บาง ทีชาวอังกฤษอาจจะมีอัตลักษณ์อะไรซักอย่างที่ทำให้เราเรียกเค้าว่าผู้ดี แต่นั่นคงไม่เกี่ยวอะไรกับการเล่นกลิ้งก้อนชีสลงเนินเขาพร้อมด้วยชาวบ้านที่ วิ่งตามกันอย่างสนุกสนานแบบนี้แน่ๆ กีฬา(?)กลิ้งชีส จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่เมือง Gloucester ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ มีผู้สนใจเข้าร่วมชมการละเล่นแข่งกลิ้งชีสลงเนินเขาเป็นจำนวนมาก ผู้ชนะคือคนที่สามารถวิ่งตามก้อนชีสที่บางครั้งอาจทำความเร็วได้สูงถึง 110 ก.ม./ช.ม. เข้าเส้นชัยได้เป็นคนแรก แต่เราก็ขอเตือนไว้ก่อนว่างานนี้ไม่เหมาะกับคนขวัญอ่อน เพราะการได้เห็นผู้เข้าแข่งขันหกล้มแข้งขาหักนับเป็นเรื่องปกติของงานเลยนะ
นับเป็นการรวมกันอย่างเพี้ยนๆของกีฬาที่ต้องใช้ทั้งสมองและพละกำลัง แต่กีฬา 'มวยหมากรุก (Chess boxing)' นั้น ก็กลายเป็นที่นิยมขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีมานี้ กีฬามวยหมากรุกมีต้นกำเนิดมาจากนวนิยายวิทยาศาสตร์เรื่องหนึ่ง ที่ได้รวมเอากีฬาประชันหมัดบนสังเวียนเข้ากับกีฬาลับคมสมองบนกระดานหมากรุก ในแต่ละยกผู้เข้าแข่งขันจะมีเวลา 3 นาทีในการชกมวย กับอีก 4 นาทีในการเล่นหมากรุก ผู้ชนะจะตัดสินจากการน็อกเอาท์คู่แข่ง, การ รุกฆาต หรือการตัดสินของกรรมการ เกมมวยหมากรุกอย่างเป็นทางการนัดแรกถูกจัดขึ้นเมื่อปี 2003 และมาไกลจนถึงขนาดมีการแข่งขันระดับเวิร์ลด์แชมเปี้ยนชิพ ที่ถ่ายทอดผ่านช่องกีฬาชื่อดัง ESPN เลยเชียวนะ
กีฬาบอสซาบอล คือการรวมกันของกีฬาวอลเล่ย์บอล, ฟุตบอล, ยิมนาสติก และศิลปะป้องกันตัวของประเทศบราซิล คาโปเอร่า เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2004 ดูคล้ายการเล่นวอลเล่ย์บอลแบบกินยาเกินขนาด ที่แต่ละฝ่ายต่างก็รับส่งบอลก็ด้วยการกระโจน ตีลังกา หรือลีลาหมุนไปมาท้าความตาย แล้วไม่ใช่แค่แปลกเฉพาะที่คนเล่น แต่สนามยังเป็นเบาะเป่าลมขนาดใหญ่พร้อมด้วยแทรมโพลีนให้ผู้เล่นได้โดดเด้ง ดึ๋งโชว์ลีลากันได้แบบไม่ต้องกลัวเจ็บตัว(มากนัก)ซะด้วย
การทำแต้มแบบสแลมดังค์ หรือจับยัดห่วงคงเป็นท่าสวยๆประดับวงการบาสเกตบอล NBA อยู่เสมอ แต่ลองนึกภาพกีฬาบาสเกตบอลที่มีแต่เรื่องการจับยัดห่วง พร้อมด้วยแทรมโพลีนดูสิ Mason Gordon ผู้ริเริ่มการเล่นกีฬาสแลมบอลที่ได้ไอเดียจากการโชว์ดังค์เท่ๆแบบในเกม โดยรวมแล้ว สแลมบอลก็คล้ายๆกับบาสเกตบอล ต่างตรงที่แต่ละทีมจะมีผู้เล่นแค่ 4 คน การดังค์แต่ละทีหมายถึงคะแนน 3 แต้ม แล้วก็มีแทรมโพลีนถึง 4 อันที่ห่วงแต่ละฝั่ง ผลที่ได้ก็คือกีฬาที่ดูอลังการเอามากๆ ได้เห็นผู้เล่นแต่ละคนโดดลอยซะสูงแบบเหนือมนุษย์ พร้อมทั้งพยายามดังค์แบบโหดๆไม่ก็ผลักผู้เล่นอีกฝ่ายให้พ้นทาง
