ยกยาเสียสาว“อัลปราโซแลม”เป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2

สธ.ออกประกาศยกระดับยาเสียสาว “อัลปราโซแลม” เป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 หลังพบมีการนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ มอมสาว มอมเหยื่อ มีผลตั้งแต่ 17 มิ.ย.เป็นต้นไป ด้าน กรมวิทย์ตรวจพบ “ฟีนาซีแปม” ยานอนหลับชนิดใหม่ ออกฤทธิ์ได้นานกว่า 60 ชม.

วันนี้ 17 ม.ค. นพ.นิพนธ์ โพธิ์พัฒนชัย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข แถลงว่า  สถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ จ.สงขลา ได้ส่งของกลาง 2,940 เม็ด มาให้ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 12 สงขลา ทำการตรวจวิเคราะห์โดยยาดังกล่าว ด้านหนึ่งมีสัญลักษณ์ และตัวเลข  028 อีกด้านมีตัวเลข  5 บรรจุในแผงพลาสติกใสสีแดงอะลูมิเนียม บนแผงมีข้อความตัวอักษรภาษาอังกฤษ  Erimin 5 (อีริมิน 5 )  จากการตรวจพิสูจน์ทางห้องปฏิบัติการสำนักยาและวัตถุเสพติด กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบ ฟีนาซีแพม ซึ่งเป็นยานอนหลับในกลุ่มเบนโซไดอะซีปีนส์ มีฤทธิ์แรงกว่า ไดอาซีแพม ถึง 10 เท่า

อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวต่อว่า สารฟีนาซีแพมได้ถูกสังเคราะห์ขึ้นครั้งแรกในประเทศรัสเซีย เมื่อปี พ.ศ.2517 และนำไปใช้ในทางการแพทย์ในประเทศรัสเซียและบางประเทศในยุโรปตะวันออก รักษาโรคระบบประสาท และโรคลมชัก โดยใช้ประมาณ 1- 1.5 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ไม่เกิน 10 มิลลิกรัมต่อวัน สารฟีนาซีแพมออกฤทธิ์ได้ยาวนานกว่า 60 ชั่วโมง ผู้ที่ใช้ยาดังกล่าวจะมีอาการง่วงซึม มึนงง สับสน สูญเสียการทรงตัว และสูญเสียความทรงจำ หากหยุดยาทันทีหลังได้รับยาขนาดสูงหรือเป็นระยะเวลานานอาจเกิดอาการถอนยา และถ้าใช้ร่วมกับแอลกอฮอล์หรือสารที่มีฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง เช่น ยาแก้ปวดกลุ่มโอปิเอตส์ หรือยานอนหลับอื่น ๆ อาจทำให้เสียชีวิตได้

นพ.นิพนธ์ กล่าวต่อว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาพบการนำฟีนาซีแพมไปใช้ในทางที่ผิด โดยกลุ่มผู้เสพนิยมเรียกยานี้ว่า เฟนนี่ , พี , บอนไซ, บอนไซ ซุปเปอร์สลีพ และ 7 โบรโม-5 ส่วนการเสพมีหลายวิธี ได้แก่ การกิน การอมใต้ลิ้น การสูด และการฉีดเข้าเส้น นอกจากนี้ในสหรัฐอเมริกามีรายงานพบผู้เสพยาชนิดนี้เสียชีวิตจากการได้รับยาเกินขนาด ซึ่งจากการตรวจพิสูจน์ตัวอย่างของกลางอีริมิน 5   ไม่พบ ไนเมตาซีแพม แต่ตรวจพบฟีนาซีแพม จึงสันนิษฐานว่าอาจมีการนำฟีนาซีแพมมาผลิตเป็นยาอีริมิน 5  ทดแทน ไนเมตาซีแพม เพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมาย เนื่องจากฟีนาซีแพมยังไม่ได้จัดเป็นสารควบคุมในประเทศไทย รวมทั้งในอนุสัญญาสหประชาชาติ สหรัฐอเมริกา และอีกหลายประเทศในทวีปยุโรป ดังนั้นจะเฝ้าระวังและแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการกำหนดมาตรการทางกฎหมายเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของสารนี้ต่อไป เพราะหากไม่บรรจุในแผงของกลางอีริมิน 5 แต่นำเข้ามาเป็นเม็ด หรือผงจะไม่สามารถเอาผิดได้เลย

นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า  อีริมิน 5 เป็นยาที่ผลิตโดยบริษัท ซูมิโมโต ฟาร์มาซูติคอล (Sumimoto Pharmaceuticals)  ในประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วยตัวยาสำคัญชื่อ ไนเมตาซีแพม ขนาดยา 5 มก. เป็นยานอนหลับในกลุ่มเบนโซไดอะซีปีนส์ มีการอนุญาตให้ใช้ภายใต้การควบคุมของแพทย์ในประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง และออสเตรเลีย โดยเป็นสารควบคุม สำหรับประเทศไทยตัวยาดังกล่าวจัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ตามพระราชบัญญัติวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518 แต่ยานี้ไม่มีการอนุมัติทะเบียนตำรับในประเทศไทย ซึ่งยาที่ถูกจับได้จึงเป็นยาที่ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศอื่น โดยพบว่ามีการนำไปใช้ในทางที่ผิดในบริเวณภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งนิยมเรียกยานี้ในชื่อ ไฟว์-ไฟว์ (five-five ) หรือ แฮปปี้ 5 ( Happy 5 ) ดังนั้นยาดังกล่าวที่ตรวจพบสารสำคัญไม่ตรงตามที่ระบุไว้ จึงเข้าลักษณะของวัตถุออกฤทธิ์ปลอม ซึ่งผู้ขายมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท ส่วนผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าฯมีโทษจำคุกตั้งแต่ 5 - 15 ปี และปรับ ตั้งแต่ 100,000 - 300,000 บาท

“ อย.จะมีการนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทในปลายเดือน ม.ค.นี้ เพื่อพิจารณาเห็นชอบให้ฟีนาซีแปมเป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 คาดว่าในเดือน ก.พ.ทุกอย่างคงเรียบร้อยและเสนอให้ รมว.สาธารณสุข ลงนามประกาศต่อไป” เลขาธิการ อย. กล่าว

นพ.บุญชัย กล่าวต่อว่า ผู้บริโภคที่จำเป็นต้องใช้วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยาว่า ไม่ควรหาซื้อวัตถุออกฤทธิ์มาใช้เอง การใช้วัตถุออกฤทธิ์ทุกประเภทต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยและสั่งจ่ายจากแพทย์ กรณีที่จำเป็นต้องซื้อวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 3 หรือประเภท 4 เช่น ไดอะซีแปม โลราซีแปม และ คลอราซีเพท จากร้านขายยาต้องซื้อจากร้านที่ได้รับใบอนุญาตขายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 3 หรือประเภท 4 ซึ่งจะมีป้ายแสดงอย่างชัดเจนว่าเป็น “สถานที่ขายวัตถุออกฤทธิ์” พร้อมทั้งมีใบสั่งจ่ายวัตถุออกฤทธิ์ฯ จากแพทย์ โดยมีเภสัชกรเป็นผู้ส่งมอบวัตถุออกฤทธิ์ดังกล่าวตามคำสั่งของแพทย์ พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้วัตถุออกฤทธิ์ที่ปลอดภัยตามหลักวิชาการตามสมควร

เลขาธิการ อย.กล่าวด้วยว่า รมว.สาธารณสุขยังได้ลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องเปลี่ยนแปลงประเภทวัตถุออกฤทธิ์  (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ.2555 ให้ อัลปราโซแลม ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 เป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 เนื่องจากมีการนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ มีการนำไปมอมสาว หรือที่เรียกกันว่ายาเสียสาวก็ยาตัวนี้ที่เป็นข่าวอยู่บ่อย ๆ ดังนั้นการยกระดับให้เป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 น่าจะทำให้การเข้าถึงยาได้ยากขึ้นเพราะต้องให้แพทย์สั่ง

ด้าน ภก.ประพนธ์ อางตระกูล ผอ.กองควบคุมวัตถุเสพติด  อย. กล่าวว่า  ประกาศกระทรวงสาธารณสุขยกระดับ อัลปราโซแลม เป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 17 มิ.ย.นี้ ดังนั้นต่อไปร้านขายยาที่มีใบอนุญาตขายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 3 และ 4 จะไม่สามารถจำหน่ายได้อีกต่อไป ส่วนคลินิกที่ไม่ประสงค์ครอบครองสามารถทยอยส่งคืนยาต่อบริษัทยาได้นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

“เดิมอัลปราโซแลมจะใช้รักษาอาการวิตกกังวล และช่วยให้นอนหลับ สาเหตุที่มีการควบคุมเพราะมีการนำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น มอมสาว มอมเหยื่อ การใช้อัลปราโซแลมในปริมาณมากอาจทำให้ตายได้ นอกจากนี้ยังพบว่าในปี 2554-2555 มีคดีเกี่ยวกับอัลปราโซแลม 400-500 คดี โดยมีการส่งของกลางมาเก็บไว้ที่ อย.จำนวนมาก ขณะเดียวกันก็พบว่ามีผู้เสียชีวิตเป็นข่าวติดต่อกัน 3-4 รายอย่างกรณีฝรั่ง 2 คนเสียชีวิตที่พัทยาพบขวดอัลปราโซแลม และกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตจากการถูกมอมยา” ภก.ประพนธ์ กล่าว

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...