เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ ม่วงมหากาฬ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
เลย...จังหวัดเล็ก ๆ แต่กลับซุกซ่อนความงามเอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นทางธรรมชาติ วัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิต อย่างที่ได้สัมผัสกัน เช่น ภูกระดึง ภูเรือ เชียงคาน และพระธาตุศรีสองรัก ฯลฯ แต่วันนี้กระปุกท่องเที่ยวจะพาเพื่อน ๆ ไปเปิดหูเปิดตา ทำความรู้จักกับอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองที่มีคำขวัญว่า ... เมืองแห่งทะเลภูเขา สุดหนาวในสยาม ดอกไม้งามสามฤดู ... นั่นก็คือ ภูลมโล อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่เราอยากจะแนะนำกัน
ภูลมโล เป็นรอยต่อ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก และ ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์ อยู่ในเขตตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ ที่นอกจากความสวยงามของขุนเขา ทัศนียภาพของป่าไม้ และอากาศที่หนาวเย็นแล้ว ที่นี่ยังมี ดอกนางพญาเสือโคร่ง ซึ่งจะออกดอกบานอวดโฉมให้ชมกันทุกปีอีกด้วยจ้า (บานช่วงกลางเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ ควรตรวจสอบข้อมูลก่อนเดินทาง) ^__^ อะ ๆ ยังไม่หมดเท่านั้น เพราะก่อนขึ้นไปข้างบน เพื่อน ๆ ยังจะได้สัผัสกับวิถีชีวิตของชาวม้ง รวมถึงสามารถเลือกช้อปของพื้นบ้านทั้งอาหาร และสินค้าต่าง ๆ ติดไม่ติดมือกลับบ้านไปด้วย
นั่นแน่! เริ่มรู้สึกอยากทักทายและทำความรู้จักกับ "ภูลมโล" มากกว่านี้แล้วใช่ไหมล่ะ ถ้าอย่างนั้นก็ตามไปเก็บเกี่ยวข้อมูลพร้อมกับชมภาพถ่ายแจ่ม ๆ จากบันทึกการเดินทางของคุณ ม่วงมหากาฬ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ไปเลยจ้า
ภาพถ่ายใบนั้นจากโลกออนไลน์...ภาพถ่ายใบนั้นที่ดอยทั้งดอยเป็นสีชมพู...ภาพถ่ายใบนั้นที่สวยจับใจ...และเป็นภาพถ่ายใบนั้นที่สร้างแรงบันดาลใจได้มากมาย จนผมต้องตามหามัน "ภูลมโล"
บ้านร่องกล้าก่อนขึ้นดอยภูลมโลมีชาวม้งตั้งแผงขายของพื้นบ้าน พืชผักท้องถิ่นในราคาไม่แพงนัก
ดอกกระดาษมีขายไปทั่ว แอบงงอยู่เหมือนกันว่าทำไมถึงขายกันเยอะมาก แต่ดูไปก็สวยดี
ผมใช้เส้นทางอุทยานฯ ภูหินร่องกล้า ถนนค่อนข้างดีจนถึงบ้านร่องกล้า แต่หลังจากนั้นทางจะค่อนข้างลำบาก ระยะทางราว ๆ 5 กิโลเมตร ก่อนถึงภูลมโล
ถนนช่วง 5 กิโลเมตร จากบ้านร่องกล้า ทางเป็นดินแดง มีหลุมร่องเป็นระยะ ไม่ควรใช้รถเก๋งในการเดินทาง
จากบทเกริ่นนำของรีวิว ภาพถ่ายใบนั้นยังอยู่ในความทรงจำ จนถึงวันที่ใกล้เป็นความจริง
ผมไม่รู้หรอกว่ามันจะไกลแค่ไหน ไม่รู้หรอกว่าเส้นทางจะลำบากเพียงใด รู้แค่ว่าผมต้องออกเดินทาง
ถ้าถนนดี ๆ ถนนสายนี้คงสวยไม่แพ้ที่ใดในโลก คงมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนไม่น้อย
