ประหลาด! หญิงวัย 28 หน้าเหี่ยวเหมือนคนอายุ 70 หลังคลอดลูก


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก whatsonxiamen.com

          ประหลาด! หญิงจีนวัย 28 ปี กลายเป็นคนใบหน้าเหี่ยวเหมือนคุณยายวัย 70 ปี หลังคลอดลูก แพทย์ส่ายหัวไม่มีทางรักษา นอกจากทำศัลยกรรมให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม

          ก่อนหน้านี้ เราคงได้ยินข่าวของหญิงสาวชาวเวียดนาม อายุ 26 ปี ที่จู่ ๆ ก็เกิดผื่นคันที่หน้า จึงไปหาหมอแล้วทานยารักษาผื่นคัน แต่ทว่าตัวเองกลับแพ้ยาจนใบหน้างาม ๆ นั้นเหี่ยวย่นกลายเป็นคุณยายอายุ 70-80 ปี สร้างความฮือฮาไปทั่วมาแล้ว ล่าสุดเมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ก็เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้กับสาวชาวจีนคนหนึ่งเช่นกัน

          โดยเว็บไซต์เซี่ยงไฮ้เดลี่ รายงานว่า พบหญิงสาวแซ่หู อายุ 28 ปี มีใบหน้าเหมือนคุณยายวัย 70 ปี โดยเธอมีอาการเช่นนี้มานานกว่า 5 ปีแล้ว หลังจากเมื่อปี 2007 เธอได้คลอดบุตรชาย และหลังจากนั้นอีก 6 เดือน ใบหน้าของเธอก็เริ่มปรากฏริ้วรอยขึ้น 

          นางหู บอกว่า ตอนแรกเธอก็ไม่ได้สนใจริ้วรอยบนใบหน้า เพราะคิดว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่นาน ๆ เข้า ผิวหนังบนใบหน้าของเธอก็ค่อย ๆ เหี่ยวย่นลงเรื่อย ๆ จนดูคล้ายกับหญิงชราอายุ 70 ปี เธอจึงตระเวนไปหาหมอหลายคน เพื่อขอให้ช่วยรักษาอาการนี้ แต่กลับไม่มีใครสามารถรักษาโรคประหลาดนี้ให้เธอได้เลย ทำให้เธอทุกข์ทรมานใจเป็นอย่างมาก ทางสถานีโทรทัศน์หูหนาน จึงช่วยเผยแพร่ข่าวนี้ เพื่อขอความช่วยเหลือให้กับนางหู และหลังจากเรื่องราวของเธอออกอากาศไปทั่วเมืองจีน ก็มีผู้คนจำนวนแสดงความเห็นใจเธอเป็นจำนวนมาก

          ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวก็ได้ไปสอบถามเรื่องนี้จาก ดร.อิ่นกวงผิง แพทย์ประจำโรงพยาบาลเจิ้งต้าอีฟู่ ซึ่งคุณหมอ ระบุว่า อาการที่นางหูเป็นนั้น เรียกว่า โรค progeria syndrome ซึ่งเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่พบได้ยากมาก โดยจากรายงานทั่วโลกในปี 2010 พบผู้ป่วยโรคนี้ราว ๆ 12 คนเท่านั้น และเป็นโรคที่ยังไม่สามารถวินิจฉัยหาสาเหตุได้ด้วย แต่คาดว่าอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องกรรมพันธุ์ และโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ดังนั้น จนถึงขณะนี้แพทย์ยังไม่สามารถหาวิธีรักษาโรคดังกล่าวได้ เว้นเสียแต่ว่าจะทำศัลยกรรม เพื่อกำจัดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าออกไป 

          อย่างไรก็ตาม ล่าสุดนางหูก็ได้รับข่าวดีแล้ว เมื่อคลินิกศัลยกรรมตกแต่งแห่งหนึ่งในเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ออกปากจะช่วยเหลือแก้ปัญหาใบหน้าที่เหี่ยวย่นให้กับนางหูแล้ว หลังจากทราบข่าวดังกล่าวผ่านสื่อมวลชน

Credit: http://health.kapook.com/view55252.html
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...