ให้การภาคเสธ อ้างไม่มีเจตนา ไหว้ขออโหสิ! แม่ทำใจไม่ได้ เผาศพ23มค.นี้
โผล่แล้ว"พี ปรเมศวร์" เข้ามอบตัวคดีฆ่า "เอ นพปฎล"เอ่ยปากขอโทษในสิ่งที่ได้ทำลงไป พร้อมแจกจดหมายความในใจให้สื่อ ระบุเสียใจอย่างสุดซึ้ง ขอให้เหยื่ออโหสิกรรมให้ด้วย อ้างถ้าตายแทนได้จะขอตายแทน แต่ยังมีชั้นเชิงอ้างอยากให้ศาลเป็นผู้วินิจฉัยไม่ใช่สังคมตัดสินกันเอง ด้านตร.สอบปากคำผู้ต้องหาให้การภาคเสธ ก่อนยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวออกไปทันที ผกก.สน.ทองหล่อ ยันมีหลักฐานชัดเจนมั่นใจคดีนี้ไม่มีปัญหา เพื่อนๆ ในวงการพร้อมใจช่วยเหลือครอบครัว"เอ นพปฎล" เพื่อไม่ให้เป็นห่วงคนทางบ้าน พร้อมกำหนดวันฌาปนกิจ 23 ม.ค.นี้
จากกรณีนายปรเมศวร์ หรือพี สิงห์โพธิ์ อายุ 33 ปี ดาราช่อง 3 ตกเป็นผู้ต้องหาฆ่านายนพปฎล หรือเอ อธิบาย อายุ 44 ปี หุ้นส่วนร้านมิ้วส์ ผับดังย่านทองหล่อซอย 10 เหตุเกิดบริเวณหน้าลานจอดรถอาคารเอท (8) ซอยทองหล่อ 8 ถ.สุขุมวิท 55 โดยตำรวจประสานให้เข้ามอบตัวเพื่อรับทราบข้อหาเพิ่มเติม จากตอนแรกเข้ามอบตัวคดีพยายามฆ่า ขณะที่นายนพปฎลยังไม่เสียชีวิต แต่เมื่อ เจ้าทุกข์เสียชีวิตแล้ว โดยพี ปรเมศวร์ ยังเก็บตัวเงียบ ในส่วนของตำรวจ สน.ทองหล่อ ได้พยานและภาพจากกล้องวงจรปิด ลักษณะที่พี ปรเมศวร์ ไม่พอใจที่เอ นพปฎล มาห้ามปรามขณะที่ทะเลาะกับแฟนสาว จึงหยิบปืนในรถออกมา ทำให้ เอ นพปฎล วิ่งหนีแต่สะดุดล้มก่อนที่ดาราหนุ่มจะตามมาและเกิดเหตุร้ายขึ้น ล่าสุดพี ปรเมศวร์ ประสานกับตำรวจจะเข้ามอบตัวในวันที่ 21 ม.ค.
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 15.10 น.วันที่ 21 ม.ค. พี ปรเมศวร์ พร้อมทนายความ 2 คน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา โดยนายปรเมศวร์ซึ่งสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำ สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ แว่นตาดำ เดินทางมาด้วยรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ รุ่นซี 220 สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ฌฎ 64 กทม.
