ชั่วโมงตามล่าก่อนจับน้องชายผู้ตายที่มีพฤติกรรมข้องเกี่ยวยาเสพติด โดยผู้ต้องหาสารภาพตั้งใจมาขอเงิน แต่พี่ไม่ให้ เลยลงมือสังหาร แล้วฉกแหวนทองคำ 1 สลึงและเงินสดห้าพันไป สำหรับคนตายเป็นสาวโรงงานฟอกหนัง มีรายได้พิเศษจากการปล่อยเงินกู้กินดอก
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 2 ก.พ. ร.ต.ท. ศักดิ์ศิริ จันทร์งาน พนักงานสอบสวน สภ. บางปู อ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งเหตุพบศพหญิงสาวถูกฆ่าตายในห้องพักเบอร์ 506 ชั้น 5 อาคารบางปูนครคอนโด ถ.สุขุมวิท ก.ม.34 ต.บางปูใหม่ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.นครพัฒน์ พรหมพันธ์ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.วัชรินทร์ ประสพดี รองผบก.สมุทรปราการ พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผกก.สภ.บางปู พ.ต.ท.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.จรูญโรจน์ วิฑิตโชติปรีดา สว.สส. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน แพทย์เวร ร.พ.สมุทรปราการ และอาสาสมัครมูลนิธิเข้าตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุภายในห้องพักดังกล่าว บริเวณกลางห้องห่างจากประตูทางเข้าประมาณ 2 เมตร พบศพหญิงสาว ทราบชื่อ นางศิริพร อยู่เป็นสุข อายุ 36 ปี บ้านเดิมเลขที่ 42/2 ม.6 อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ สวมเสื้อยืดสีเขียว กางเกงสแล็กส์ขายาวสีดำ ใส่ถุงเท้าทั้งสองข้าง ใกล้กันมีรองเท้าผ้าใบวางอยู่ข้างประตูห้อง ตรวจสอบพบบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคม เป็นรูเล็กขนาด 0.5-1 ซ.ม. บริเวณใต้ราวนมซ้าย 2 แผล ราวนมขวา 2 แผล บริเวณลำคอมีสายไฟรัดแน่น จนศพลิ้นจุกปาก ที่ศีรษะยังพบเสื้อยืดหนึ่งตัวคลุมหัวไว้ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8-12 ช.ม. จึงมอบหมายมูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวช
สอบสวนนางมะลิวัลย์ กรีกรมภู่ อายุ 20 ปี ลูกสาวผู้ตายให้การว่า แม่ทำงานอยู่ที่โรง งานฟอกหนังชื่อ บ.อินเตอร์ไฮท์ จำกัด อยู่ฝั่งตรงข้ามที่พัก นอกจากนี้ยังหารายได้เสริมโดยการปล่อยเงินกู้กินดอกเบี้ย ให้แก่พนักงานโรงงานเดียวกันและเพื่อนบ้านใกล้เคียง ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนซึ่งพักอยู่ที่ซอยเคหะสมุทรปราการ ได้โทรศัพท์มาหาแม่และบอกว่าให้โอนเงินไปให้ครอบครัวที่ต่างจังหวัด 30,000 บาท ซึ่งแม่ก็ตกปากรับคำว่าช่วงเย็นจะจัดการให้ แต่จนถึงตอนเย็นโทรศัพท์มาหาแม่กลับติดต่อไม่ได้ จึงพยายามโทร.หาอย่างต่อเนื่อง จนถึงเช้าวันเดียวกันนี้ได้ตัดสินใจมาหาแม่ที่ห้องพัก กลับพบว่าประตูหน้าห้องถูกล็อกแม่กุญแจคาไว้ ก่อนติดต่อเจ้าหน้าที่ รปภ.ให้มาไขเปิดห้องก็พบว่าแม่ถูกฆ่าตายเสียชีวิต
พ.ต.อ.วิชิตกล่าวว่า คดีนี้คนร้ายน่าจะเป็นคนรู้จักกับผู้ตาย เดินทางมาหาที่ห้องพักก่อนใช้สายไฟรัดคอพร้อมทั้งใช้เหล็กขูดชาฟต์เป็นอาวุธแทงซ้ำจนผู้ตายเสียชีวิต ก่อนรื้อค้นทรัพย์สิน พร้อมหลบหนี ซึ่งจากข้อมูลตรวจสอบพบว่าทรัพย์สินที่สูญหายไปประกอบไปด้วย สร้อยคอทองคำ หนัก 2 สลึง 1 เส้น ที่ผู้ตายสวมใส่เป็นประจำ และเงินสดจำนวนกว่า 50,000 บาท ซึ่งส่วนหนึ่งเตรียมนำไปโอนที่ธนาคารในห้างสรรพสินค้าใกล้ที่เกิดเหตุให้ครอบครัวที่ต่างจังหวัด ขณะช่วงเวลาที่ลงมือคาดว่าเป็นช่วงเย็นจนถึงค่ำ เมื่อวานนี้ที่ผ่านมาและมีการเตรียมก่อเหตุมาก่อนล่วงหน้า ส่วนประเด็นการลงมือพุ่งเป้าไปที่เหตุฆ่าชิงทรัพย์ แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นขัดแย้งส่วนตัวจากเรื่องเงินกู้ และประเด็นเรื่องส่วนตัวทิ้งไป
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบ ว่า ผู้ที่ก่อเหตุเป็นน้องชายของผู้ตาย ชื่อนายอนุชา อยู่เป็นสุข อายุ 23 ปี หลังเกิดเหตุนายอนุชาได้มาที่ สภ.บางปู พร้อมญาติเพื่อมาขอหลักฐานในการรับศพของน.ส.ศิริพร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวไปสอบสวน และเช็กประวัติ จนทราบว่านายอนุชามีประวัติข้องเกี่ยวกับยาเสพติด จึงได้สอบสวนจนผู้ต้องหารับสารภาพ
โดยนายอนุชาให้การว่า ได้มาขอเงินแต่ พี่สาวไม่ให้และได้ดุด่าตน ก่อนเกิดเหตุตน เองได้มาหาผู้ตายที่ห้องดังกล่าว โดยพกกรรไกรมาด้วย เมื่อพี่สาวเปิดประตูตนจึงได้ผลักพี่สาวเข้าไปในห้อง แล้วใช้กรรไกรแทงเข้าที่หน้าอกไป 3 แผล จนพี่สาวล้มลงไปที่พื้นห้องตนจึงได้เดินไปที่บริเวณด้านหลังแล้วใช้สายไฟหม้อหุงข้าวมารัดคอ จากนั้นตนได้ใช้ผ้าชุบน้ำมาปิดที่ปากของพี่สาวอีก หลังจากนั้นได้รื้อค้นได้เงินสดไปประมาณ 5 พันบาท และแหวนทองหนัก 1 สลึง และได้ไปพักที่ห้องของอาคารที่ติดกัน จนเมื่อพบศพจึงได้ทำทีไปกับญาติเพื่อขอหลักฐานรับศพ จนถูกตำรวจจับกุมดำเนินคดีดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงในการตามจับตัวนายอนุชาที่มีพฤติกรรมข้องเกี่ยวกับยาเสพติด จนผู้ตายยึดบัตรเครดิตของผู้ต้องหาคืนและไม่ให้เงิน ผู้ต้องหาใช้ ส่วนเงินสด 5 หมื่นบาทที่คาดว่าหายไปหลังตรวจสอบพบว่ายังอยู่ในธนาคาร