หลังจากหมดยุค ฮิตเลอร์ สตาลิน เหมาเจ๋อตุง พรพต ดาด้า ฮามิน แล้วโลกเราก็ไม่ยังสงบสุขซะทีเดียว เพราะผู้นำที่โหดที่สุดในโลก (ไม่นับ ที่กล่าวมาข้างต้น) หรือ อาจจะเคยเป็น ผู้นำที่โหดที่สุดในโลกปัจจุบัน แต่ไม่ได้อยู่ในตำแหน่ง นั้นๆแล้ว มานำเสนอเป็นเกร็ดความรู้รอบตัว คะ ( ถ้าประชาชนในประเทศนั้นขาดความสามัคคี จะเกิดอะไรขึ้น !) ตู้มๆๆๆ !

 

โอมาร์ อัล บาชีร์ ( อุมัร ฮะซัน อะห์มัด อัลบะชีร ) ผู้นำประเทศซูดาน ครองอำนาจมาตั้งแต่ปี 2532

ประเทศซูดาน มีสงครามกลางเมืองระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายกบฏมาอย่างยาวนาน ในฐานะ ประธานาธิบดี อัล บาชีร์ จึงจำเป็นต้องโหดเพื่อให้บ้านเมืองอยู่ในความสงบเรียบร้อย

2550 พี่ โอมาร์ อัล บาชีร์ เลยสั่งบอมบ์ระเบิดปูพรมทางอากาศในเมืองของตนเองซะเลย ผลคือ นอกจากเหตุการณ์จะไม่สงบแล้ว ยังเป็นผลให้ประชาชนของตนเองตายเกลื่อน นาย โอมาร์ อัล บาชีร์ ต้องออกมารับผิดชอบ โดยการตั้งกรรมการสอบสวนด้านสิทธิมนุษย์ชนอย่างเร่งด่วน แต่ทำท่าว่าจะไม่ได้เรื่อง (โกงนั้นแหละ) เพราะคณะกรรมการที่สอบสวนเขา คือ อดีตผู้ต้องหาอาชญากรสงคราม!?

คิม จอง อึน ผู้นำประเทศเกาหลีเหนือ ครองอำนาจมาตั้งแต่ปี 2537 ( อดีต ผู้นำที่โหดที่สุดในโลกปัจจุบัน )

คิม จอง อิล เกิดวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2484 แต่สถานที่เกิดของเขายังสับสนระหว่าง ค่ายทหารโซเวียตในไซบีเรีย หรือ ฐานมั่นลับสุดยอดบนยอดเขาเบคคู กันแน่…………และนอกจากประวัติการเกิดยังสับสนแล้ว การบริหารประเทศก็สับสนเช่นกัน

ภายใต้การปกครอง พี่ คิม จอง อึน เกาหลีเหนือประสบการขาดแคลนอาหารสุดๆ ประชาชนไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รับข่าวสารใดๆ มากกว่าที่ทางรัฐบาลกำหนด ใครที่คิดลองดีหนีไปประเทศอื่นละก็จะได้รับบทลงโทษ เป็นผีเฝ้าประเทศแน่นอน

ตาน ฉ่วย ( Ban Owe ) ผู้นำประเทศพม่า ครองอำนาจมาตั้งแต่ปี 2535 ( อดีต ผู้นำที่โหดที่สุดในโลกปัจจุบัน )

ไม่มีใครที่ไม่รู้จักเขา เพราะมันใกล้บ้านเรานี้เอง คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณอะไรมากเกี่ยวกับตัวเขา และมีผลงานที่พี่ตานได้กระทำไว้กับประชาชน แบบเห็นได้จะๆเลยคือ

พม่าที่ตกอยู่ภายใต้การปกครองที่กดขี่ร่วม 45 ปี ราคาข้าวของ ขึ้นพรวดพราด ! พระสงฆ์ และ ประชาชนเลยเดินขบวนเรียกร้องประชาธิบไตย พี่ตาน ฉ่วย เลยยิ้มและไม่ลังเลใจ ใช้ทหารยิงกวาดใส่ฝูงชนซะเลย พี่หม่องผู้รักชาติตายเพียบ

