ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (15 ม.ค.) น.ส.สุทธิดา หน่อแจ้ง อายุ 20 ปี พนักงาน บ.ซีเฟรชอินดัสตรี จำกัด แจ้งว่า พบสองตายาย อายุประมาณ 85 ปี ถูกทอดทิ้งอยู่เพียงลำพังในกระต๊อบร้างหลบแดดฝน บริเวณริมคลองอีเล็ค หมู่ที่ 2 ต.ท่ายาง อ.เมือง จ.ชุมพร ทราบชื่อ นายเจือ กับนางพะยอม กองเจ ทั้งสองคนเป็นสามีภรรยากัน อาศัยอยู่ในบ้านกระต๊อบแบบยกสูง ขนาดกว้างประมาณ 2 เมตรหลังคามุงด้วยสังกะสีพุๆ ฝาบ้านกั้นด้วยเศษกระดานอัดลักษณะเก่าชำรุดอย่างมาก เพื่อใช้กันแดดกันฝนเท่านั้น พิ้นบ้านปูด้วยไม้และทำช่องเปิดไว้เวลาขับถ่ายทิ้งลงคลอง เนื่องจากสองตายายไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้ตามปกติ สภาพภายในมีเตาถ่าน หม้อหุงข้าว ถ้วยจาน 3-4 ใบ ทั้งหมดเป็นคราบดำสภาพสกปรก พร้อมสัมภาระของกินของใช้หมักหมมคล้ายกองขยะอยู่รวมกันทั้งคนทั้งของในสภาพแออัด ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว 

ขณะที่ตามร่างกายสองตายายมีสภาพเปื่อยผุผองทั่วทั้งตัวเหมือนไม่เคยอาบน้ำมานานนับปี โดยมีเพื่อนบ้านในบริเวณใกล้เคียงคอยนำอาหารมาให้ จากการสอบถามนายเจือ และนางพะยอม สองตายายพูดจาสั่นเครือฟังไม่รู้เรื่องจับใจความได้บางคำเท่านั้น ประกอบกับหูทั้งคู้รับฟังไม่ค่อยได้ยิน ทำให้การสื่อสารเป็นไปด้วยความยากลำบาก

จากการสอบถามนางบังอร เนาวสูตร อายุ 50 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า ทั้งคู่มาอาศัยที่กระต๊อบที่ชาวบ้านสร้างให้มา 4 ปี แล้ว ทราบเพียงว่าตาเจือเดิมทีเป็นคน จ.เพชรบุรี และได้ย้ายมาประกอบอาชีพรับจ้างเรือประมงที่ปากน้ำชุมพรตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น จนกระทั่งไม่สามารถทำงานได้ด้วยความชรา จึงเร่ร่อนขนในที่สุดก็มาพักอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาก็มีน้องๆจาก บ.ซีเฟรชอินดัสตรี จำกัด คอยนำเอาอาหารมาส่ง ส่วนตนแวะมาดูเป็นครั้งคราวเพราะต้องทำงาน จึงอยากให้หน่วยงานของรัฐมาให้ความช่วยเหลือ เพราะทั้งคู่ไม่มีลูกหลานเลย