เด็กชายศิริ หรือ น้องชิน 

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก "มั่นใจคนไทยเกินล้านร่วมบริจาคสเต็มเซลล์" 

 

         ในยุคนี้การติดต่อสื่อสารผ่านโลกไซเบอร์น่าจะเป็นช่องทางที่แพร่กระจายข่าวสารได้สะดวกและรวดเร็วที่สุด ทำให้หลาย ๆ คน ใช้ประโยชน์จากโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กในการบอกต่อเรื่องราวต่าง ๆ เพื่อขอความช่วยเหลือจากคนใจดีในสังคม 

 

         เช่นเดียวกับเฟซบุ๊กที่มีชื่อเพจว่า "มั่นใจคนไทยเกินล้านร่วมบริจาคสเต็มเซลล์" ที่ได้มีชาวเน็ตเปิดหน้านี้ขึ้น เพื่อเชิญชวนให้ผู้คนในโลกไซเบอร์ได้ชักชวนคนรู้จักมาบริจาคเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต (Stem Cell) และไขกระดูก เพื่อเป็นของขวัญให้กับเด็ก ๆ ที่ป่วย เนื่องจากปัจจุบัน มีเด็กเล็ก ๆ จำนวนมาก ป่วยด้วยโรคลูคีเมีย หรือ โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ชนิด ALL-MLL หากจะรักษาให้หายขาดต้องได้รับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์เท่านั้น 


 

         อย่างเช่น เด็กชายศิริ หรือ น้องชิน หนูน้อยวัย 5 เดือนเศษที่กำลังนอนป่วยอยู่ในโรงพยาบาล ก็เป็นหนึ่งในผู้ป่วยที่กำลังรอความช่วยเหลือจากทุกคน โดยน้องชินป่วยเป็นโรคลูคีเมีย ตั้งแต่อายุ 4 เดือน ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงให้คีโม แต่ก็สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีก เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับการเปลี่ยนถ่ายไขกระดูกจึงจะทำให้น้องชินหายขาดจากโรคนี้ อย่างไรก็ตาม แม้ไขกระดูกของผู้ที่มาบริจาคให้นั้นอาจจะไม่ตรงกับของน้องชิน แต่บางทีไขกระดูกของคุณอาจจะตรงกับเด็ก ๆ รายอื่นที่กำลังนอนป่วยอยู่ก็เป็นได้ 

 

         สำหรับหลายคนที่กำลังสงสัยว่า "สเต็มเซลล์" คืออะไรนั้น...สเต็มเซลล์ หรือ เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต (Stem Cell) เป็นเซลล์ตัวอ่อนของโลหิตซึ่งอาศัยในไขกระดูก และจะเจริญเติบโตไปเป็นเม็ดโลหิตแดง เม็ดโลหิตขาว และเกล็ดโลหิต ซึ่งหล่อเลี้ยงอยู่ในร่างกาย เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตสามารถบริจาคให้บุคคลอื่นได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริจาคแต่อย่างใด และเป็นความหวังเดียวที่จะรักษาผู้ป่วยโรคทางโลหิตให้หายขาดได้ในปัจจุบัน โรคที่สามารถรักษาได้ด้วยการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ เช่น โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย, โรคโลหิตจางชนิดไขกระดูกฝ่อ, โรคมะเร็งเม็ดโลหิตขาวเฉียบพลัน/เรื้อรัง, โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เป็นต้น

 คุณสมบัติของผู้สามารถบริจาคสเต็มเซลล์ได้

 

         1. อายุระหว่าง 18-50 ปี

         2. เป็นผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง

         3. ไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง และไม่มีพฤติกรรมเสี่ยง

 วิธีบริจาคสเต็มเซลล์

 

         การบริจาคเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตมี 2 วิธี ซึ่งปัจจุบันนี้นิยมวิธีการบริจาคเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตทางหลอดโลหิตดำ (Peripheral Blood Stem Cell Donation) เพราะง่ายและสะดวกสำหรับผู้บริจาค โดยผู้บริจาคสามารถเลือกวิธีบริจาคได้ หรืออาจจะได้รับการร้องขอจากแพทย์ให้บริจาคด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง (ก่อนการบริจาคต้องมีการตรวจสุขภาพของผู้บริจาค) ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