โรเบิร์ต มูกาเบ ผู้นำประเทศซิมบับเว ครองอำนาจมาตั้งแต่ปี 2523

พี่ โรเบิร์ต มูกาเบ ไม่โหดหรอก แต่บริหารประเทศโครตไม่ได้เรื่องต่างหาก เพราะปีนี้สภาพเศรษฐกิจของ ประเทศซิมบับเว ถึงขั้นย้ำแย่สุดเลวร้าย สุดๆๆๆๆๆๆ

อัตราเงินเฟ้อสูงถึง 8000% ( 200,000 เหรียญซิมบับเว (ZWD) คุณจะซื้อได้แค่เพียงน้ำตาลทรายหนึ่งถุงเท่านั้นเอง ) อัตราคนว่างงานเพิ่มขึ้น 80% ทรัพยากรอาหารก็ลดลงต่อเนื่อง ประชากร 1 ใน 4 พยายามหนีออกจากนอกประเทศ ข่าวดีคือ นายมูกาเบยัง อุตสาห์หน้าด้านทนขออยู่ในตำแหน่งอีก 6 เทอม…

ซาอิด อาลี ไคไมลี ( มะห์มูด อะห์มะดีเนจาด ) ผู้นำประเทศอิหร่าน ครองอำนาจมาตั้งแต่ปี 2532

อิหร่านยังเป็นตัวแสบของอเมริกาอีกประเทศหนึ่ง จน ประธานาธิบดีบุช เคยบอกว่า “ อิหร่านมันเป็นสปอนเซอร์หลักของการก่อการร้ายทั่วโลก ” นั้นเป็นเพราะผู้นำมันไม่กลัวอเมริกานั้นเอง

อีกทั้งยังหน้าเป็นมีนโยบายผลิตจอาวุธนิวเคลียร์ อีกทั้งกฎหมายในประเทศที่เขาร่างสุดโหด (ใครเป็น ชู้ เกย์ ตุ๊ด ละก็โดนจับประหารต่อหน้าสาธารณชน ว่างๆ ก็สั่งปิดสตูดิโอเพลงและคาเฟ่เพื่อควบคุมประชาชนแต่พองาม

เปอร์เวซ มูชาราฟ ผู้นำประเทศปากีสถาน ครองอำนาจมาตั้งแต่ปี 2542 ( อดีต ผู้นำที่โหดที่สุดในโลกปัจจุบัน )

ขึ้นชื่อว่าเป็น ประเทศสงครามกลางเมือง อยู่แล้ว ยังโดนผู้นำเจ้าปัญหาอีก เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาประธานาธิบดีมูชาราฟประกาศงดใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว ปิดศาล และไล่ฆ่าจับกุมคนที่ต่อต้านเขานับพันคน พร้อมกฎหมายยกเลิกการเลือกตั้ง และแต่ตั้งตนเองเป็นประธานาธิบดีต่อไปอีกเรื่อยๆ

นอกจากนั้นยังอุตสาห์ยังใจดีอนุญาตให้อดีตนายก นาวาซ ซารีฟ และ เบนาชีร์ บุตโต กลับมาจากการลี้ภัยในต่างประเทศต่อ พอทั้งสองกลับมากลับเป็นว่า นายซารีฟ โดนกีดไม่ให้ลงเลือกตั้ง ส่วน บุตโตหนักกว่าเพราะโดนระเบิดตายอย่างสยดสยอง

อิซาเอียส อาเฟเวอร์กี ( Isaias Afewerki ) ผู้นำประเทศเอริเทเรีย ครองอำนาจมาตั้งแต่ปี 2534

