เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 1 ก.พ. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า ร.ต.อ.อภิวัฒน์ พันธ์เลิศขจร ร้อยเวร สภ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุรถยนต์กระบะพลิกคว่ำที่ทางขึ้นเขาหัวช้าง ม.10 ต.ควนทอง อ.ขนอม รับแจ้งแล้วจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงพร้อมด้วยกับ พ.ต.อ.พิรุณ กลัดทอง ผกก.สภ.ขนอม นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า ตอนเดียว สีบรอนซ์เงิน มีหลังคา ทะเบียน ฒฉ-6874 กทม.พลิกคว่ำอยู่ในสภาพพังยับเยิน มียาแก้ไอยี่ห้อต่างๆ แตกกระตาย
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบไม่พบคนขับแต่อย่างใด จึงตรวจยึดรถกระบะคันดังกล่าวและยาแก้ไอทั้งหมดรวม 200 ลัง ๆ ละ 100 ขวด รวมยาแก้ไอทั้งหมดจำนวนประมาณ 20,000 ขวด ไปทำการบันทึกการตรวจที่ สภ.ขนอม โดยให้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจนับยาแก้ไอดังกล่าว บางส่วนแตกเสียหาย และในส่วนที่ไม่แตกยังเหลืออีกเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ยาแก้ไอดังกล่าวนี้เป็นส่วนผสมของยาเสพติดสูตร 4 คูณ 100 ที่วัยรุ่นนิยมนำไปต้มรวมกับใบพืชกระท่อมและน้ำอัดลมก่อนเสพกัน
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีรถยนต์กระบะ 2 คัน แล่นตามหลังกันมาตามถนนจากทาง จ.สุราษฎร์ธานี มุ่งหน้าไปยัง จ.นครศรีธรรมราช โดยรถยนต์คันที่เกิดอุบัติเหตุคันดังกล่าวนั้นแล่นนำหน้า อีกคันแล่นตามหลัง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางลาดชันขึ้นเขา รถคันดังกล่าวได้พยายามเร่งเครื่องแต่ปรากฏว่าล้อหลังด้านขวาเกิดระเบิด ทำให้เสียหลักพลิกคว่ำ ขณะที่คนขับซึ่งมาด้วยกัน 2 คน ไม่ทราบชื่อได้ออกจากตัวรถ แล้ววิ่งไปขึ้นรถคันที่ขับตามหลังมาหลบหนีไปทันที โดยทิ้งรถคันที่เสียหลักไว้ในที่เกิดเหตุ
เบื้องต้น พ.ต.อ.พิรุณ กลัดทอง ผกก.สภ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้กำลังตำรวจออกตามล่ารถอีกคันที่รับคนขับหลบหนีแต่ไร้ร่องรอย พร้อมประสานงานกับตำรวจ สภ.สิชล และ สภ.ท่าศาลา เพื่อสกัดแต่ไร้วี่แวว อย่างไรก็ตามทางตำรวจเชื่อว่ายาแก้ไอดังกล่าวนั้นน่าจะนำมาจากกรุงเทพฯ และไปส่งที่ร้านค้าต่างๆ ในภาคใต้ และมีการลักลอบจำหน่ายให้กับวัยรุ่นนำไปเป็นส่วนผสมของยาเสพติดสูตร 4 คูณ 100 ที่เป็นที่นิยมในขณะนี้ โดยจะตรวจสอบว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นของใคร เพื่อติดตามตัวคนขับมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป