เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก James Bowen & Street Cat Bob ,streetcatbob.blogspot.com
หากคุณกำลังสิ้นหวัง และกำลังมองหาเรื่องราวดี ๆ ท่ามกลางสถานการณ์ที่แย่ ๆ ของชีวิต ก็ลองมาดูเรื่องราวอันสุดแสนธรรมดา แต่ซาบซึ้งกินใจ ของแมวข้างถนนกับคนติดเฮโรอีน ซึ่งทั้งสองชีวิต ได้ร่วมเดินบนเส้นทางสายชีวิตร่วมกัน จากถนนอันพลุกพล่านในลอนดอน สู่เส้นทางสายจอเงิน
บ็อบ แมวตัวอ้วนสีส้มจากแถบลอนดอนเหนือ กำลังจะกลายเป็นสัตว์ขวัญใจตัวใหม่ของวงการฮอลลีวูด เมื่อค่ายหนังกำลังจะสร้างหนังใหม่ที่มีเค้าโครงมาจากหนังสือที่เกี่ยวกับเรื่องราวของเจ้าบ็อบและเจมส์ โบเว่น เจ้าของของมัน โดยหนังสือเล่มนี้มีชื่อว่า A Street Cat Named Bob (แมวข้างถนนที่ชื่อว่า บ็อบ)
โบเว่น ได้พบกับแมวข้างถนนหิวโซ บาดเจ็บตัวหนึ่ง นอนอยู่ใต้ปล่องบันไดในอพาร์ทเม้นท์ของเขา ในตอนแรก โบเว่นก็ลังเลที่จะพาแมวเข้าบ้าน แต่เพราะเขาหาเจ้าของไม่ได้ เขาเลยพามันเข้าบ้าน และนำมันไปที่ศูนย์สงเคราะห์สัตว์ RSPCA เพื่อรักษาฝีตรงขาและรักษาแผลตรงข้างลำตัว ซึ่งเขาเองต้องจ่ายเงินไปค่อนข้างมากสำหรับการรักษาเจ้าบ็อบ อย่างไรก็ตาม เขากลับบอกว่า เขาไม่รู้สึกว่านี่มันมากเกินไปสำหรับการช่วยเหลือแมวที่กำลังบาดเจ็บ เพราะเขาเป็นคนรักแมวมาก่อนแล้ว
โดยก่อนหน้านี้ พ่อแม่ของโบเว่นแยกทางกันเมื่อเขาอายุได้ 3 ขวบ เขาย้ายไปอยู่ที่ออสเตรเลียกับคุณแม่ และพอโตขึ้น เขาก็ถูกข่มเหงอยู่บ่อยครั้ง เขาต้องเปลี่ยนโรงเรียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเข้ากันกับพ่อเลี้ยงคนใหม่ไม่ได้ ตอนที่โบเว่นอายุ 18 ปี เขาเดินทางกลับไปอยู่ที่อังกฤษคนเดียว และหลังจากที่อยู่อย่างจำกัดจำเขี่ยกับน้องสาวต่างมารดา เขาก็กลายมาเป็นคนเร่ร่อนตามถนน และติดเฮโรอีนในที่สุด
"พอคุณออกเร่ร่อน คุณก็จะเริ่มนอนไม่ค่อยหลับ แล้วคุณก็จะพบว่า คนรอบตัวคุณต่างติดยาด้วยกันทั้งนั้น พวกเขาเสนอบางอย่างให้ บอกว่ามันจะช่วยให้คุณนอนหลับสบาย ซึ่งมันก็จริง และยานั่นก็ทำให้คุณรู้สึกดี และกว่าที่คุณจะรู้ตัว คุณก็จะคิดว่า ทำไมไม่ลองดูล่ะ เพราะฉันเองไม่มีอะไรเหลือแล้ว" โบเว่น กล่าว
โบเว่นเริ่มติดเฮโรอีนอย่างหนัก และเกือบเสียชีวิตจากยามรณะชนิดนี้ จน 10 ปีต่อมา ในขณะที่เขากำลังอยู่ในช่วงบำบัดฟื้นฟู เขาก็มาพบกับแมวอ้วนสีส้มนอนยู่ตรงปล่องบันได ซึ่งในตอนแรก เขาพยายามที่จะไล่มันไป เขาพามันออกไปข้างนอก แต่แมวก็ไม่ยอมไปไหน เขาเดินไปตามถนนทั้งวันเพื่อเรี่ยไรเงิน และแมวก็ตามเขาไปทุกที่ มันตามเขาไปตลอดทางจนกระทั่งขึ้นรถเมล์สาย 73 แล้วก็กระโดดขึ้นนั่งลงข้าง ๆ
