วันนีั้ (26 ม.ค.) เวลา 01.30 น. ร.ต.ท.วิศิษฐ์ โพธิ์ศรี พนักงานสอบสวน สน.บางกอกน้อย รับแจ้งเหตุรถกระบะขับย้อนศรชนเสาไฟฟ้า บริเวณปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 23/1 แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
 

ที่เกิดเหตุพบ รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ถจ-1449 กรุงเทพมหานคร พุ่งขึ้นบาทวิถีพุ่งชนเสาไฟฟ้าบริเวณหน้าปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 23/1 จอดแน่นิ่งกันชนด้านหน้าพังยับ ล้อหน้าขวาแตกยางแบนราบติดพื้น ส่วนผู้ขับขี่ทิ้งรถหลบหนีไปไม่ทราบเส้นทาง จากการตรวจสอบภายในรถพบอุปกรณ์เสพยาไอซ์ ซุกอยู่ใต้เบาะคนขับ จำนวน 1 ชุด คู่กับรองเท้าแตะยี่ห้อเทวินทร์ อีก 1 คู่ จึงยึดเอาไว้เป็นหลักฐาน แต่ไม่พบเอกสารแสดงการครอบครองรถหรือบัตรประจำตัวผู้ขับขี่ตกอยู่ จึงนำรถยกมาลากรถของกลางนำไปเก็บไว้ที่ สน.บางกอกน้อย

ต่อมานายโสภณัฐ งามขำ อายุ 22 ปี เจ้าหน้าที่สำรวจอุบัติเหตุของบริษัทประกันภัยรถยนต์ชื่อดังแห่งหนึ่ง พร้อม น.ส.พรไพลิน จันปา อายุ 22 ปี แฟนสาว เดินทางมาที่โรงพัก เพื่อแจ้งความให้ดำเนินคดีกับผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวเนื่องจากเพิ่งก่อเหตุแล่นชนรถ จยย.ขณะกำลังพาแฟนสาวซ้อนท้ายจนเกือบตายแล้วขับหลบหนีไป โดยนายโสภณัฐ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ขี่รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นโซนิค สีน้ำเงิน ทะเบียน ษคร 340 กรุงเทพมหานคร มีแฟนสาวซ้อนท้ายไปเติมน้ำมันที่ปั๊มบนถนนพรานนก และกำลังจะขับมุ่งหน้าไปทางแยกพรานนก เพื่อกลับบ้านในซอยอิสรภาพ 37 ระหว่างนั้นพบรถวีโก้ สีบรอนซ์เทา คู่กรณี ขับไล่กันมากับรถกระบะ รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ทอง ไม่ทราบทะเบียน จำได้แค่มีไซเรนหยดน้ำบนหลังคา ติดเสาวิทยุ และมีกรวยยางสีส้มวางอยู่ท้ายกระบะมาจากฝั่งตรงข้าม
 

จากนั้นรถวีโก้ สีบรอนซ์เทา พยายามฉีกหนีการไล่ล่าด้วยการหักพวงมาลัยยูเทิร์นรถแบบกระทันหันผ่านหน้ารถตนบริเวณด้านหน้าธนาคารกสิกรไทย เพื่อมุ่งหน้ากลับไปทางแยกพรานนกอีกครั้ง แต่รถวีโก้ สีบรอนซ์ทอง ยังติดตามไม่ลดละกลับรถตามมาปาดหน้าให้หยุด ช่วงนั้นตนเห็นชัดเจนว่า ภายในรถวีโก้ สีบรอนซ์ทอง มีผู้ขับขี่และคนนั่งคู่หน้าเป็นชายมาด้วยกัน รูปร่างคล้ายตำรวจ เปิดกระจกตะโกนบอกให้คนขับรถวีโก้ สีบรอนซ์เทา จอดรถ ซึ่งแทนที่จะปฏิบัติตามคำสั่งคนขับรถวีโก้ สีบรอนซ์เทา กลับเร่งเครื่องถอยหลังตั้งลำแล่นย้อนศรมุ่งหน้าพุ่งมาชนและทับรถ จยย.ของตนจนได้รับความเสียหาย โชคดีที่ตนและแฟนสาวระวังตัวอยู่แล้วจึงพากันกระโดดหลบเข้าพุ่มไม้ตรงเกาะกลางถนนหนีตายได้ทัน หลังจากนั้นรถคู่กรณีก็แล่นย้อนศรบนถนนพรานนกไปถึงแยกไฟฉายแถมยังเลี้ยวซ้ายแบบย้อนศรเข้าไปบนถนนจรัญสนิทวงศ์ โดยมีรถวีโก้ สีบรอนซ์ทอง แล่นตามไปติด ๆ และทราบว่ารถกระบะสีบรอนซ์เทาคันดังกล่าวยังได้เฉี่ยนชนรถเก๋งและรถแท็กซี่ อีกรวม 2 คัน ก่อนพุ่งชนเสาไฟฟ้าบริเวณหน้าปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 23/1

พ.ต.ท.อดิเรก อติสัจจา สว.สส.สน.บางกอกน้อย กล่าวว่า จากการตรวจสอบรถกระบะที่ชนกับเสาไฟฟ้านั้นพบว่าผู้ครอบครองชื่อนายชัยชนะ พุฒิแก้ว อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/1 ม.8 อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี จดทะเบียน วันที่ 28 ก.พ. 51 ซึ่งไม่มีการแจ้งหายที่ไหนมาก่อน เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อไปยังเจ้าของรถแล้ว โดยทางเจ้าของรถบอกว่าในช่วงวันและเวลาดังกล่าวได้มีลูกน้องคนหนึ่งนำรถออกไปใช้ ซึ่งจากนี้จะพาเดินทางเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน

พ.ต.ท.อดิเรก กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบในรถแล้วพบอุปกรณ์การเสพนั้นเชื่อว่า ผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอย่างแน่นอน ไม่ทางการเสพ หรือไม่ก็จำหน่าย และส่วนที่มีพยานให้การว่าพบเห็นรถกระบะอีกคันวิ่งไล่รถคันที่เกิดเหตุนั้นจะสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบว่ารถคันดังกล่าวนั้นเป็นของเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีพยานบอกอีกว่ารถคันที่ชนเสาไฟฟ้านั้นได้หลบหนีแหกด่านของ สน.ตลิ่งชัน ต้องตรวจสอบอีกครั้ง