เมื่อเช้าวันที่ 28 ม.ค. ที่ สตูดิโอ กันตนา ย่านเหม่งจ๋าย นายธีระชาติ ธีระวิทยากุล หรือ อู๊ด เป็นต่อ นักแสดงตลกชื่อดัง วัย 36 ปี ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวหลังตำรวจนำหมายค้นจากศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าตรวจค้นบ้านของนางวาสนา ธีระวิทยากุล ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่สะใภ้ของนักแสดงตลก อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เอเยนต์ค้ายาบ้ารายใหญ่ของพื้นที่ โดยตำรวจพยายามติดตามจับกุมมานานนับปีแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหลบหนี
โดยตลกหนุ่มชื่อดังกล่าวว่า ตนได้คุยพี่ชายเรื่องพี่สะใภ้แล้ว เขาก็ขอโทษและรู้สึกเสียใจอย่างมาก ในครอบครัวไม่มีใครรู้ว่าพี่สะใภ้ทำแบบนี้มานานแล้ว ทางพี่ชายพร้อมที่จะให้ข้อมูลทุกอย่าง เมื่อวานที่ตนทราบเรื่องก็ตกใจมาก พี่ชายก็เช่นกันโทรศัพท์หาคนนั้นคนนี้เพื่อตามหาพี่สะใภ้ซึ่งคาดว่าอยู่ระหว่างการหลบหนี พี่ชายพูดเหมือนจะร้องไห้ เขาอยากให้พี่สะใภ้มามอบตัว หนีไปแบบนี้ไม่รู้จุดหมาย ไม่รู้ไปเจออะไรบ้าง ถึงตอนนี้เชื่อว่าพี่สะใภ้ทำผิดจริง ก่อนหน้านี้ไม่มีใครระแคะระคาย พี่สะใภ้ไม่ใช่คนฐานะร่ำรวย แค่พอมีพอกินไม่ได้ลำบาก แต่เรื่องที่หลายคนจะโยงใยมาถึงตนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องไหม ตัดไปได้เลย ตนไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ รวมถึงที่สงสัยว่าพี่ชายจะไม่รู้เห็นด้วยจริงหรือ ส่วนตัวเชื่อว่าพี่ชายไม่รู้เห็นกับสิ่งที่พี่สะใภ้ทำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เท่าที่รู้จักพี่สะใภ้เคยมัพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติดหรือไม่ ตลกหนุ่มกล่าวว่า ตนไม่ได้สนิทสนมกับพี่สะใภ้มาก เมื่อก่อนเคยไปเรียนที่ จ.กาฬสินธ์ มีโอกาสเจอบ้างไม่เจอบ้าง เวลาเจอกันพี่สะใภ้ก็พูดจาสนุกสนาน ตนคิดว่าคนเรามีมุมสว่างมุมมืด ในมุมสว่างที่เห็นกันคุยกันว่าทำอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ยังมีมุมมืดที่ไม่ได้บอกจึงไม่รู้ว่าทำอะไรบ้าง
ต่อข้อถามว่า ตอนนี้ในครอบครัวคุยกันไหมว่าจะทำอย่างไรต่อไป ตลกหนุ่มคนเดิมกล่าวว่า ปล่อยเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนและครอบครัวคงทำอะไรไม่ได้ เรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากยุ่งเกี่ยวด้วยเพราะเป็นเรื่องใหญ่มาก
“ตามข่าวบอกว่าพี่สะใภ้ให้ญาติๆ เป็นสายส่งยาด้วย ตรงนี้ผมไม่ได้ถามพี่ชาย แต่ญาติๆ ที่หมายถึงน่าจะเป็นญาติทางเขามากกว่า ส่วนพี่สะใภ้จะทำมานานแค่ไหนไม่รู้ แต่ที่ดูจากข่าวน่าจะทำเมื่อเร็วๆ นี้ เพราะอาชีพเดิมเขาทำธุรกิจส่วนตัว ปล่อยเงินกู้”
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวกระทบกับงานแล้วได้คุยกับทางผู้ใหญ่หรือยัง อู๊ด เป็นต่อ กล่าวว่า คุยแล้วผู้ใหญ่บอกว่าไม่เป็นไร เข้าใจ ถ้าไม่เกี่ยวไม่ต้องไปกังวล แต่เรื่องนามสกุลต้องมีกระทบมาแน่ๆ อยากให้แฟนๆ เข้าใจตนด้วย ด้านเพื่อนๆ ส่งข้อความมาให้กำลังใจเยอะ แต่ตอนนี้เป็นห่วงพี่ชายมากกว่า เรื่องนี้ตนมองว่าเป็นเวรกรรม หนีตำรวจได้แต่หนีกรรมไม่พ้นแน่ สิ่งที่ทำไว้ทำให้ประเทศชาติต้องเดือดร้อน ตนไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว สิ่งที่ตนจะช่วยได้คงเป็นเรื่องกำลังใจ
“ผมไม่ซ้ำเติมใคร ผิดว่าไปตามผิด เพียงแต่หน้าที่การงานของผมอยู่ในที่แจ้ง นามสกุลที่ใช้ก็เกี่ยวข้องกับเรื่อง
28 ม.ค. 56 เวลา 16:21 1,850
กรุณา
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