ท้ายที่สุด โบเว่นก็ปล่อยให้แมวอยู่ด้วยกันกับเขา ทั้งสองคนเริ่มตัวติดกันชนิดที่แยกกันไม่ออก และเริ่มออกไปเดินขอเงินตามท้องถนนรอบกรุงลอนดอน โดยโบเว่นจะเล่นกีตาร์ ขณะที่เจ้าบ็อบจะนั่งอยู่ที่เท้าหรือไม่ก็ขึ้นมานั่งตรงไหล่ บางครั้งผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาก็จะเอาอาหารแมว ของเล่น หรือเสื้อผ้ามาให้ มีคนหนึ่งที่เอาผ้าพันคอแมวสีม่วงมาให้ แล้วจากนั้น ทุกคนก็สรรหาเสื้อผ้ามาให้มันเรื่อย ๆ จนตอนนี้ เจ้าบ็อบมีผ้าพันคอไหมพรมกว่า 20 ชิ้น เสื้อสเวตเตอร์อีกจำนวนหนึ่ง ผ้าห่ม 10 ผืน บางอันก็เป็นรูปแมว บางอันก็เป็นรูปหนู
โบเว่น บอกว่า การที่เขาเจอกับแมวตัวนี้และช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของแมว ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยรักษาชีวิตของตัวเองได้ เขาจะไม่กลับไปเสพยาอีก เขาได้เรียนรู้หลาย ๆ อย่างและเติบโตเป็นผู้ใหญ่
ทั้งนี้ เมื่อ 2 ปีก่อน แมรี่ แพนโช่ เอเจนซี่หนังสือที่ทำหนังสือเรื่อง มาร์เล่ย์ แอนด์ มี เวอร์ชั่นสหราชอาณาจักร ได้เห็นโบเว่นและเจ้าบ็อบขายนิตยสารที่หน้าสถานีรถไฟใต้ดิน และหลังจากนั้น โบเว่นจึงเริ่มเซ็นสัญญาทำหนังสือกับสำนักพิมพ์ Hodder & Stoughton โดยแพนโช่ ได้เดินผ่านไปผ่านมาหลายครั้ง และสอบถามโบเว่นว่า เขาสนใจที่จะบอกเล่าเรื่องราวของเขาไหม หลังจากนั้นไม่นาน โบเว่นก็มีสำนักพิมพ์ติดต่อเข้ามา และ 6 เดือนจากนั้น เขาก็มีหนังสือเป็นของตัวเอง ซึ่งวางแผงตรงกับวันเกิดของเขา ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า นี่ถือได้ว่าเป็นของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิตเลยทีเดียว
หนังสือที่ชื่อว่า A Street Cat Named Bob มียอดขายถึง 160,000 ฉบับ เฉพาะที่วางขายบนเกาะอังกฤษ และได้รับการแปลไปแล้วกว่า 18 ภาษา อีกทั้งยังพร้อมที่จะวางขายเป็นเวอร์ชั่นอเมริกาในฤดูร้อนปีหน้าด้วย
นอกจากนี้ เจ้าบ็อบ ยังมีเฟซบุ๊กแฟนเพจเป็นของตัวเอง และบล็อกที่บอกเล่าเรื่องราวของแมวน้อยกับเจ้าของ ที่ชื่อว่า "Around the World in 80 Bobs" ซึ่งแฟน ๆ สามารถลงรูปตามสถานที่ต่าง ๆ ที่ถ่ายคู่กับหนังสือได้ด้วย
คลิป A Street Cat Named Bob - the book โพสต์โดย
คุณ Hodder Books สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม