วันที่ 26 ม.ค. เซาต์ไชน่ามอร์นิงโพสต์รายงานกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้นในจีน กรณีนางเฉิน ชิงเซียะ จากมณฑลเฮย์หลงเจียง ถูกกักบริเวณในโรงเก็บศพร้างนานถึง 3 ปี เนื่องจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไม่พอใจที่นางเฉินจะไปยื่นฎีกาที่กรุงปักกิ่งเพื่อขอความเป็นธรรมให้สามีที่เป็นคนไข้จิตเวช และถูกเจ้าหน้าที่ทุบตีระหว่างถูกคุมขังเมื่อหลายปีก่อน



รายงานระบุว่าการต่อสู้ของนางเฉินเริ่มต้นขึ้นในปี 2546 เมื่อสามีถูกลงโทษให้กักบริเวณที่ค่ายแรงงานในข้อหาทำลายทรัพย์สินราชการ แต่ค่ายแรงงานไม่ยอมรับตัวไว้ เนื่องจากตรวจพบว่ามีประวัติเป็นคนไข้จิตเวช จึงส่งตัวกลับมาให้เจ้าหน้าที่ของมณฑลเฮย์หลงเจียง ต่อมาเมื่อนางเฉินไปรับตัวสามี ก็พบว่ามีรอยฟกช้ำตามร่างกายและอาการทางจิตเลวร้ายลง จึงเชื่อว่าสามีถูกทำร้ายร่างกาย จึงเดินทางไปกรุงปักกิ่งเพื่อยื่นฎีการ้องเรียน



ต่อมานางเฉินถูกสกัดจับได้ และพาไปคุมขัง 10 วัน ก่อนส่งตัวไปค่ายแรงงานเป็นเวลา 18 เดือน แต่เมื่อพ้นโทษออกมานางเฉินก็ยังพยายามยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมอีก เจ้าหน้าที่จึงจับไปกักบริเวณในโรงเก็บศพร้างในเมืองยี่ฉุน โดยมียามเฝ้า นางเฉินเผยว่า ปัจจุบันอาการของตนย่ำแย่ลงมาก เพราะขาใช้การไม่ได้เนื่องจากถูกทุบตีขณะถูกคุมขัง ทุกวันนี้ต้องนั่งรถเข็น นอกจากนี้ยังไม่ได้ติดต่อกับลูกชายอายุ 12 ปีมานานแล้ว ส่วนสามีถูกกักตัวอยู่ในโรงพยาบาลประสาท



ด้านกรมโฆษณาชวนเชื่อของเมืองยี่ฉุนระบุว่า นางเฉินได้รับการดูแลอย่างดีโดยเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานด้านสาธารณสุข ขณะที่บีบีซีรายงานว่าหลังจากที่สังคมออนไลน์เผยแพร่เรื่องราวนี้ทางการจีนได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว ซึ่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ในท้องที่ระบุว่าเจ้าหน้าที่ที่กระทำเหตุนี้จะต้องรับผิดชอบ