กีฬา(??)ชนิด นี้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศฟินแลนด์ ที่ผู้เข้าแข่งขันชายจะต้องแบกภรรยาของตัวเองฝ่าฟันผ่านเส้นทางที่เต็มไป ด้วยอุปสรรคกว่า 250 เมตร สามีจอมพลังคนไหนที่พาภรรยาเข้าเส้นชัยได้เป็นคู่แรกก็เป็นผู้ชนะ ผู้ชมจะได้เห็นลารูปแบบการแบกภรรยาในท่าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นท่าธรรมดาๆอย่างการแบกไว้บนบ่าและหลัง หรือจะเป็นท่าแบบนักดับเพลิงแบกผู้ประสบภัย รวมไปถึงท่าเพี้ยนๆที่เรียกกันว่า'เอสโทเนียนสไตล์' (ภรรยาจะห้อยกลับหัวโดยเอาขาไว้ที่บ่าของสามี) สามีผู้ชนะจะได้รับรางวัลเป็นเบียร์ปริมาณหนักเท่าน้ำหนักภรรยา การละเล่นที่เรียกเสียงเฮฮารื่นเริงเช่นนี้มีประวัติสืบทอดมาอย่างยาวนาน และปัจจุบันก็ได้แพร่กระจายไปจัดในที่ต่างๆทั่วทั้งยุโรปและอเมริกาเหนือ
ใช่ มันคืออย่างเดียวกับที่กีฬาที่อยู่ในเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์นั่นแหละ เพียงแต่ว่าคนเล่นไม่ใช่พ่อมดแม่มด เพราะมักเกิ้ล(คนที่ไม่มีเวทมนตร์)ก็ขอเล่นด้วย ในเกมควิดดิชแบบบิน(วิ่ง)เรี่ยพื้นนี้เราจะได้เห็นกลุ่มสาวกเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ พากันหนีบไม้กวาดวิ่งไปวิ่งมาเพื่อพยายามคว้าบอล(ลูกควัฟเฟิล)ในสนามไปชู้ต ใส่ห่วงทำแต้ม ในขณะที่ผู้เล่นก็ต้องหลบหลีกไม่ให้ไปโดนบอลอีกชนิดหนึ่ง(ลูกบลัด เจอร์)มากระแทกหน้าเข้า เท่านั้นยังไม่พอเพราะเกมนี้ยังมีกระทั่งลูกสนิชสีทอง ที่ไม่ใช่ลูกบอลกระจิ๊ดริดบินได้แบบในหนังสือแต่กลับเป็นคนในชุดรัดรูปวิ่ง ไปวิ่งมาแทน อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล่นๆไปเพราะกีฬาที่เริ่มต้นเล่นกันตั้งแต่ปี 2004 ที่วิทยาลัย Middlebury College ปัจจุบันได้ไปไกลถึงขนาดมีสถาบันการศึกษากว่า 300 แห่งทั่วโลกเข้าร่วมการแข่งขันระดับเวิร์ลด์คัพกันเลยทีเดียว