 

         1. การบริจาคเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตทางหลอดโลหิตดำ (Peripheral Blood Stem Cell Donation)

 

         โดยปกติในกระแสโลหิตจะมีเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต (Stem Cell) อยู่น้อยมาก ในขั้นแรกจึงต้องฉีดยา G-CSF 4 วัน เพื่อกระตุ้นให้เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต (Stem Cell) ออกจากไขกระดูก (Bone Marrow) มากระจายในกระแสโลหิตให้มากพอ จึงจะเข้ากระบวนการเก็บเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต ซึ่งคล้ายกับวิธีการเก็บเกล็ดโลหิต หรือน้ำเหลือง (Plasma) โดยนำโลหิตผ่านเข็มที่แทงอยู่ในเส้นเลือดดำ (Vein) เข้าสู่เครื่อง Automated Blood Cell Separator ที่จะแยกเฉพาะเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต ทั้งนี้จะใช้เวลาเก็บครั้งละ 3 ชั่วโมง และอาจจะต้องมาเก็บ 2-3 วัน ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของผู้ป่วย

 

         2. การบริจาคไขกระดูก (Bone Marrow Donation)

 

         เป็นกระบวนการเก็บเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตจากโพรงไขกระดูกโดยใช้เข็มและกระบอกฉีดยาเจาะเก็บจากบริเวณสะโพกด้านหลัง (บริเวณขอบกระดูกเชิงกราน) ซึ่งดำเนินการเก็บในห้องผ่าตัด กระบวนการนี้จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งก่อนที่จะถึงกระบวนการเจาะเก็บข้างต้น ผู้บริจาคอาจต้องบริจาคโลหิตเก็บไว้ และจะนำมาให้หลังจากที่ได้เจาะเก็บไขกระดูกเรียบร้อยแล้ว  ทั้งนี้ร่างกายสามารถสร้างเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตขึ้นมาทดแทนได้อย่างรวดเร็ว และหลังทำแผลแล้วผู้บริจาคสามารถกลับบ้านได้ในวันรุ่งขึ้น และควรพักฟื้นร่างกายประมาณ 5-7 วัน

 บริจาคสเต็มเซลล์ได้ที่ไหน

 

         สามารถมาบริจาคได้ที่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดทำการวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.00 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดเวลา 08.30 – 15.00 น. สอบถามเพิ่มเติมโทร 0-2256-4300 หรือ 0-2263-9600 ต่อ 1770, 1771 และ 1777 หรือ stemcell@redcross.or.th 

 

 นอกจากนี้ ยังมีการเปิดรับบริจาคตามจุดต่าง ๆ ดังนี้ 

 

          วันที่ 22 มกราคม เวลา 09.00-15.00 น. 

                 - บริษัท อเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์ จำกัด (เครือนำทอง) (ชั้น 7 อาคาร AIA เซ็นเตอร์) (มีรับลงทะเบียน Stem Cell) ถ.สาทรเหนือ แขวงบางรัก เขตบางรัก

 

          วันที่ 23 มกราคม เวลา 09.00-15.00 น.

                 - มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต (ใต้อาคาร C) (มีรับลงทะเบียน Stem Cell) ถ.ลาดพร้าว 107 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ

 

          วันที่ 24 มกราคม เวลา 09.00-15.00 น.

                 - นิติบุคคลอาคารชุดเลครัชดา (มีรับลงทะเบียน Stem Cell) ถ.รัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง

 

         อย่าลืมชักชวนเพื่อน ๆ มาบริจาคสเต็มเซลล์ด้วยกันนะคะ เพื่อต่อชีวิตให้เด็กน้อยตาดำ ๆ ที่เพิ่งจะลืมตาขึ้นมาดูความงดงามของโลกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักใบนี้ 

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

สภากาชาดไทย  , เฟซบุ๊ก "มั่นใจคนไทยเกินล้านร่วมบริจาคสเต็มเซลล์" 

Credit: http://health.kapook.com/view54945.html