กระแสหวนกลับมาเชี่ยวกรากอีก สำหรับกรณีพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชาหรือเขมร ด้วยเรื่องพื้นที่เขตแดนบริเวณ ’ปราสาทพระวิหาร“ หรือ ’เขาพระวิหาร“ ซึ่งเขมรได้ยื่นตีความคำตัดสินของศาลโลก ที่ตัดสินไว้เมื่อปี 2505 ให้ตัวปราสาทเป็นของเขมร แต่มีเรื่อง ’พื้นที่เขตแดน“ เป็นประเด็นพิพาทไทย-เขมร มายาวนาน
อีกราว 3 เดือนทางศาลโลกจะมีการไต่สวน
ส่วนในไทยคนไทยก็ฉะกันเองอย่างหนักอีก
ทั้งนี้ กับ ’คดีเขาพระวิหาร“ นี้ เมื่อลองพลิกปูมยุคอดีต และมองยุคปัจจุบัน โดย ’วิเคราะห์ด้วยหลักโหร“ ทางนักโหราศาสตร์คือ อ.เก่งกาจ จงใจพระ ก็พบว่า มีหลายจุดที่น่าพิจารณาในเชิงโหราศาสตร์
อ.เก่งกาจ ระบุว่า...การวิเคราะห์ดวงประเทศที่พิพาทกัน ต้องนำราศีที่ตั้งประเทศ ธาตุ ดาวประจำประเทศ มาประกอบการพิจารณากับดวงเมือง และดวงผู้นำประเทศในขณะนั้น ซึ่งประเทศไทยและเขมรมีราศีอยู่ร่วมกันในราศีสิงห์ แต่มีดาวประจำประเทศคนละดวง ไทยมีดาวพฤหัสบดีเป็นดาวประจำประเทศ ส่วน เขมรมีดาวพุธเป็นดาวประจำประเทศ และไทยมีสัญลักษณ์ประเทศเป็น พญาครุฑ ส่วนเขมรเป็น พญานาค
ย้อนอดีตดินแดนสุวรรณภูมิ มีบันทึกชาวตะวันตกระบุว่า ชาติพันธุ์ที่อยู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่ตั้งไทยเป็นชนชาติฟูนัน ซึ่งฟูนันนับถือ พระศิวะ ซึ่งเป็น ธาตุไฟ มีการทำราชาภิเษกบนยอดเขา ได้ฉายาราชวงศ์แห่งภูเขา เป็น ธาตุดิน สำหรับเขมรนั้นสืบเชื้อสายจากชนเผ่าเจนละน้ำ มีการสร้างโบราณสถานเพื่อบูชา พระวิษณุ หรือพระนารายณ์ ที่เป็น ธาตุน้ำ ซึ่งดูตามตำนาน พระศิวะเป็นผู้ให้ ผู้สร้าง ส่วนพระนารายณ์เป็นผู้ปราบ ผู้ทำลาย
’ไทยธาตุไฟ เขมรธาตุน้ำ จึงเป็นคู่ศัตรูของธาตุโดยธรรมชาติ น้ำมากก็ดับไฟ ไฟมากก็เผาน้ำแห้ง“...อ.เก่งกาจ ระบุ และว่า... ประเทศไทยอยู่ราศีสิงห์ ธาตุไฟ มีดาวอาทิตย์เป็นเจ้าเรือนเกษตร ธาตุไฟ มีดาวพฤหัสบดี ธาตุไฟ เป็นดาวประจำประเทศ สัญลักษณ์ประเทศเป็นพญาครุฑ เป็นเจ้าอากาศ ธาตุลม และพื้นฐานฟูนันราชวงศ์ภูเขาเป็นธาตุดิน ประเทศไทยจึงมีทั้งธาตุไฟ ธาตุลม ธาตุดิน หนุนเป็นพลัง แต่ ไทยจะเน้นที่ธาตุไฟ ที่แพ้ธาตุน้ำ ซึ่งสมัยกรุงศรีอยุธยาเสียกรุง 2 ครั้ง เพราะที่ตั้งเมืองหลวงเป็นเกาะน้ำล้อมรอบ น้ำจึงดับไฟ
เขมร อยู่ราศีสิงห์ ธาตุไฟ มีดาวอาทิตย์เป็นเจ้าเรือนเกษตร ธาตุไฟ มีดาวพุธ ธาตุดิน เป็นดาวประจำประเทศ มีสัญลักษณ์เป็นพญานาค ตัวแทนดาวเสาร์ ธาตุดิน พญานาคเป็นเจ้าแห่งน้ำ ธาตุน้ำ และพื้นฐานชนเผ่าเจนละน้ำ ราชวงศ์ก็ธาตุน้ำ ดาวเนปจูน เขมรจึงอยู่ใต้อิทธิพลธาตุน้ำ และธาตุดิน แต่ เขมรจะเน้นที่ธาตุน้ำ