คุณ อาจจะเคยได้ยินเรื่องปลาบินได้ หรือเรื่องปลาแซลมอนที่โดดทวนน้ำขึ้นไปวางไข่ แล้วคุณเคยได้ยินเรื่องที่มีปลาทูน่าตัวเขื่องหนักกว่า 10 กิโลฯลอยละล่องในอากาศที่ออสเตรเลียทุกๆมกราคมหรือเปล่า? แต่นั่นไม่ใช่ปรากฏการณ์ธรรมชาติ เพราะมันคือไฮไลท์ของงานเทศกาล Tunarama festival ที่จัดขึ้นทุกๆปีที่ Port Lincoln ออสเตรเลีย ผู้เข้าแข่งขันจะต้องทุ่มสุดตัวเพื่อเขวี้ยงเจ้าทูน่ายักษ์ให้ลอยไปไกลที่ สุด ส่วนสถิติตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 30 เมตรไว้เป็นมาตรฐานเผื่อคุณอยากจะลองฝึกที่บ้านเองนะ
สหรัฐ อเมริกา ดินแดนแห่งเสรีภาพ เป็นจุดกำเนิดของหลายสิ่งหลายอย่างแก่ชาวโลก รวมไปถึงกีฬาชนิดที่ผู้เรียกร้องสิทธิสตรีคงจะไม่ยินดีด้วยเท่าไหร่นักอย่าง อเมริกันฟุตบอลชั้นใน เดิมทีมันเป็นแค่โชว์พิเศษระหว่างช่วงพักครึ่งของการแข่งขันนัดซุป เปอร์โบวล์ ที่จะได้เห็นสาวๆสวยเซ็กซี่ฝ่ายละ 7 คน คว้าสนับแข้ง สนับไหล่ หมวก และบรา เปิดศึกประจันหน้าในเกมอเมริกันฟุตบอลแบบเป็นจริงเป็นจังชนิดที่สร้างรายได้ ให้แก่ช่องทีวี มีสปอนเซอร์สนับสนุน และกำลังหาลู่ทางเปิดเป็นลีกแข่งขันทั้งในสหรัฐและแคนาดาเลยด้วย
สุดยอดกีฬาแปลก ตัวแทนจากประเทศเยอรมนีต่อสายตาชาวโลกก็คือ 'ฮ็อคคาร์น' ซึ่งสื่อความหมายได้ประมาณว่าคือการนั่งลงยองๆ เป็นการรวมกันของกีฬาสเกตบอร์ดและการเต้นเบรคแดนซ์ ผู้เล่นจะต้องเอาชนะอีกฝ่ายด้วยการหาวิธีการนั่งลงแบบสร้างสรรค์ที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการหมุนตัว ตีลังกา หรือสไลด์อุปกรณ์ที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษอะไรก็ตามแต่ นับเป็นกีฬาที่เกิดมาเพื่อคนที่อยากออกกำลังกายแต่ไม่อยากลุกไปไหน
การกระทำใดๆก็ตามที่จะไปเปลี่ยนแปลง'ความสวยงามของเกมฟุตบอล'มักจะก่อให้เกิดประเด็นโต้เถียงขัดแย้งกันอย่างไม่เคยจบสิ้น ยกตัวอย่างเช่นเทคโนโลยี Goal-line หรือแนวคิดปรับเปลี่ยนกฎล้ำหน้า เป็นต้น ล่าสุดวงการฟุตบอลก็มีเรื่องราวกันให้ใครหลายๆคนต้องดิ้นกันอีกครั้ง ด้วยการกำเนิด 'ฟุตบอล 3 เส้า' ที่ นอกจากจะเพิ่มทีมผู้เล่นเข้ามาอีกทีมแล้ว ยังมีสนามสุดเพี้ยนเป็นรูปหกเหลี่ยม มีกฎใหม่ที่การยิงประตูมากสุดไม่ใช่ผู้ชนะแต่ต้องเสียประตูน้อยสุดต่างหาก Asger Jorn ผู้ริเริ่มชาวเดนมาร์กบอกว่ากีฬาชนิดนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อขจัดความขัดแย้ง จากการเผชิญหน้ากันของ 2 ทีม ปัจจุบัน ฟุตบอล 3 เส้า กลายเป็นที่นิยมในหมู่แฟนบอลหลายๆประเทศทั่วโลกซึ่งชื่นชอบและเห็นด้วยกับ แนวคิดเท่ๆของเจ้าของไอเดียคนนี้