แม้ไม่บ่อยนักที่เราจะพบว่ารถยนต์เยอรมันหรือจากทวีปทางยุโรปมีปัญหา เรื่องเครื่องยนต์ แต่ล่าสุด ก็มีเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ จากผลการวิจัยของ Warranty Direct ที่ออกมาเปิดโปงต่อผู้บริโภคว่า เครื่องยนต์เยอรมันไม่ได้ดีอย่างที่พวกเขาคิดกันเสมอไป โดยเฉพาะ 3 ค่ายยักษ์ใหญ่ ของ แดนเบียร์ ทั้ง Audi BMW หรือ Volkswagen ทั้งหมด แทบจะหลุดตารางกันเลยทีเดียว
อันที่จริงแล้วในผลการวิจัยดังกล่าวได้ระบุว่า เครื่องยนต์ของรถยนต์ชั้นนำอย่าง Audi ไม่สามาถไว้ใจได้มากมายนัก และมีโอกาสถึง 3.71% ที่มันจะเสียในระหว่างการใช้งาน หรือ 1 ใน 27 เช่นเดียวกับเจ้าตัวเล็ก Mini ที่มีโอกาสมากถึง 2.51% หรือ 1 ใน 40 ในการที่มันจะลากลับบ้านเก่าที่เยอรมัน ก่อนเวลาอันสมควร แต่ที่หนักสุด คือรถจากค่าย MG Rover มีอัตราสูงถึง 7.88 % หรือ 1 ใน 13 ที่มันจะพัง
ด้านกลุ่มเครื่องยนต์ที่มีความวางใจได้นั้น 3 อันดับแรกครองแชมป์โดยค่ายรถยนต์ชั้นนำ เริ่มต้นจากค่ายดาวสามแฉก Mercedes Benz ที่มาพร้อมอัตราที่จะพังเพียง 0.84% หรือ 1 ใน 119 ตามมาด้วยค่ายรถยนต์ยอดนิยมของบ้านเรา Toyota ที่มีอัตราความเสี่ยงเพียง 0.58% หรือ 1 ใน 171 แต่ที่เหลือเชื่อคงไม่พ้นแชมป์ในกลุ่ม Honda ที่มีอัตราความเสี่ยงเพียง 0.29% หรือ มีเพียง 1 ใน 344 ที่มีโอกาสจะกลับมาโรงงาน
นาย ดันแคน แม็คเคลอร์ ผู้จัดการทั่วไปของ Warranty Direct กล่าว ว่า เครื่องยนตืที่ทำงานผิดพลาดเป็นฝันร้ายของของคนขับรถเพราะมันมีราคาค่าซ่อม ที่สูง ทั้งราคาอะไหล่และค่าแรง ซึ่งเมื่อเทียบกับระบบอื่นๆอย่างเช่นช่วงล่างในรถยนต์มันอาจจะมีการซ่อมแซม ที่น้อยกว่า แต่ทุกครั้งที่เครื่องยนตืพัง คุรก้ต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนมาก เพื่อซ่อมแซม โดยเฉพาะเมื่อมันไม่ได้อยู่ในการรับประกันของบริษัท
ตารางแสดงเครื่องยนต์ที่เสี่ยงพังมากที่สุด
บริษัท
อัตราความเสี่ยงในการพัง (%)
อัตราเปรียบเทียบ
MG Rover
7.88
1/13
Audi
3.71
1/27
Mini
2.51
1/40
Saab
2.49
1/40
Vauxhall
2.46
1/41
ตารางแสดงเครื่องยนต์ที่เสี่ยงพังน้อยที่สุด
บริษัท
อัตราความเสี่ยงในการพัง (%)
อัตราเปรียบเทียบ
Honda
0.29
1/377
Toyota
0.58
1/171
Mercedes
0.84
1/119
Volvo
0.90
1/111
Jarguar
0.98
1/103