อ.เก่งกาจ วิเคราะห์อีกว่า...เมื่อ 6 ต.ค. 2502 วันที่ไทยถูกเขมรฟ้องศาลโลก ดาวอาทิตย์ ตนุลัคน์ของราศีสิงห์ของทั้งสองประเทศ สถิตอยู่ในราศีกันย์ ถูกดาวบาปเคราะห์ร้ายสองดวงกุม มีดาวอังคารกับดาวราหูร่วมอยู่ สองประเทศจึงขัดแย้งเรื่องที่ดิน ซึ่งราศีกันย์เป็นราศีธาตุดิน และราหูเป็นตัวแทนศาล เขมรมีดาวพุธเป็นดาวประเทศ ในตอนนั้นดาวพุธสถิตในราศีตุลร่วมกับดาวเนปจูน ธาตุน้ำ มีดาวศุกร์เจ้าเรือนราศีตุลโยคหลังสนับสนุน มีดาวเสาร์สัญลักษณ์ประเทศโยคหน้า ในตอนนั้น ดวงเขมรอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบกว่าประเทศไทย
อีกทั้งดาวพฤหัสบดีดาวประจำประเทศไทยสถิตในราศีพิจิก ธาตุน้ำ ในเรือนดาวอังคารคู่ศัตรู และถูกดาวเสาร์ธาตุดินบีบหน้าอยู่ในราศีธนู เรือนของดาวพฤหัสบดี และมีดาวเนปจูน ดาวฝ่ายคอมมิวนิสต์ บีบประกบหลังอยู่ในราศีกันย์ ซึ่ง ดูจากตำแหน่งดาวแล้ว ตอนนั้นเขมรก็ได้เปรียบกว่าไทย โดย 15 มิ.ย. 2505 วันที่ศาลโลกตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร ตุลาการศาลที่ร่วมตัดสินส่วนใหญ่เป็นฝ่ายประเทศคอมมิวนิสต์ ดาวเนปจูน
วันที่ 15 มิ.ย. 2505 ดาวพฤหัสบดีถูกดาวมฤตยูเล็งในราศีสิงห์ และดาวเจ้าเรือนราศีสิงห์ถูกดาวบาปเคราะห์กดดันหน้าหลัง มีดาวมฤตยูโยคหน้าในราศีสิงห์เรือนเกษตรดาวอาทิตย์ มีดาวอังคารคู่ศัตรูโยคหลังในราศีเมษ และราศีเมษลัคนาดวงเมืองประเทศไทยถูกดาวอังคารจากภพมรณะกุม ดาวเนปจูนเล็งในราศีตุล เสาร์ราหูทำมุมจตุโกณมุมกากบาทในราศีกรกฎและมังกร ให้โทษรุนแรง ตามเกณฑ์นี้ แม้แต่มิตรก็ยังเป็นศัตรูได้
นอกจากนี้ เมื่อดูดวงผู้นำประเทศไทยในยุคนั้น คือ จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ เกิด 16 มิ.ย. 2451 ตรงกับวันอังคาร แรม 3 ค่ำ เดือน 7 ปีวอก จ.ศ.1270 ลัคนาอยู่ในราศีมีน ธาตุน้ำ มีดาวเสาร์กุมภ์ลัคน์ มีดาวมฤตยูสถิตอยู่ในราศีธนู ดาวพฤหัสบดีเด่นอยู่ในราศีกรกฎธาตุน้ำ เป็นมหาอุจ ร่วมกับดาวศุกร์ธาตุลม เป็นราชาโชค แต่ดาวพฤหัสบดีดาวประจำประเทศอยู่ในราศีกรกฎภพมรณะของตัวเอง และกรกฎเป็นราศีวินาศของราศีสิงห์ราศีประเทศไทย ตามเกณฑ์นี้ ดาวพฤหัสบดีจึงไม่ส่งเสริม มีเรื่องกับต่างประเทศ จะให้โทษมากกว่าให้คุณ
ทั้งนี้ อ.เก่งกาจ ระบุด้วยว่า...จริง ๆ แล้วดาวอาทิตย์ในพื้นดวงสถิตในราศีเมถุน ได้ตำแหน่งราชาโชค แต่ถูกดาวบาปเคราะห์ ดาวอังคาร ราหู เนปจูน ดาวเกตุ ดาวพุธ ร่วมกุมอยู่ และมีดาวมฤตยูเล็งในราศีธนูและลัคนาราศีมีนภพวินาศของดวงเมืองและภพวินาศของราศีสิงห์ราศีประเทศไทย นี่จึง เป็นจุดอ่อนของไทย
สรุป...ยุคอดีตช่วงมีคดีเขาพระวิหารดวงไทยด้อย
ส่วนยุคปัจจุบันเป็นเช่นไร??...มาดูกันตอนหน้า...