จากบ้านร่องกล้าระยะทางเพียง 5 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาค่อนข้างมากทีเดียวก่อนถึงภูลมโล
ภูลมโล มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,664 เมตร
เมื่อมายืนด้านบนของภูลมโลสามารถมองเห็นทัศนียภาพกว้างไกล มองเห็นได้ถึง 3 ภู คือ ภูทับเบิก ภูหินร่องกล้า และภูขี้เถ้า
ภาพถ่ายใบนั้น ไม่ได้เป็นเพียงแค่ภาพถ่ายอีกต่อไป
ดอกนางพญาเสือโคร่งที่บานสะพรั่ง สีชมพูสดงดงามจับใจ
ที่แห่งนี้มีต้นนางพญาเสือโคร่งถึงหนึ่งแสนต้น หรือกว่าพันไร่
ในวันที่ผมไปเยือนคือช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ดอกนางพญาเสือโคร่งยังบานไม่ถึง 40 เปอร์เซ็นต์
แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ดอยเป็นสีชมพู และทำให้หัวใจของผมพองโต
แต่เดิมโดยรอบภูลมโลเป็นพื้นที่ปลูกกะหล่ำปลีของชาวม้ง ต่อมาทางอุทยานฯ ต้องการให้ชาวม้งออกจากเขตพื้นที่ จึงได้ตกลงกับชาวม้งให้ปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งสลับกับปลูกกะหล่ำปลี เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว นำรายได้มาสู่ชุมชน ซึ่งเป็นผลดีกับทุกฝ่าย
ย้อนกลับไปในสมัยก่อน ดินแดนแห่งนี้เคยเป็นพื้นที่สีแดง โดยฝ่ายคอมมิวนิสต์ใช้เป็นฐานที่ตั้ง และลำเลียงอาวุธในการสงคราม ปัจจุบันพื้นที่แห่งนี้กลับคืนสู่ความสงบ ร่องรอยการสู้รบยังมีหลงเหลือให้เห็นอยู่บ้าง รวมถึงบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ทางประวัติศาสตร์ ให้ลูกหลานได้ศึกษาเป็นบทเรียน
ในวันนี้มีนักท่องเที่ยวมาเยือนไม่มากนัก หรือแทบจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะถนนหนทางที่ค่อนข้างลำบาก และที่พักต้องกางเต็นท์เท่านั้น
นักท่องเที่ยวที่ไม่มีรถโฟร์วีลก็สามารถว่าจ้างรถเช่าขึ้นมาได้ ซึ่งมีให้บริการโดยทั่วไป ทั้งที่บ้านร่องกล้า และบ้านกกสะทอน
นับจากวันที่ผมรีวิวนี้ ก็ยังสามารถไปเที่ยวชมได้ทัน ดอกนางพญาเสือโคร่งน่าจะบานเต็มที่ในราวกลางเดือนมกราคม จนถึงปลายเดือนมกราคม
ผมเชื่อว่าหลาย ๆ ท่านจะต้องตะลึงในความงาม ความอลังการ และจำนวนต้นนางพญาเสือโคร่งที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ... มากจนสุดลูกหูลูกตา มากในแบบที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน และมากที่สุดในประเทศไทย
การเดินทางในวันนี้ช่างแสนวิเศษ ภาพถ่ายใบนั้น ทำให้ผมได้มาเจอความสวยงามในวันนี้ และภาพความทรงจำในวันนี้จะอยู่ในใจผมตลอดไป
ยืนอยู่นิ่ง ๆ ค่อยหมุนตัวอย่างช้า ๆ มองออกไปให้ไกล ๆ เก็บบันทึกเรื่องราวลงในความทรงจำ สายลม ท้องฟ้า ภูเขา เราจะอยู่คู่กันตลอดไป
จุดนี้เมื่อมองออกไปริบ ๆ จะเห็นภูร่องกล้า ซึ่งเป็นอีกสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมากางเต็นท์ค้างแรม
