พลิกปูมสร้างโรงพักฉาว!! แก้ประมูลรายภาคเป็นรวมศูนย์

กลายเป็นประเด็นร้อนสะเทือนถึงนักการเมืองอีกครั้ง สำหรับโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 หลัง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) วงเงินงบประมาณ 6,672 ล้านบาท

หลัง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีหนังสือถึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เพื่อขอความเห็นชอบโครงการ โดยแยกเสนอเป็นรายภาคเพื่อเปิดประมูล ซึ่ง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ทำหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2552

ต่อมาในปีเดียวกันมีการเสนอใหม่ โดยนายสุเทพอนุมัติให้ยกเลิกแนวทางจัดจ้างเป็นรายภาค และอนุมัติใหม่ให้มีการจัดจ้างรวมกัน ทำให้มีเพียงบริษัทเดียวที่ชนะประมูล คือ บริษัท พีซีซี ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด กลายเป็นจุดเริ่มต้นให้การสร้างไม่เสร็จ เพราะทำเพียงบริษัทเดียว และมีการจ้างช่วงต่อให้ผู้รับเหมาคนอื่น ถือว่ากระทำผิดสัญญา ซึ่งหากสร้างแยกภาคจะทำให้การก่อสร้างเดินหน้าได้เต็มที่ นายธาริตแถลง

โดยสัญญากำหนดว่าผู้รับจ้างต้องเริ่มทำงาน ในวันที่ 26 มีนาคม 2554 และจะต้องแล้วเสร็จวันที่ 17 มิถุนายน 2555 ต่อมามีการขยายระยะเวลาก่อสร้าง เป็นเหตุให้สัญญาสิ้นสุดวันที่ 14 มีนาคม 2556

หากแต่เมื่อจวนเจียนจะถึงวันสิ้นสุดสัญญาก่อสร้าง ยังไม่มีโรงพักแห่งใดสร้างเสร็จ โดย 280 หลังอยู่ระหว่างก่อสร้าง และอีก 166 หลัง ยังไม่เริ่มลงมือก่อสร้าง

สร้างความเดือดร้อนให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงานและประชาชนผู้มาติดต่อราชการ บางโรงพักต้องอาศัยร่มเงาใต้ต้นไม้ในการติดต่อราชการไปพลางๆ บางโรงพักใช้บ้านพักข้าราชการเป็นสถานที่ทำการชั่วคราว บางโรงพักขอยืมพื้นที่ อบต. สนามกีฬา ฯลฯ

ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบหนังสือขออนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดราคากลางและคณะกรรมการกำหนดร่างขอบเขตของงาน เสนอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2552

หนังสืออ้างอิงถึงเรื่องเดิม ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ประชุมปรึกษาเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 ลงมติอนุมัติหลักการโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) ตามที่ ตร.เสนอรวมทั้งสิ้น 396 หลัง วงเงิน 6,672 ล้านบาท

ต่อมา ตร.มีหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2552 ถึงนายกรัฐมนตรี เรื่องขอรับความเห็นชอบแนวทางในการจัดจ้าง โดยวิธีประกวดราคาตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2549 โดยส่วนกลาง ตร. และแยกการเสนอราคาเป็นรายภาค ซึ่งนายสุเทพ ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2552

และวันที่ 24 มิถุนายน 2552 ตร.มีหนังสืออนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดราคากลาง และแต่งตั้งคณะกรรมการร่างขอบเขตของงาน (TOR)

โดยในข้อพิจารณาของหนังสือระบุว่า เนื่องจากรองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี (นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ) ได้อนุมัติยกเลิกแนวทางในการจัดจ้างโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) โดยวิธีประกวดราคาตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2549 โดยส่วนกลาง ตร.และแยกการเสนอราคาเป็นรายภาค

และอนุมัติให้ ตร.ดำเนินการประกวดราคาจัดจ้างโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 แห่ง ในวงเงิน 6,298 ล้านบาท ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยโยธาธิการเป็นหน่วยงานจัดจ้างก่อสร้างทุกอาคารรวมกันในครั้งเดียว ในการจัดจ้างจึงต้องดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดราคากลาง เพื่อคำนวณราคากลางใหม่ จากเดิมคำนวณราคากลางแยกเป็นรายภาค เป็นการคำนวณราคากลางรวมทุกอาคารสำหรับการเสนอราคาในครั้งเดียว

และแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดร่างขอบเขตของงาน (TOR) และร่างเอกสารการประกวดราคา เพื่อพิจารณากำหนดร่างขอบเขตของงานและร่างเอกสารการประกวดราคาใหม่ จากเดิมกำหนดรายละเอียดการเสนอราคาแยกเป็นรายภาค เป็นกำหนดการเสนอราคารวมทุกภาคในครั้งเดียว

โดยสำนักงานส่งกำลังบำรุง (สกบ.) พิจารณาแล้ว เพื่อให้การดำเนินการจัดจ้างโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเป็นไปตามอนุมัติของรองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ) จึงอนุมัติยกเลิกการแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดร่างราคากลาง การแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดร่างขอบเขตของงาน (TOR) ร่างเอกสารการประกวดราคา และการอนุมัติร่างขอบเขตของงาน พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการทุกชุดใหม่

ขณะที่หนังสืออีกฉบับของ ตร. ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2553 เรื่องขอรับความเห็นชอบราคาและขออนุมัติจ้างก่อสร้างโครงการอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 หลัง โดยวิธีประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เสนอต่อนายสุเทพ สรุปว่า กองโยธาธิการ ประกาศประกวดราคาพร้อมขายแบบรูปรายการและเอกสารประกวดราคา เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2553 ถึงวันที่ 5 กรกฎาคม 2553 มีผู้สนใจซื้อแบบรูปรายการและเอกสารประกวดราคา 10 ราย และมีผู้ยื่นซองประกวดราคาในวันที่ 20 กรกฎาคม 2553 จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย บริษัท ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัดสามประสิทธิ์ บริษัท เพาเวอร์โลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) และบริษัท เบ็ญจมาศ จำกัด โดยทั้งหมดมีคุณสมบัติครบถ้วน

วันที่ 29 กรกฎาคม 2553 ผลการเสนอราคาปรากฏว่าบริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เสนอราคาต่ำที่สุด 5,848,000,000 บาท คณะกรรมการประกวดราคาร่วมกันพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นราคาที่เหมาะสม ไม่เกินราคากลางและงบประมาณที่ได้รับจัดสรร จึงมีมติเห็นควรรับราคาค่าก่อสร้าง จากบริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด

ฉะนั้นการดำเนินการทุกอย่างต้องมีเหตุผลและที่มาที่ไป ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังเดินหน้าสืบสวนสอบสวนรวมรวบพยานหลักฐานและหากพบการกระทำความผิดจะต้องดำเนินคดีต่อไป เช่นเดียวกับ ตร. นอกจากดำเนินการตรวจสอบแล้ว ยังต้องแก้ปัญหาการจัดหาสถานที่ทำการชั่วคราว และปลดล็อกให้การก่อสร้างโรงพักทดแทนดำเนินต่อไปจนแล้วเสร็จโดยเร็ว!!