ทันทีที่นายปรเมศวร์พบผู้สื่อข่าวจำนวนมากที่มารอทำข่าว ยกมือไหว้และกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ขอกราบขอโทษในสิ่งที่ได้ทำลงไป ถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้ไม่ขอทำแบบนี้เด็ดขาด หรือไม่อย่างนั้นก็จะขอเป็นคนที่ตายแทนเอง จากนั้นทนายความแจกกระดาษขนาดเอ 4 โดยเป็นใบแถลงการณ์ของนายปรเมศวร์ มีใจความว่า
"ณ วันนี้ผมได้มารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม และข้าพเจ้าทราบว่าสื่อมวลชนทั้งหลายจะต้องมารอทำข่าวในเรื่องที่เกิดขึ้น ที่ข้าพเจ้าเองก็เกิดความเสียใจอย่างสุดซึ้ง อย่างจริงใจ ในเหตุการณ์ของการสูญเสียบุคคลที่มีคุณค่าต่อสังคมและเพื่อนพ้องน้องพี่ ที่ต้องเกิดเหตุอันไม่น่าจะมีเหตุต้องเกิดขึ้น แต่ก็ได้เกิดขึ้นไปแล้ว ข้าพเจ้าขอให้วิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของนายนพปฎล อธิบาย โปรดเมตตา กรุณาอโหสิกรรมเรื่องที่เกิดขึ้นที่เราจะไม่จองเวรจองกรรมในภพนี้และในชาตินี้และชาติต่อๆ ไป ในส่วนที่ท่านจะต้องละสังขารนั้นไป และในส่วนของข้าพเจ้าก็จะมีทุกข์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อันเกี่ยวกับการต้องเผชิญการถูกกล่าวหาและแก้ข้อกล่าวหาไปจนถึงที่สุดแห่งกระบวนการยุติธรรม ซึ่ง ณ เวลานี้ข้าพเจ้าเป็นจำเลยของสังคม ซึ่งถือเป็นความทุกข์ยิ่งกว่าเป็นจำเลยในกระบวนการยุติธรรม ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงไม่ขอให้ข่าวด้วยวาจาใดๆ ต่อสื่อมวลชน ด้วยเหตุผลและหลักการตามที่จะแจ้งต่อสื่อมวลชนที่มีความมุ่งหวังดี ที่จะให้มีข่าวเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับสังคม แต่ข้าพเจ้าก็ยังต้องยอมรับกระบวนการยุติธรรมเป็นประการสำคัญ ดังนั้น ข้าพเจ้าขอให้เหตุผลต่อสื่อมวลชนดังนี้
การจะให้ข่าวใดๆ เป็นข้อเท็จจริงทางคดี บุคคลที่ไม่ควรพูดต่อสาธารณชน คือ เจ้าพนักงานตำรวจ ผู้ต้องหา ส่วนผู้เสียหาย เขาเสียหายคือถึงแก่ความตาย เป็นสิทธิที่ญาติหรือสังคมจะมีสิทธิในการพูดให้ข่าว เป็นสิทธิของเขา แต่การวินิจฉัยถูกหรือผิดในคดีว่าจะเป็นพยายามฆ่า ฆ่าคนตายโดยเจตนา ประมาทป้องกันตัว ไม่เจตนาฆ่า หรือบันดาลโทสะ ศาลเป็นผู้วินิจฉัย ไม่ใช่สังคมเป็นผู้วินิจฉัย
การที่สังคมเรียกตำรวจไปให้ข้อเท็จจริงทางคดีต่อสาธารณชนและมีผู้ถาม และวินิจฉัยและให้เหตุผลทางคดีเสมือนเช่นอยู่ในขบวนการพิจารณาของศาล และชี้ขาดให้เหตุผลถูกหรือผิดทางคดี ตรงนี้สังคมควรพิจารณาอย่างลึกซึ้งว่าสิทธิเสรีภาพในการแสดงเช่นนั้นกับสิทธิและอำนาจหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมนั้นสื่อควรจะมีขอบเขตอย่างไร จึงเรียนแถลงข่าวเป็นหนังสือแทนวาจาต่อสื่อมวลชนเพียงเท่านี้ ขอขอบพระคุณ ลงชื่อ ปรเมศวร์ สิงห์โพธิ์"
จากนั้นนายปรเมศวร์ได้เดินทางเข้าพบพ.ต.ท. ศราวุธ เดชศรี พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สน.ทองหล่อ เพื่อรับทราบข้อหา โดยเจ้าหน้าที่ให้นายปรเมศวร์เซ็นรับทราบข้อกล่าวหา โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที เจ้าหน้าที่จึงอนุญาตให้นายปรเมศวร์เดินทางกลับได้
ด้าน พ.ต.ท.ศราวุธเปิดเผยว่า วันนี้พนักงานสอบสวนนัดให้นายปรเมศวร์มารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม โดยจากการสอบสวนเบื้องต้น นาย ปรเมศวร์ให้การภาคเสธ จากนั้นทนายความยื่นหลักทรัพย์เงินสดจำนวน 300,000 บาท ขอประกันตัว ซึ่งพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวได้ และนัดให้มาพบพนักงานสอบสวนอีกครั้ง เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ในวันที่ 5 ก.พ.ที่จะถึงนี้ เวลา 10.00 น.
