เพราะความจนคำเดียวที่ทำให้ครอบครัวแรงงานนับล้านไม่ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา
แต่ คุณแม่หลี่ ชุนเฟิง หญิงจีนวัย 29 ปี พิสูจน์ให้โลกเห็นแล้วว่าความรักของแม่นั้นแสนยิ่งใหญ่เหนือกำแพงใดๆ
ว็อตส์ ออนเซียะเหมินรายงานว่า คุณแม่หลี่สร้างวีรกรรมสมกับคำว่า "แม่คือพรหมของลูก" โดยบึ่งมอเตอร์ ไซค์ทั้งวันทั้งคืนจากมณฑลเจ้อเจียงกลับไปยังบ้านที่เมืองฉงชิ่ง เพื่อพบหน้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวน หลังฝันร้ายว่าลูกน้อยถูกทิ้งให้อยู่บ้านคนเดียว ตามเนื้อตัวเต็มไปด้วยคราบเลือดและต้องแย่งอาหารกับหนูเพื่อเอาชีวิตรอด
แต่ หลังจากถึงบ้านแล้ว คุณแม่หลี่สารภาพว่า ไม่ได้ตั้งใจจะขับมอเตอร์ไซค์นันสต็อปกว่า 6 วัน เป็นระยะทางกว่า 2 พันกิโลเมตร เพื่อฝ่าอากาศอันหนาวเหน็บถึงขั้วหัวใจกลับไปหาลูกน้อย
"ฉัน ตกใจมาก กลัวว่าจะเป็นลางร้ายจึงรีบโทร.หาครูที่โรงเรียนอนุบาล พอคุณครูรับสายฉันก็รู้ว่าลูกชายคิดถึงฉันมาก เขาร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด
ชั่ววินาทีนั้นฉันตัดสินใจคว้าข้าว ของแพ็กลงกระเป๋า เข็นมอเตอร์ไซค์มือสองที่เพิ่งซื้อมาเมื่อเดือนที่แล้วบึ่งไปหาลูกทันทีโดย ไม่ขออนุญาตจากเจ้านายสักคำ
ตอนแรกฉันกะว่าจะขี่ไปต่อรถไฟในตัว เมือง แต่เพิ่งคิดได้ว่าไม่มีที่จอดจักรยานยนต์ ฉันถามพนักงานว่าจะเอามอเตอร์ไซค์ไปด้วยได้ไหม เขาบอกต้องเสียค่าขนส่ง 300 หยวน (ราว 1,400 บาท) ซึ่งมันเยอะมากสำหรับฉันที่ทำงานในร้านอาหารและได้เงินเดือนเพียง 1,200 หยวน (ราว 5,600 บาท)
ฉันต้องประหยัดเงินมากถึง กับต้องเอาสบู่มาผสมกับผงซักฟอกเพื่ออาบน้ำและสระผมเพื่อเก็บเงินเป็นค่า เลี้ยงลูก เงินขนาดนั้นฉันไม่จ่ายหรอก"
นางหลี่เปิดใจ และเผยต่อไปว่า เมื่อ 5 ปีที่แล้วตัดสินใจออกจากบ้าน เพื่อหางานทำเป็นสาวเสิร์ฟในภัตตาคารแห่งหนึ่งที่มณฑลเจ้อเจียง หลังจากที่ก่อนหน้านี้สามีต้องออกไปหางานทำที่มณฑลอื่นเช่นกัน
ความ ยากจนเป็นอุปสรรคทำให้ครอบครัวของตนไม่อาจอยู่ด้วยกันได้ ทิ้งให้เจ้าตัวเล็กอยู่กับญาติเขย และพบหน้ากันได้ปีหนึ่งหนเดียวในช่วงตรุษจีน
"ฉันแค่อยากเจอลูกของฉันให้เร็วที่สุด บนถนนนั้นมีแต่เสียงคำว่า "ต้องกลับบ้าน ต้องหาลูก" ดังก้องอยู่ในหัวของฉัน"
แม้ คุณแม่หลี่จะซื้อแผนที่มาแล้ว แต่เธอก็อ่านไม่ออกเพราะมีความรู้แค่ ป.2 "ฉันทำได้แค่ถามทางจากชาวบ้านระหว่างทาง โชคดีที่พวกเขาทุกคนเป็นคนดีและหลายคนยังวาดแผนที่ให้ฉันด้วย" นางหลีเผยวิธีแก้ปัญหา
