ขายโจ๋งครึ่มเกลื่อนเชียงใหม่ เตือนสุดอันตราย-ถึงตายได้ รับหิ้วขึ้นเครื่องจากกทม.ดื้อๆ

แก๊งเกย์ - ตำรวจภาค 5 แถลงจับนายภัทร นิลกุล นายณัฐวุฒิ ต่อกัน และนายภัทรพล ธัมภวัฒน์ แก๊งเกย์ซึ่งเป็นบัณฑิตสถาบันการศึกษาชื่อดังของเชียงใหม่ เปิดขายยาไอซ์และยาเสียสาวทางเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 26 ม.ค.

สืบภาค 5 แถลงจับแก๊งเกย์เชียงใหม่ อดีต นักศึกษามหาวิทยาลัย ชื่อดัง ขายยาเสียตัว พร้อมไอซ์เคตามีนผ่านเฟซบุ๊ก ใช้ชื่อเครือข่าย "เกย์ โรมิโอ" เผยรับของจากเพื่อนในกรุงเทพฯ ยัดใส่กระเป๋าโหลดมาดื้อๆ หรือบางครั้งพกขึ้นเครื่อง ก็ไม่เคยถูกจับ รับเคยใช้หาเหยื่อหลับนอนเอง พร้อมขายให้เครือข่าย ด้านสสจ.เชียงใหม่เตือน ไม่ใช่ยาเสียตัว แต่เป็นยาจีเอชบี มีฤทธิ์ให้สลบเพื่อการผ่าตัด หากรับในปริมาณมากอันตรายถึงตาย



เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 26 ม.ค. ที่บก.สส.ภาค 5 พล.ต.ต.ประจวบ วงค์สุข ผบก.สส.ภ.5 พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.5 นายอิศรา นานาวิชิต หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค และเภสัชกรสาธารณสุข เชียงใหม่ ร่วมแถลงจับกุมผู้ต้องหาร่วมกันค้ายาเสพติดและสารเสพติดจีเอชบีหรือยาเสียตัว ประกอบด้วย 1.นายภัทร หรือโอ นิลกุล อายุ 26 ปี บัณฑิตคณะวิทยาศาสตร์ สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง บ้านเดิมเลขที่ 121 หมู่ 7 ต.สันกลาง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ 2.นายณัฐวุฒิ หรือแซม ต่อกัน อายุ 25 ปี ถูกรีไทร์จากคณะเกษตรศาสตร์ บ้านเดิมเลขที่ 44 หมู่ 8 ต.หลวงใต้ อ.งาว จ.ลำปาง 3.นายภัทรพล หรือบุ้ง ธัมภวัฒน์ อายุ 24 ปี บัณฑิตคณะศึกษาศาสตร์ บ้านเดิมเลขที่ 147/6 หมู่ 12 ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาไอซ์ 27.16 กรัม ยาอี 10 เม็ด วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 ยาเคตามีน 3 ขวด ยาจีเอชบีหรือยาเสียตัว 2 แพ็ก แพ็กละ 5 หลอด เครื่องชั่งดิจิตอล 2 เครื่อง อุปกรณ์การเสพ 2 ชุด



พล.ต.ต.ประจวบเผยว่า ตำรวจชุดสืบสวนภาค 5 รับแจ้งว่ากลุ่มผู้ต้องหาซึ่งมีนายภัทร หรือโอ ลักลอบจำหน่ายยาไอซ์และยาอีให้กลุ่มวัยรุ่นผู้เสพยาในพื้นที่ อ.เมืองเชียงใหม่ จึงสืบสวนติดตามจนทราบว่านายภัทรพักอาศัยอยู่ที่โรงแรมบีทู ต.สันติธรรม อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จึงเข้าตรวจสอบ พบนายภัทรยืนอยู่หน้าโรงแรม จึงแสดงตัวและขอตรวจค้น จนพบยาไอซ์ซ่อนอยู่ในกล่องบุหรี่ 1.09 กรัม



