สำนักข่าวเอพีรายงานว่า บริษัทโตโยต้ามอเตอร์ที่กรุงโตเกียวได้ออกประกาศเรียกรถโตโยต้ากลับเข้ารับการตรวจสภาพระบบแอร์แบ๊กและระบบปัดน้ำฝนทั้งสิ้นกว่าล้านคัน ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา ในจำนวนนี้เป็นการตรวจระบบแอร์แบ๊กของรถยนต์โตโยต้าโคโรลล่า และโคโรลล่า เมทริกซ์ที่ผลิตขึ้นในสหรัฐระหว่างเดือนธันวาคม 2001 ถึงเดือนพฤษภาคม 2004 รวมราว 752,000 คัน อีก 141,000 คัน อยู่ในแคนาดาหลายหมื่นคันอยู่ในญี่ปุ่นและเม็กซิโก และรวมทั้งสิ้น 907,000 คันทั่วโลก ขณะเดียวกันได้เรียกรถยนต์โตโยต้า เล็กซัสไอเอสทั้ง 3 แบบที่ผลิตขึ้นระหว่างเดือนพฤษภาคม 2005 ถึงเดือนตุลาคม 2011 จากตลาดในสหรัฐ 270,000 คัน จากตลาดในประเทศแคนาดา เกือบ 17,000 คัน และจากที่อื่นๆ ทั่วโลก รวมเป็น 385,000 คัน เพื่อการตรวจซ่อมระบบปัดน้ำฝนที่อาจเกิดการติดขัดในยามหิมะตกหนัก

นายนาโอโตะ ฟูเสะ โฆษกของโตโยต้ากล่าวว่า มีผู้ใช้รถที่ประสบเหตุจากปัญหาแอร์แบ๊กเปิดเองจนเกิดรอยฟกช้ำหรือผิวหนังถลอกที่สหรัฐ 18 ราย ขณะที่มีรายงานที่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่า ได้เกิดกรณีเดียวกันทั่วทั้งเขตอเมริกาเหนือ 46 ราย ในญี่ปุ่น 1 ราย สาเหตุเป็นเพราะสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ไปสร้างความเสียหายให้กับชิปควบคุมระบบ แต่ยังไม่มีรายงานว่าจะเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุด้วยแต่อย่างใด 

การเรียกรถคืนของบริษัทโตโยต้าครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่บริษัทเป็นผู้ผลิตและประกอบรถยนต์มากเป็นอันดับ 1 ของโลก ด้วยยอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 9.748 ล้านคัน เมื่อปีที่แล้วและเพิ่งตกลงจ่ายชดเชยให้เจ้าของรถในสหรัฐไปกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อยุติเสียงเรียกร้องของเจ้าของรถโตโยต้าที่ถูกเรียกกลับเข้าอู่หรือศูนย์ซ่อมบำรุงของโตโยต้าในสหรัฐ และอ้างว่าทำให้มูลค่ารถของตนตกต่ำลง