ประเทศเอริเทเรีย เป็นประเทศที่มี เสรีภาพทางสื่อมวลชนย่ำแย่ที่สุดในโลก เพราะตราบใดที่ อิซาเอียส อาเฟเวอร์กี อยู่ในตำแหน่งพี่แกจะแบนสื่อในประเทศทุกรูปแบบ นอกจากนี้ตั้งแต่เขาดำรงตำแหน่งเขาไม่เคยจัดการเลือกตั้งระดับประเทศ หรือเปิดโอกาสแก้ไขรัฐธรรมนูญเลยสักครั้ง

นาซาร์ อัล อัสซัด ผู้นำประเทศซีเรีย ครองอำนาจมาตั้งแต่ปี 2543

ดูภายนอก นาซาร์ อัล อัสซัด ดูไม่เหมือนจอมเผด็จการสักนิด เพราะเขาได้อำนาจมาจากพ่อผู้นำจอมเผล็ดการตัวจริงเสียงจริง ซึ่งเรียกเขากลับมาฝึกหัดงานบริหารประเทศในปี 1994 ตอนนั้นเขากำลังเรียนปริญญาโทในลอนดอน

จนกระทั้งปัจจุบันอัล อัสซัด กลายเป็นคนกุมอำนาจด้านการทหารและหน่วยข่าวกรองอย่างเด็ดขาดผู้เดียวในซีเรีย และ รัฐบาลเขายังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารบุคคลสำคัญใน ประเทศเลบานอน 

มูอัมมาร์ อัล กัดดาฟี (Muammar Al-Gaddafi) ผู้นำประเทศลิเบีย ครองอำนาจมาตั้งแต่ปี 2512 ( อดีต ผู้นำที่โหดที่สุดในโลกปัจจุบัน )

เชื่อหรือไม่ว่า กัดดาฟี ยึดอำนาจมาได้ ตอนอายุแค่ 27 ปีเท่านั้น เขาก็ใช้เวลาหลายทศวรรษในการดำรงตำแหน่งในการเป็นศัตรูกับอเมริกาอย่างเป็นทางการ โดยใช้เงินจากการขายน้ำมัน มาสนับสนุนขบวนการก่อการร้ายทั่วโลก

ส่วนในประเทศ ถ้ามีนักการเมืองคนไหนขัดแย้งเขาจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย แถมมีกฎหมายประหลาดๆ เช่น ผู้หญิงที่ถูกข่มขื่นจะถูกตัดสินจำคุกแบบไม่มีกำหนด นักโทษประหารต้องมีการบันทึกภาพเผยแพร่ทางโทรทัศน์แก่ประชาชน เป็นต้น (นี้แค่เบาๆนะ)

เตโอโดโร โอเบียง งวยบา ( Obiang Nguema ) ผู้นำประเทศเอเควตอเรียลกินี ครองอำนาจมาตั้งแต่ปี 2522

ได้รับฉายา “ ผู้นำที่หน้าด้านที่สุดในโลก ” ประธานาธิบดีผู้นี้ขึ้นครองอำนาจในประเทศเล็กๆ โดยการสังหารประธานาธิบดีคนก่อน ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงแท้ๆ ของเขา…. ( อ่าวเวร )

เท่านี้ยังไม่พอ 2546 สถานีวิทยุของรัฐประกาศว่า โอเบียง สามารถติดต่อจากพระเจ้าได้โดยตรง และ เขามีสิทธิสั่งฆ่าใครก็ได้โดยไม่ตกนรก และครั้งหนึ่งเขาเคยประกาศต่อประชาชนว่า “เขารู้สึกมีภาระหน้าที่ในการปกป้องสมบัติของประเทศชาติ”ว่าแล้วพี่แกก็เลยจัดการโอนเงินที่ใช้ในการบริหารราชการแผ่นดินจำนวนหลายพันล้าน ไปเก็บเป็นบัญชีของตนเองและครอบครัวที่ธนาคารในต่างประเทศซะเลย (เอ๊ะ นี้ยังไงถามใครบ้างยัง ทำแบบนี้พ่อแม่ไม่ว่าหร๊อะ )