วันนี้ ( 15 ม.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากรุงเม็กซิโกซิตี ประเทศเม็กซิโกว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 48 ศพ จากเหตุการณ์สังหารโหดในหลายพื้นที่ของเม็กซิโกเมื่อวันจันทร์ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นการฆ่าตัดตอนของแก๊งค้ายาเสพติด
นายโรโดลโฟ ไรออส อัยการสูงสุดแห่งกรุงเม็กซิโกซิตี แถลงว่า เจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตในพื้นที่แล้ว 22 ศพ ซึ่งถือว่าผิดปกติ และน่าสะพรึงกลัวอย่างมากสำหรับเมืองหลวงของประเทศ ที่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมน้อยกว่า 2 ครั้งต่อวัน
ในวันเดียวกัน ตำรวจเมืองซินกันเตเปก ห่างจากกรุงเม็กซิโกซิตีไปทางตะวันตกราว 77 กิโลเมตร พบศพ 6 ศพถูกอัดซุกซ่อนอยู่ภายในถุงพลาสติกสีดำขนาดใหญ่ ขณะที่มีรายงานพบศพอย่างน้อย 13 ศพ บริเวณพื้นที่ตอนกลางของประเทศ
ด้านตำรวจเมืองโตลูกา เมืองเอกของรัฐเม็กซิโก พบศพอีก 5 ศพในสภาพถูกมัดมือและเท้า พร้อมกับมีกระดาษกาวปิดปาก ในจำนวนนี้บางศพถูกหั่นอวัยวะบางส่วนออกไป เจ้าหน้าที่พบจดหมายตกลงลายมือชื่อแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ตกอยู่ข้างศพด้วย
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบศพอีก 2 ศพ อยู่ภายในรถยนต์คันหนึ่งที่มีผู้นำมาจอดทิ้งไว้บนถนนชานเมืองโตลูกา พร้อมจดหมายลงลายมือชื่อแก๊งค้ายาเสพติดชื่อดังอีกกลุ่ม
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้มีประชาชนจำนวนมากออกมาชุมนุมปิดทางหลวงสายมุ่งหน้าสู่รัฐเวรากรูซ เพื่อประท้วงกระบวนการทำงานที่ล่าช้าของเจ้าหน้าที่ และมีรายงานพบรถทหารคันหนึ่งถูกไฟเผาได้รับความเสียหาย บริเวณไร่อ้อยแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กันด้วย
สงครามกวาดล้างยาเสพติดของรัฐบาลเม็กซิโกที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2549 ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 70,000 ศพ ในจำนวนนี้มีทั้งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระดับสูง และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ที่แม้จะสมรู้ร่วมคิดในการค้ายาเสพติดกับแก๊งยักษ์ใหญ่ แต่กลับถูกลักพาตัวไปสังหารอย่างเหี้ยมโหด นับว่าขัดผลประโยชน์กันในเรื่องเงิน