ช่วงบ่ายแก่ ๆ ของวัน ความสุขค่อย ๆ เดินไปตามห้วงเวลา ความเย็นเริ่มเข้ามาทักทาย
นั่งเขียนรีวิวชุดนี้แบบเร่งด่วนเพื่อให้ทันคนที่จะตามรอย จะได้ทันดอกนางพญาเสือโคร่งที่บานเต็มที่
นั่งเรียบเรียงเรื่องราวความทรงจำ ความสุขเริ่มกลับมาอีกครั้งเมื่อได้เห็นภาพถ่าย อยากกลับไปยืนตรงนั้นอีกครั้ง ในวันที่ดอกนางพญาเสือโคร่งบานแบบ 100 เปอร์เซ็นต์
อาจมีแค่ผมเพียงคนเดียวที่กำลังมองไปยังดอยฝั่งนั้น แต่จะมีสักกี่คนที่มองมายังภูลมโล คงเปรียบได้กับจะมีนักท่องเที่ยวสักกี่คนที่จะนึกถึงภูลมโลเป็นลำดับต้น ๆ ในการเดินทาง
แสงสุดท้ายในวันนี้สวยจับใจดีเหลือเกิน เป็นแสงจากธรรมชาติจริง ๆ ที่ไม่ได้ย้อม
ยิ่งดึกอุณหภูมิก็ยิ่งหนาวเหน็บ หนาวจนต้องจุดกองไฟผิงกาย พี่ที่เป็นไกด์ของนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มเล่าว่า บางวันยังเกิดแม่คะนิ้งบนภูลมโล
เช้าวันใหม่พร้อมกับการรีบตื่นของพวกเรา เพื่อไปเก็บภาพแสงแรกของวันบนดอยซึ่งไปไกลจากกันนัก
เป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชื่นชมความงามของแสงแรก ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่เรากางเต็นท์ไม่กี่ร้อยเมตร
จุดนี้สามารถมองเห็นภูทับเบิก และบ้านทับเบิกที่อยู่ด้านล่าง สวยงามเกินบรรยายจริง ๆ
ดวงตะวันเริ่มส่องแสงสีทองเจิดจ้า การเดินทางของชีวิตกำลังเริ่มขึ้น ต่างสถานที่ ในเวลาเดียวกัน ความสุข และความทรงจำที่แตกต่างกันไป
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ตะวันทอแสงได้สวยงามจริง ๆ จนต้องเก็บภาพความทรงจำในห้วงเวลาแบบนี้ให้มากที่สุด
เช้าแล้ว...หรือบางทีก็ใจหายที่ใกล้จะถึงเวลาที่ต้องจากลากัน ไม่รู้ว่าอีกเมื่อไหร่จะได้มายืนบนจุดนี้ และไม่รู้อีกนานแค่ไหนจะได้ทำตามหัวใจที่อยากทำ
แสงสีทองปูพรมห่มยอดดอย หากจะเรียกดอยสีทองคงไม่ผิดไปจากภาพถ่ายนัก
บางช่วงของดอยเป็นภูเขาหัวล้าน อาจเพราะชาวบ้านเข้าไปลุกล้ำเพื่อทำไร่ บางช่วงเป็นหุบเหว ดูหวาดเสียวดีเหมือนกัน
หมอกจาง ๆ ละเลียดไปกับสายลมเอื่อย ๆ ถ้ามีทะเลหมอกคงงดงามเกินกว่าที่ใด ๆ
อยากให้หลาย ๆ คนตามรอย เพราะไม่ไกล และลำบากเกินไปนัก รายได้จะได้กระจายเพื่อช่วยเหลือชุมชน ผมชอบในความจริงใจของชาวบ้าน ชอบในรอยยิ้มและอัธยาศัยมิตรไมตรีของผู้คน
เมืองไทยยังมีที่ที่ UNSEEN อีกมาก และ "ภูลมโล" คือหนึ่งในนั้นแน่นอน
จากลากันไปด้วยภาพความสวยงามของภูลมโล แล้วพบกันใหม่ทริปหน้าครับ สวัสดีครับ
การเดินทาง
ใช้เส้นทางด่านซ้าย - นครไทย ประมาณ 9 กิโลเมตร แยกซ้ายตรงไปอีก 18 กิโลเมตร ก็จะถึง อบต.กกสะทอน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทรศัพท์ 0 4280 1714 หรืออุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า โทรศัพท์ 0 5535 6607