ภูมิประเทศที่เป็นภูเขาทอดตัวยาวลดหลั่น สลับกับที่ราบลุ่ม ทำให้ "พะโต๊ะ" อำเภอหนึ่งของ จ.ชุมพร มีต้นน้ำอุดมสมบูรณ์ที่เรียกว่า "ลุ่มแม่น้ำหลังสวน" คอยหล่อเลี้ยงชีวิตชาวชุมพรตอนใต้

นอกจากนี้ ลักษณะภูมิอากาศแบบแถบร้อนชื้น มีฝนตกชุก ยังทำให้ดินแดนแห่งนี้ปกคลุมไปด้วยป่าดงดิบ และสัตว์ป่าหายาก ที่ช่วยหล่อหลอมชีวิตชาวบ้านให้อยู่ร่วมกับธรรมชาติ บนวิถีเศรษฐกิจพอเพียง และประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างกลมกลืน

อ.พะโต๊ะ อยู่ห่างจากตัวเมืองชุมพร 120 ก.ม. หากเดินทางมาจากกรุงเทพฯ เมื่อถึงตัวเมืองชุมพรให้มุ่งตรงมาตามถนนสาย 41 ประมาณ 83 ก.ม. ถึงแยกหลังสวนแล้วเลี้ยวขวาไปอีก 46 ก.ม. ก็จะถึง อ.พะโต๊ะ

ระหว่างทางเต็มไปด้วยหุบเขาคดเคี้ยวสวยงาม แวด ล้อมด้วยแมกไม้ตามธรรมชาติ ยิ่งในตอนเช้าจะเจอหมอกลอยอ้อยอิ่ง เป็นสิ่งยืนยันว่ากำลังเดินทางเข้ามาในเมืองทะเลหมอกแล้ว

วันที่ 2-3 ก.พ.นี้ หลายหน่วยงานใน อ.พะโต๊ะ จะร่วมกันจัด "เทศกาลล่องแพพะโต๊ะ" ขึ้น โดยชูสโลแกนเที่ยว 3 ทะเล "ค่ำทะเลดาว เช้าทะเลหมอก แดดออกทะเลป่า"

นายอุทัย วรมาศกุล ผอ.สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานชุมพร บอกว่าชาวพะโต๊ะ ส่วนราชการ และภาคเอกชน ร่วมใจกันจัดเทศกาลล่องแพพะโต๊ะ ในเดือนก.พ. เป็นประจำทุกปี เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ ให้ได้มาสัมผัสความงามของธรรมชาติ และชิมอาหารพื้นบ้าน

รวมถึงร่วมกิจกรรมล่องแพชมทัศนียภาพของ "แม่น้ำพะโต๊ะ" และชมการแสดงทางวัฒนธรรมต่างๆ โดยมาตั้งค่ายพักแรมกางเต็นท์ในสนาม กลางคืนจะได้เห็นทะเลดาว ตื่นมาตอนเช้าได้เห็นทะเลหมอก พอแดดออกจะได้เห็นทะเลป่า ถือเป็นรางวัลที่ธรรมชาติมอบคืนให้กับพี่น้องชาวพะโต๊ะที่ร่วมกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดี

จนพื้นที่นี้ได้รับฉายาว่า "ปายชุมพร" อย่างไม่ต้องสงสัย ที่สำคัญช่วงเวลาที่จัดงานยังมีอากาศหนาวเย็น อีกด้วย

ผอ.ททท.ชุมพร บอกอีกว่าสำหรับกิจกรรมการล่องแพจะนำนักท่องเที่ยวลงแพที่ต่อจากท่อพีวีซี มีความคงทนแข็งแรง และปลอดภัย เป็นภูมิปัญญาของชาวบ้านที่ดัดแปลงนำวัสดุที่คงทนกว่าไม้ไผ่ มาทำเป็นแพนำนักท่องเที่ยวล่องไปตามลำน้ำพะโต๊ะ ชมทัศนียภาพของสองฟากฝั่งคลอง และสามารถลงเล่นน้ำได้ตามคำแนะนำของพนักงาน ถ่อแพที่เป็นคนท้องถิ่น โดยทางอำเภอเน้นย้ำให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษ

