สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 22 ม.ค.ว่า นายทาโร อาโซะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น กล่าวระหว่างการประชุมสภาการปฎิรูปสวัสดิการสังคม ชี้ว่าผู้สูงอายุญี่ปุ่นควรจะยอมให้ตายโดยไว แทนที่จะทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นต้องสิ้นเปลืองสวัสดิการดูแล ระบุว่า คนสูงอายุไม่อาจนอนหลับได้สบายถ้าพวกเขาคิดคำนึงว่า พวกเขากำลังพึ่งพิงสวัสดิการจากรัฐบาลอยู่ และสถานการณ์นี้จะไม่ยุติถ้าเราไม่ให้พวกเขารีบตาย และว่า สำหรับตัวเขา ก็ไม่ต้องการให้รัฐมาเลี้ยงดูเขาแบบนี้ เพราะถ้าเป็นเขา เขาจะรีบเสียชีวิตแทน
อย่างไรก็ตาม นายอาโซะได้กล่าวแก้ตัวภายหลังว่า เขาพูดตามความเห็นส่วนตัว ไม่ใช่หมายถึงว่าสวัสดิการรัฐควรจะสนับสนุนสิ่งที่เขาบอก เพียงแต่เขามองว่า เป็นเรื่องสำคัญที่เราจะใช้ชีวิตในวันสุดท้ายอย่างสงบสุข
รายงานระบุว่า นับเป็นครั้งล่าสุดที่นายอาโซะ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นนักการเมืองปากร้าย ได้แสดงทัศนะดุเดือด โดยเมื่อปี 2001 เขาแสดงสร้างไม่พอใจให้แก่สังคมญี่ปุ่นหลังบอกว่า ประเทศที่ประสบความสำเร็จจะกลายเป็นประเทศที่พวกยิวต้องการจะอาศัย อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า ประเด็นเรื่องผู้สูงอายุเป็นประเด็นอ่อนไหวของสังคมญี่ปุ่น เนื่องจากญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่มีประชากรที่มีผู้สูงอายุมากที่สุดของโลก โดยเกือบ 1 ใน 4 ของประชากร 128 ล้านคนมีอายุมากกว่า 60 ปี และคาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็น 40 เปอร์เซนต์ในอีกครึ่งศตวรรษข้างหน้า