เพื่อให้กลับบ้านเร็วขึ้นคุณแม่ หัวใจเหล็กจึงวางแผนว่าจะขี่มอเตอร์ไซค์ฝ่าความมืดในเวลากลางคืนด้วย โดยสวมเสื้อหลายๆ ชั้นกันความหนาว และใช้เสื้อโค้ตสีน้ำเงินหนาที่คนงานก่อสร้างใช้เวลาทำงานคลุมร่างกายอีก ชั้น
"ฉันสูงประมาณ 160 เซนติเมตรกว่าๆ ถ้าฉันไม่พูดใครๆ ก็คิดว่าฉันเป็นผู้ชาย ฉันเหมือนคนงานจากไซต์งานใกล้ๆ นี้" คุณแม่หลี่กล่าวยิ้มๆ
ตลอด การเดินทางนางหลี่หยุดพักทุกๆ 6 ชั่วโมง หากเป็นตอนกลางวันเธอจะอาศัยงีบหลับตามใต้ต้นไม้หรือก้อนหินข้างถนน ส่วนตอนกลางคืนเธอจะจอดมอเตอร์ไซค์และขดตัวนอนอยู่ข้างทาง
อุปสรรค เริ่มรุกรานเข้ามาท้าทายนางหลี่ เพราะเมื่อล่วงถึงวันที่สาม คุณแม่ใจเด็ดเริ่มปวดหัวเหมือนจะระเบิดเพราะลมที่ตีใส่หน้าทุกวี่ทุกวัน
เธอต้องแวะร้านขายยาเพื่อซื้อยาสามัญนิดหน่อย ก่อนจะจ่ายเงินเกือบ 100 บาทเพื่อนอนพักร่างกายที่อ่อนล้าในโรงแรม 4 ชั่วโมง
"พอ เข้าวันที่สี่ฉันเริ่มรู้ตัวว่าใกล้ถึงขีดจำกัดแล้ว แต่ฉันต้องไปหาลูกให้ได้ เลยขี่มอเตอร์ ไซค์ไม่หยุดทั้งวันทั้งคืน เพื่อกลับไปบ้านให้เร็วที่สุด 2-3 วันหลังจากฉันไม่ได้นอนเลย ฉันซื้อบะหมี่ถ้วยและขนมปังกรอบกินประทังชีวิต ส่วนหมากฝรั่ง 20 อันที่ซื้อเป็นเสบียงก่อนออกเดินทางก็ช่วยให้ฉันไม่หลับระหว่างขี่มอเตอร์ ไซค์"
นางหลี่กล่าว และเผยเคล็ดลับว่า เพื่อจะได้ไม่ต้องเข้าห้องน้ำบ่อยๆ จึงตัดสินใจดื่มน้ำเพียงครึ่งขวดตั้งแต่เดินทาง 6 วัน เพราะเป็นผู้หญิงจะไม่สะดวกมากๆ เมื่อต้องหาห้องน้ำกลางถนน
หลัง จ่ายค่าแก๊สไป 250 หยวนหรือราว 1,200 บาท กินน้ำไปครึ่งขวด พักโรงแรมเป็นเวลา 4 ชั่วโมง และเคี้ยวหมากฝรั่งไป 19 อัน ในที่สุด เมื่อล่วงถึงวันที่หก ล้อมอเตอร์ไซค์ของนางหลี่ก็หยุดการเดินทางอันแสนเหนื่อยล้าที่หน้าโรงเรียน อนุบาล คุณแม่หลี่ได้พบหน้าลูกชายที่เป็นเหมือนดั่งดวงใจ สิ่งแรกที่เธอทำคือยื่นหมากฝรั่งชิ้นสุดท้ายให้ลูก ก่อนจะใช้สองมือตระกองกอดลูกน้อยและปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น
เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ คุณแม่ผู้เหนื่อยล้าก็หอบจิตใจอันชื่นบานกลับบ้าน...และนอนซมไม่สบายไปถึง 10 วันเต็มๆ
วีรกรรม ทำเพื่อลูกของผู้หญิงตัวเล็กๆ ในครั้งนี้โด่งดังไปถึงชาวไซเบอร์ จนกลายเป็นกระแสร้อนฉ่าในโลกอินเตอร์เน็ต หลายความเห็นเข้ามาคอมเมนต์ยกย่องคุณแม่สุดประเสริฐ และซาบซึ้งกับความรักอันบริสุทธิ์ของนางหลี่
ทุกคนหวังว่านางหลีจะสามารถหางานใกล้บ้านทำได้..
และมีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้น