โดยนายภัทรสารภาพว่า มียาไอซ์และยาอีซ่อนอยู่บนโรงแรม เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจค้น พบของกลางจำนวนมากดังกล่าว ระหว่างการเข้าค้นพบนายภัทรพลกำลังเสพยาไอซ์ และนายณัฐวุฒินำยาไอซ์มาส่งให้กับนายภัทรที่โรงแรมพอดี เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ทั้งหมด



จากนั้นตำรวจขยายผลตรวจค้นที่พักของนายณัฐวุฒิ ที่อพาร์ตเมนต์เพชรวุธล้านนา ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ก็พบยาเสพติดพร้อมอุปกรณ์การเสพอีกจำนวนหนึ่ง จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและเสพ



พล.ต.ต.ประจวบกล่าวว่า จากการสืบสวนขยายผลการซื้อขายยาเสพติดทางอินเตอร์เน็ต และเฟซบุ๊ก จนพบกลุ่มเกย์ กะเทย ที่เล่นเฟซบุ๊ก โดยใช้ชื่อว่าเกย์ โรมิโอ (Gay Romeo) ซึ่งเป็น กลุ่มเกย์หรือกะเทย มีการสั่งซื้อยาไอซ์ ยาอี ยาจีเอชบีทางเฟซบุ๊กของกลุ่มดังกล่าว จึงสืบสวนจนทราบตัวและจับกุมตัวได้ในที่สุด



นายอิศรา หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค และเภสัชกรสาธารณสุข เชียงใหม่ กล่าวว่า ยาจีเอชบีคือยาสลบ ใช้ในการผ่าตัด โดยผู้ต้องหานำยาตัวนี้ออกมาใช้ในทางที่ผิด โดยให้ชื่อว่า "ยาเสียตัว" จริงๆ แล้วไม่ใช่ ถือเป็นยาอันตราย หากผสมในเครื่องดื่มจะทำให้ไม่มีแรง อ่อนแรง และหลับไปในที่สุด หากมีปริมาณที่มากก็ทำให้เสียชีวิตได้



นายภัทร ผู้ต้องหาเปิดเผยว่า ซื้อยาไอซ์มาในราคากรัมละ 2,500 บาท นำมาขายที่เชียงใหม่ราคา 4,000 บาท ยาอีซื้อมา 500 บาท ขาย 800 บาท ส่วนยาจีเอชบีหรือยาเสียตัวนั้น ซื้อมาราคา 200 บาท ขาย 500 บาท โดยไปซื้อมาจากนายแบงก์ ที่กรุงเทพฯ โดยนำขึ้นมาด้วยการใส่กระเป๋าและโหลดลงใต้ท้องเครื่องบินทั้งยาไอซ์ ยาอี ยาจีเอชบี ซึ่งก็ผ่านการตรวจทั้งหมด โดยยาไอซ์ปริมาณ 30-40 กรัม ก็สามารถผ่านการตรวจ บางครั้งจะเอายาไอซ์ติดตัวขึ้นเครื่องบิน ประมาณ 5-10 กรัม เจ้าหน้าที่ก็ตรวจไม่พบแต่อย่างใด ซึ่งทำแบบนี้มาตลอด



นายภัทรกล่าวอีกว่า สำหรับส่วนผสมสูตรต่างๆ นั้น บางครั้งตนก็ใช้กับหญิงสาวและผู้ชายวัยรุ่น หากต้องการพาไปนอนร่วมเพศ โดยผสมในเครื่องดื่ม ใช้จีเอชบีผสมลงไป 1 หลอดเล็ก ทำให้วัยรุ่นที่โดนเข้าไปจะไม่มีแรง ตนก็จะนำไปร่วมหลับนอน ส่วนมากจะเน้นผู้ชาย การซื้อขายก็จะมีการสั่งซื้อขายกันทางเฟซบุ๊ก โดยใช้ชื่อเข้าไปในกลุ่มของเฟซบุ๊ก Gay Romeo และก็สั่งซื้อและเสนอขายกันทั้งขายและทั้งทดลองใช้ควบคู่กันไป