รายงานข่าวแจ้งว่าสาเหตุการลงมือครั้งนี้พบว่านายนายปรเมศวร์ไม่พอใจ ที่นายนพปฎล หรือเอ ผู้ตายเข้ามาห้ามปรามขณะที่ทะเลาะกับแฟนสาวจึงนำเอาอาวุธปืนกล็อกขนาด 9 ม.ม. มาใช้ก่อเหตุ
วันเดียวกัน พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วย ผบ.ตร. เดินทางมาที่ สน.ทองหล่อ เพื่อประชุมติดตามความคืบหน้าคดี โดยพ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง ผกก.สน.ทองหล่อ และพนักงานสอบสวน เจ้าของคดีเข้ารายงาน โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จาก นั้นพ.ต.อ.ชุมพลกล่าวว่า เรื่องคดีนั้นเจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานชัดเจน ถึงแม้ว่าผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธอ้างว่าเป็นการทำปืนลั่นใส่ ทางเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินคดีเอาผิดได้ เนื่องจากมีพยานแวดล้อมที่เห็นเหตุการณ์จำนวนมาก รวมทั้งกล้องวงจรปิดที่จับภาพเหตุการณ์ได้ ซึ่งเชื่อว่าเจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานแน่นหนาเพียงพอที่จะแจ้งดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาต่อนายปรเมศวร์ได้
"แม้ผู้ต้องหาจะอ้างว่าทำปืนลั่น แต่เจ้าหน้าที่พิจารณาตามพยานหลักฐาน หากผู้ต้องหานำปืนออกจากกระเป๋ามาจ่อไปยังผู้ตายแล้ว แม้ว่าปืนจะลั่นหรือไม่ก็ตาม ตามทางกฎหมายก็เข้าข่ายเป็นการก่อเหตุโดยเจตนาอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามหากผู้ต้องหาปฏิเสธก็ต้องไปต่อสู้กันในชั้นศาลต่อไป แต่ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่มีหลักฐานอย่างแน่นหนาสามารถเอาผิดได้และไม่หนักใจแต่อย่างใด คดีนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนอยู่แล้ว" พ.ต.อ.ชุมพลกล่าว
ด้าน "เพชร"กรุณพล เทียนสุวรรณ นักแสดงหนุ่มหุ้นส่วนร้านมิ้วส์ กล่าวว่า มีคนบอกว่าพี ปรเมศวร์ เป็นลูกคนใหญ่คนโตมีอิทธิพล แต่อย่างไรก็ตามคนผิดก็ต้องว่ากันตามกฎหมาย ต้องมารับโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้ พวกเราแค่อยากได้ความยุติธรรมกับเพื่อนของเราที่ตายไป ตอนนี้สภาพจิตใจของตนดีขึ้นมาก หลังจากที่ความจริงค่อยๆ ปรากฏออกมาว่าเขาไม่ใช่เพื่อนพี่เอ ไม่ใช่ญาติ ไม่ได้รู้จักกับพี่เอ รวมไปถึงตอนนี้คดีไม่ใช่การทำปืนลั่นแต่กลายเป็นคดีที่ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซึ่งความผิดและโทษที่เขาได้รับมันต่างกันอยู่ แล้ว ถ้าเป็นปืนลั่นก็ไม่ได้เจตนาอาจจะแค่รอลง อาญาและประกันตัวไป แต่ตรงนี้ถือเป็นโทษหนัก
