วันนี้ (30 ม.ค.) ที่โรงแรมทาวน์อินทาวน์ นายทองดี ยีรัมย์ บิดาของ จา พนม ยีรัมย์ พระเอกนักบู๊ชื่อดัง พร้อมครอบครัวประกอบด้วย นางรินทร์ ยีรัมย์ มารดา นางแวว ยีรัมย์ น้องสาว และนายธรัช ศุภโชคไพศาล ได้ออกมาแถลงข่าว เกี่ยวกับกรณีตามหา จา พนม ที่ไม่ยอมติดต่อครอบครัว
นายทองดี เปิดเผยว่า ที่ออกมาพูดวันนี้ เพราะอยากให้สื่อช่วยส่งข่าวไปถึงจา ผมมาหาลูกชายแล้วหาไม่เจอ ลูกชายไม่ติดต่อกลับ ผมคิดถึงลูกอยากเจอลูก อยากคุย ไม่เกี่ยวกับธุรกิจใดๆ ทั้งสิ้น มันเป็นสัณชาตญาณของความเป็นพ่อ ที่ไม่สามารถตัดขาดกันได้ วันนี้รู้สึกอัดอั้นตันใจก็เลยออกมาให้ข่าวอีกครั้ง อยากให้จามาหาพ่อที่สุรินทร์ภายใน 3 วันนี้ ที่ผมจำเป็นต้องออกมาตามหาลูกนั้น เพราะเขาเดินไม่ถูกทาง ซึ่งจริง ๆ ผมเองก็ไม่อยากจะมาตามอะไร เพราะเขาโตแล้ว ผมเองก็จะตามจนถึงที่สุดจนกว่าจะตามได้ อยากให้เขามากอดอยู่ในอ้อมอกอีกครั้ง ผมสงสารลูก รักลูก ห่วงลูก
นายทองดี เล่าถึงเหตุการณ์ล่าสุดที่ไปหาจา ที่บ้านแล้วโดนภรรยาจา ไล่ออกมา ว่า เมื่อช่วงปีใหม่ ผมได้ไปหาจาที่บ้านที่ จ.ปทุมธานี เพื่อตั้งใจไปเยี่ยมหลาน ก็ไปกัน มีผม มีแม่จา น้องสาวจา พี่สาวจา ก็ไปกันทั้งครอบครัว พอลงจากรถจาก็เดินมาไหว้พ่อแม่ จากนั้นภรรยาเขาก็เอะอะในบ้าน และให้กลับไป จาเองก็ยืนเฉยไม่ห้ามเมีย ซึ่งผมก็ไม่รู้สาเหตุว่าเขาโกรธอะไรครอบครัวเรา กับน้องสาวจาเองก็ไม่รู้สาเหตุว่าเขาโกรธด้วยเรื่องอะไร ถ้ารู้ว่าเขาโกรธแววจะพาไปทำไม ที่เคยมีเรื่องกับสามีของแวว จนมีเรื่องตีกันหัวแตกเมื่อวันงานแต่งงาน ตอนนี้ก็เคลียร์จบกันไปแล้ว ก่อนหน้านี้ก็ผมเองเคยไปบ้านบุ้งกี๋ ความสัมพันธ์ก็ยังดีอยู่ อยากรู้ว่าทำไมภรรยาถึงได้ทำแบบนี้ ถึงไม่ชอบน้องสาวจา ก็ควรให้เกียรติพ่อแม่บ้าง อยากให้รู้อะไรต่ำอะไรสูง รู้จักกาลเทศะบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมทีมงานหนังทุกคนติดต่อจาได้ แต่ทำไมพ่อติดต่อจาไม่ได้ นายทองดี กล่าวว่า "พ่อเองก็โทรไปหาทีมงานทำหนังกับจา เขาก็บอกว่าจาไม่ได้ไปถ่ายหนังแล้ว จะถ่ายอีกทีก็เดือน ก.พ. พ่อและที่บ้านโทรไปเขาก็ไม่รับสาย หรือบางทีก็คนอื่นรับแต่ไม่ให้คุย"
นางแวว ยีรัมย์ น้องสาวของจา เปิดเผยว่า เราไม่เคยทะเลาะอะไรกับทางบุ้งกี๋ ครั้งแรกที่รู้จักกัน แววเป็นคนดูแลจาอยู่ช่วงตอนทำองค์บาก 3 บุ้งกี๋ก็เข้ามาช่วงนั้น ก็เห็นคุณแม่ของน้องกับน้องเข้ามาส่งข้าวส่งน้ำในกองถ่าย ตอนแรกเราก็คิดว่าแฟนคลับ พอผ่านไปไม่นานพี่จาก็เข้ามาบอกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นแฟน เราเจอกันประมาณ 2-3 ครั้งได้ ไม่เคยมีกรณีที่บอกว่าพูดไม่ดีใส่กัน ไม่เคยปะทะฝีปากอะไรกันเลย ช่วงงานแต่งงานของเขา แววท้องแก่ ก็เลยไม่ได้ไปงานแต่ง แฟนก็เลยไปงานแทน ซึ่งงานนั้นครอบครัวญาติพี่น้องเราก็ไปกันหมด ยืนยันว่าเราไม่มีเรื่องขัดแย้งกัน ไม่ทราบสาเหตุเลยว่าเขาโกรธเราเรื่องอะไร ก็อยากจะถามเขาเหมือนกัน ความจริงคดีที่ตีหัวกันวันงานแต่งงานนั้นยังไม่จบหรอก แต่ที่พ่อบอกว่าจบ ก็เพราะอยากให้พี่น้องคุยกัน เคลียร์กัน มันเป็นปัญหาในครอบครัวเรา ก็รู้สึกเสียใจและเสียความรู้สึก แต่ก็คุยกับพี่ชายตัวเองไม่ได้ เคยโทรไปหาเขาก็บอกว่า อย่ามาโทรหาพี่จาอีก วันนั้นที่ไปหาที่บ้าน เขาพุ่งตรงมาหาแวว แต่ว่าพ่อมากันไว้ คือไม่พอใจเราไม่เป็นไร แต่ทำไมทำกับพ่อแม่อย่างนี้
นายธรัช หรือ โจ น้องเขยของจา เปิดเผยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทุกคนในตระกูลเห็นแล้วก็สะเทือนใจ ถ้ามองกลับไป สาเหตุที่เขาไม่ชอบผม อาจจะเป็นเรื่องเมื่อ 3 ปีที่แล้วก็ได้ สมัยก่อนตอนทำองค์บาก 3 ผมกับแววก็เป็นโปรดิวซ์เซอร์ร่วมกัน การทำงานก็ราบรื่นดี จู่ ๆ ก็ครอบครัวหนึ่งมาใกล้ชิดกับพี่จา เราในฐานะคนดูแล เราเห็นเราก็เป็นห่วง เพราะที่เข้ามามันมากกว่าแฟนคลับทั่วไป เราก็ต้องมีการสืบประวัติผู้หญิงคนนี้ แล้วแจ้งให้ทางต้นสังกัดจา และพ่อแม่ได้ทราบ ซึ่งตรงนี้อาจจะเป็นเหตุที่ทำให้เขาไม่ชอบก็ได้ อันนี้คือที่ผมคิดเอาเอง แล้วช่วงที่จาบวช ผมทำนิตยสารพระ ก็ไปถ่ายรูปจามาลง เจตนาอยากจะบอกว่าปลาบปลื้ม เขาก็ไม่พอใจ หลังจากนั้นก็ไปจดทะเบียนสมรสกันโดยที่ไม่บอกพ่อแม่ ซึ่งเราเองก็ไม่ได้มีเจตนาจะไปกีดกันเขาเลย วันนั้นที่ผมโดนตีหัวที่งานแต่ง เขาบอกว่าเขาไม่ได้เชิญ แต่งานแต่งพี่ชาย พ่อเองก็เชิญทุกคนในบ้าน ตอนโดนทุบหัว ผมยืนอยู่เฉยๆ มาก มีพยานรู้เห็นตั้งหลายคน ผมเองก็แจ้งความไว้ แต่พ่ออยากให้จบ ผมก็จบ วันนั้นผมไม่ได้เมา เพราะผมไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ เรื่ิองที่มองว่าผมจะไปเอาผลประโยชน์กับจานั้นไม่มีอยู่แล้ว เพราะเขาทำงานกบสหมงคลฟิล์ม แต่เรื่องทำธุรกิจก็ส่วนเรื่องธุรกิจมันต้องมีเรื่ิองเงินทองอยู่แล้ว แต่มันคนละส่วนกัน เรื่องที่บุ้งกี๋เคยออกมาให้ข่าวให้ร้าย หรืิอพูดเรื่องรถ เรื่องเงิน ต้องบอกว่าเรื่องพวกนี้มันมีมาก่อนที่เขาจะรู้จักกันเสียอีก บางเรื่องที่เอามาพูดก็รู้ไม่จริง และตอนนี้จาก็ถอนหุ้นจากบริษัท ไอยรา ฟิล์ม ไปแล้ว
นายทองดี กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า ระยะหลัง 3 ปีมานี้ นิสัยจาเปลี่ยนไปมาก ไม่เหมือนเดิม เปลี่ยนไปคนละทิศ เป็นเพราะเขาขาดสติ ผมเองก็ร้องไห้อยู่ในใจทุกวัน ที่ออกมานี่ไม่ได้ต้องการเรียกร้องอะไรจากจา ถึงจาไม่ได้ส่งเงิน ก็ยังมีลูก ๆ อีก 3 คนดูแลอยู่ ฝากถึงจาให้ออกมาหาพ่อภายใน 3 วัน แต่ถ้าจาไม่ออกมา ก็คงต้องมีวิธีดำเนินการต่อไป