ด้าน นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า พ่อเมืองชุมพร ร่วมแจกแจงรายละเอียดว่า เทศกาลล่องแพพะโต๊ะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 แล้ว นอกจากกิจกรรมล่องแพ ยังจัดกิจกรรมควบคู่กันไปอีกอย่างเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว นั่นคือ "เปิดเมืองกินฟรี" โดยจะปิดถนนในเขตเทศบาลตำบลพะโต๊ะ เพื่อให้แต่ละหมู่บ้านใน อ.พะโต๊ะ นำอาหารพื้นบ้านมาแสดงในซุ้มที่ตกแต่งด้วยวัสดุอุปกรณ์ตามธรรมชาติตามเอกลักษณ์ของแต่ละหมู่บ้าน

ภายในงานนักท่องเที่ยวจะได้รับภาชนะที่มีสัญลักษณ์ประจำงาน และประจำ อ.พะโต๊ะ สำหรับใส่อาหารกินฟรี ซึ่งแต่ละปีจะออกแบบไม่ซ้ำกัน นักท่องเที่ยวจะได้นำไปเป็นของที่ระลึกด้วย

การจัดงานเที่ยวล่องแพพะโต๊ะในครั้งนี้ ทางผู้จัดงานได้เตรียมอาหารไว้รองรับนักท่องเที่ยวแบบไม่อั้น โดยเฉพาะอาหารพื้นบ้าน เอกลักษณ์ของ อ.พะโต๊ะ อาทิ "แกงส้มหยวกกล้วยกับหมูสามชั้น" ที่จะต้องแข่งขันกัน ปรุงให้ชิม ก่อนจะคัดสรรว่ารสมือของตำบลใดจะได้รับเกียรติมาปรุง ให้นักท่องเที่ยว

นอกจากนี้ ยังมี "ผัดผักใบเหลียงใส่ไข่" และ "ยำผักกูด" รับประทาน คู่กับข้าวที่หุงด้วยกระบอกไม้ไผ่ โดยใส่ใบข่าลงไปด้วยก่อนนำไปเผาแบบข้าวหลาม เพื่อให้ข้าวสุกและมีกลิ่นหอม และยังมีทอดไข่บนใบตอง หรือเรียกว่า "ไข่อุบ" รวมถึง "ไข่ตุ๋นในกระบอกไม้ ไผ่" นำไข่มาตีกับนมสดเมื่อสุกจะมีกลิ่นหอมและ รสอร่อย

อีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือ "ยำสาวต่อตั้ง" เป็น ยำที่ใช้สมุนไพรปลอด สารพิษ และ "ต้มยำไก่ใส่ลูกชก" เป็นพืชในตระกูลลูกชิด รวมถึง "ต้มกะทิใบเหลียง" และ "น้ำพริก" ด้านเครื่องดื่มก็มี "กาแฟคลองเรือ" เป็นกาแฟที่ปลูกบนภูเขาสูงคั่วในโอ่งมังกรแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน

ใครที่มาเที่ยว อ.พะโต๊ะ ถ้าไม่ได้ลิ้มลองอาหารพื้นบ้านเหล่านี้ถือ ว่ามาไม่ถึง

ขณะที่ นายวชิระ พันดุสะ นายอำเภอพะโต๊ะ เสริมว่ากิจกรรมอีกอย่างที่นักท่องเที่ยวจะได้เห็นในปีนี้ คือ "การประกวดธิดาล่องแพ" จัดขึ้นเป็นครั้งแรก การประกวดร้องเพลง วิ่งมาราธอน ขบวนพาเหรดแฟนซีจากทุกตำบล การแข่งขันจักรยานเสือภูเขา โดยใช้เส้นทางรอบ อ.พะโต๊ะ การแข่งขันนกกรงหัวจุก ตลอดจนการแสดงทางวัฒนธรรมพื้นบ้าน

โดยเย็นวันที่ 2 ก.พ. วันแรกของงาน ทางอำเภอจะร่วมกัน อบจ.ชุมพร เปิดเมืองกินฟรีหน้าที่ว่าการอำเภอพะโต๊ะ มีอาหารสารพัดจากท้องที่ต่างๆ มาบริการนักท่องเที่ยวแบบไม่มีหมดกว่า 90 ซุ้ม

ทั้งหมดนี้คือกิจกรรมดี อาหารเด็ดที่ชาวพะโต๊ะอยากให้นักท่องเที่ยวไปสัมผัส สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ ททท. สำนักงานชุมพร โทร.0-7750-1831 และ 0-7750-2775-6