วันนี้ ( 2 ก.พ. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า ทางการสหรัฐจัดพิธีรำลึกครบรอบ 1 ทศวรรษ โศกนาฏกรรมกระสวยอวกาศโคลัมเบียระเบิดกลางท้องฟ้า ขณะเดินทางกลับสู่พื้นโลกหลังเสร็จสิ้นภารกิจในอวกาศ ที่ทำให้ลูกเรือทั้ง 7 คนเสียชีวิตทั้งหมด
พิธีรำลึกดังกล่าวมีขึ้นเมื่อวันศุกร์ บริเวณอนุสรณ์สถาน สเปซ มิเรอร์ ภายในศูนย์อวกาศ เคนเนดี้ ในรัฐฟลอริดา โดยมีสมาชิกในครอบครัว ตลอดจนผู้ใกล้ชิดของนักบินอวกาศที่เสียชีวิตทั้ง 7 คน และเจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ ( นาซา ) เข้าร่วมงาน
ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ ที่แม้จะไม่สามารถปลีกตัวจากการปฏิบัติภารกิจมาเข้าร่วมงานได้ แต่ได้ส่งสาส์นร่วมแสดงความรำลึก และไว้อาลัยมายังตัวแทนขององค์การนาซาที่เข้าร่วมพิธี ขณะที่นายชาร์ลส โบเดน ผู้อำนวยการองค์การนาซา และเจ้าหน้าที่อีกจำนวนหนึ่งได้จัดพิธีรำลึกถึงการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ขององค์กร ภายในสุสานแห่งชาติ อาร์ลิงตัน ใกล้กับกรุงวอชิงตัน ซึ่งเป็นสถานที่ฝังศพนักบินอวกาศของกระสวยอวกาศโคลัมเบีย 3 ราย
โศกนาฏกรรมกระสวยอวกาศโคลัมเบีย เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2546 เมื่อกระสวยอวกาศลำดังกล่าว ซึ่งเป็นกระสวยอวกาศที่เก่าแก่ที่สุด และเป็นยานอวกาศลำแรกขององค์การนาซาที่มีการนำมาใช้งานจริง แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ขณะลอยอยู่เหนือน่านฟ้ารัฐเทกซัส ทั้งที่ใกล้จะถึงจุดหมายหลังออกไปปฏิบัติภารกิจบนห้วงอวกาศนาน 16 วัน ส่งผลให้นักบินอวกาศทั้ง 7 คน คือนายริค ฮัสแบนด์ กัปตัน นายวิลเลียม แมคคูล ผู้ช่วยกัปตัน พร้อมลูกทีมอีก 5 คน ได้แก่นายไมเคิล แอนเดอร์สัน นางลอร์เรล คลาร์ก นางคาลพานา ชอว์ลา นายเดวิด บราวน์ และนายไอแลน รามอน ซึ่งเป็นนักบินอวกาศคนแรกของอิสราเอล เสียชีวิตทั้งหมด
หลังเกิดเหตุ รัฐบาลสหรัฐร่วมกับองค์การนาซา ตั้งคณะกรรมการสืบสวนหาสาเหตุทันที ซึ่งผลการตรวจสอบบ่งชี้ว่า แผ่นโฟมกันความร้อนชิ้นหนึ่งหลุดออกจากถังเชื้อเพลิงมากระทบปีกด้านซ้ายของยาน ทำให้ระบบป้องกันความร้อนทั้งหมดขัดข้อง