"จ๋า"ยศสินี ณ นคร ผู้จัดละครช่อง 3 กล่าวว่า ตอนนี้กำหนดการฌาปนกิจศพออกมาแล้วคือวันพุธที่ 23 ม.ค. สิ่งที่อยากทำให้พี่เอเป็นครั้งสุดท้ายคือเรื่องที่พี่เอ อยากทำประกันให้แม่ รวมถึงความฝันของพี่เออยากเปิดร้านขายแกงเนื้อและแกงไก่ ให้แม่กับพี่สาวมาอยู่ด้วยกัน พวกเราจะร่วมลงขันกันสานฝันตรงนี้ ส่วนสถานที่นั้นต้องมาดูอีกครั้งหลังจากเสร็จงานของพี่เอ
"สามวันที่ผ่านมาจ๋ารู้ตัวเลยว่าเราแกว่งและจิตตกมาก แต่พอเราตั้งสติได้เราไม่ได้รู้สึกโกรธ และตัวจ๋าคิดว่าทางฝ่ายนั้นคงไม่ได้อยากให้เรื่องออกมาเป็นแบบนั้น และเขาก็มีแม่เชื่อว่าเขาคงอยากขอเวลาอยู่กับแม่และบอกลาเพราะไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร อย่างที่บอกพวกเราไม่ได้ต้องการอะไร แค่ขอให้เรื่องทุกอย่างมันคลี่คลายและเป็นไปอย่างยุติธรรม ทุกวันนี้จ๋าก็อโหสิกรรมให้เขาด้วย ถ้าเรายังผูกใจเจ็บกรรมเก่าก็อยู่กับพี่เอ ส่วนเขาก็ได้รับกรรมใหม่ เพราะฉะนั้นเลิกแล้วต่อกันดีกว่า" จ๋า ยศสินีกล่าว
นางทองใบ ไพรสน อายุ 78 ปี มารดาของ "เอ" เผยความรู้สึกว่า เสียใจพูดอะไรไม่ถูกยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าลูกชายต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่ยังดีและปลื้มใจอย่างมากที่เพื่อนๆ ของลูกทุกคนเข้ามาช่วยเหลือ จากวันที่เกิดเดรื่องจนถึงวันนี้มากันแบบไม่ขาดสาย บางคนถึงกับร้องไห้ซึ่งไม่เคยคิดว่าลูกจะมีคนรักมากขนาดนี้
"ที่ผ่านมาเอไม่เคยคิดร้ายกับใคร เป็นคนที่มีคนรักเยอะ ขนาดเขาเสียชีวิตและมีข่าวออกมาปรากฏว่าคนที่อยู่ในซอยเดียวกันถึงกับร้องไห้ด้วยความสงสารทั้งๆ ที่เขาไม่ใช่ญาติของเรา" นางทองใบ กล่าว
ด้านน.ส.อาภาภรณ์ อธิบาย พี่สาวของ "เอ" เผยความรู้สึกว่า น้องชายเป็นคนดีหาเลี้ยงครอบครัว ไม่คิดว่าจะมาเจอเรื่องแบบนี้ ไม่เข้าใจว่าคนที่ทำกับน้องเขาคิดอย่างไร ตอนที่ให้การครั้งแรกว่าปืนลั่นใส่ทำไมถึงต้องหนีไปโดยไม่ให้ความช่วยเหลือ น้องชายไปทำอะไรให้เขาโกรธขนาดที่ต้องยิงกันด้วยหรือ และกับวันนี้ที่ฝ่ายนั้นมามอบตัวและบอกว่าถ้าตายแทนได้จะขอตายแทน เอตายไปแล้วจะพูดอย่างไรก็ได้ วันนี้เราแค่อยากออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดเรื่องทางฝ่ายนั้นไม่เคยติดต่อกลับมาเลย ทำไมสังคมทุกวันนี้ถึงพกปืนกันได้ง่ายและฆ่ากันได้ง่ายๆ แค่พูดผิดหูนิดหน่อยเท่านั้น