หลังจากเปิดตัวรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ใช้เครื่องยนต์เล็กที่สุด อย่าง อาวิโอ เชฟโรเลต ก็ต้องก้มหน้ายอมรับในเรื่องของสมรรรถนะของรถที่น้อยกว่าคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด และถือเป็นจุดด้อยสำหรับอาวีโอมาโดยตลอด เรียกว่านำมาเปรียบเทียบกับรถเล็กด้วยกันเมื่อไรก็ถูกหยิบยกขึ้นมาทุกที แต่ เชฟโรเลต เองก็ยังใจเย็น พยายามจูจุดขายด้านอื่น ๆ ไม่ว่าสมรรถนะด้านการเกาะถนนที่ดีกว่า หรือแม้แต่ห้องโดยสารที่กว้างขวางกว่ามาแข่งตลอด 2 ปีของการทำตลาด จนกระทั่งในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งล่าสุด เชฟโรเลต ได้ตัดสินใจเพิ่มความแรงให้กับอาวีโอ ด้วยการส่งเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร เข้ามาประจำการในรถรุ่นดังกล่าว
ยังไม่พอแค่นั้น!! เชฟโรเล็ต ยังอัดชุดแต่งเพี่มจุดขายกันรอบคัน มองโดยรวม ๆ ในรุ่นท๊อปที่ใส่รองเท้าขนาด 16 นิ้วเข้าไปรวมกับชุดแต่ง ก็ต้องถือว่าสวยดีไม่หยอก ลืมเก๋งเล็กหน้าตาเชย ๆ ไปได้เลยทีเดียว เชฟโรเลต พยายามพัฒนารถรุ่นนี้ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่อยากเป็นเจ้าของอาวีโอ แต่ติดที่เครื่องยนต์ยังไม่จี๊ดจ๊าดพอ ทางเลือกใหม่ก็คือการพัฒนาเครื่องยนต์บล็อกเดียวกับรุ่น 1.4 ลิตร แต่ขยายออกมาเป็น 1.6 ลิตร ก่อนจะปรับปรุงอีกเล็กน้อยเพื่อให้ได้เครื่องยนต์ที่เหมาะสมกับรถไซส์อาวีโอที่สุด เมื่อทำเสร็จเรียบร้อย เครื่องยนต์ใหม่นี้ให้กำลังสูงสุด 102 แรงม้าที่ 5,800 รอบต่อนาที เพิ่มมาจากรุ่น 1.4 ลิตรอีก 8 แรงม้า และให้แรงบิดสูงสุด 145 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที เพิ่มขึ้นมา 15 นิวตันเมตร แต่ก็ต้องแลกกับน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นมา 40-50 กิโลกรัมแล้วแต่รุ่น
ภายนอกของรถยนต์ที่ได้รับการออกแบบมาอย่างโดดเด่น หน้าตาและลายเส้นที่รับกันดี กระจังหน้าพร้อม โบว์ไทด์ขนาดใหญ่ทำให้รถดูดุดันขึ้น รูปทรงสปอร์ตพร้อมตัวถังรถตีโป่งเพื่อเพิ่มความรู้สึกว่ารถใหญ่ขึ้น แถมในคันที่ขับก็เป็นรุ่นเอสเอส ที่ให้มาทั้งล้อ 16 นิ้วและชุดแต่ง ดูดีขึ้นมาอีกโข
กระโดดขึ้นนั่งหลังพวงมาลัย ก็ต้องบอกว่าเบาะที่นั่งก็ยังเล็กและไม่ค่อยรับกับสรีระเหมือนเดิม ต้องใช้เวลาในการปรับเบาะอยู่นานกว่าจะหาตำแหน่งการขับที่เหมาะสมได้ แต่ความกว้างขวางในห้องโดยสารถือว่าสอบผ่าน เรียกว่านั่งตำแหน่งไหนก็พอมีที่ให้ยืดแข้งยืดขาได้แบบไม่ลำบากเท่าไร
หน้าหล่อๆ
การออกแบบภายในเน้นการใช้งานแบบง่ายและเป็นมิตรต่อคนขับ มีการนำโครเมียมมาตัดเป็นจุด ๆ เพื่อไม่ให้รถดูทึมเกินไป ติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานมาครบ ทั้งระบบปรับอากาศ และระบบเครื่องเสียง ที่น้อยคนนักจะรู้ว่ามีระบบบลูทูธสำหรับโทรศัพท์มือถือติดตั้งมาในเครื่องเสียงด้วย
ก่อนจะข้ามเครื่องเสียงไป อันนี้ต้องชื่นชมระบบเครื่องเสียงของอาวีโอคันนี้เรื่องนึงครับ ก็คือเจ้าเครื่องเสียงของรถรุ่นนี้สามารถอ่านภาษาไทยได้ ลองจากแผ่นเอ็มพี3 ที่ใส่เข้าไป แต่ไม่ได้อ่านได้ยาวทั้งหมด ถ้าเป็นเพลงสมัยใหม่ ๆ ที่ตั้งชื่อเพลงกันเป็นประโยคบอกเล่า ก็จะอ่านได้ตามจำนวนที่เครื่องเสียงกำหนดเอาไว้ อันนี้รถหลาย ๆ คันรวมถึงพวกบรรดารถที่แพงกว่ายังทำไม่ได้ก็มี เครื่องยนต์ใหม่ที่ไปทำมา ให้อัตราการตอบสนองที่ดีขึ้นมากในช่วงการออกตัวไปจนถึงช่วงความเร็วกลาง ๆ แต่เมื่อเข้าที่ความเร็วเกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็ออกอาการตื้อ ๆ อย่างเห็นได้ชัด แม้จะยังบี้ไปที่ความเร็วสูงกว่านั้นได้อีกเล็กน้อยก็ตาม
การเปลี่ยนเลนกะทันหันหรือการวิ่งแซงรถคันอื่นบนท้องถนนอาจจะไม่ใช่นิสัยของอาวีโอมาตั้งแต่ต้น และแม้จะเปลี่ยนเครื่องยนต์มาแล้วก็ตาม ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข เพราะหากต้องการเร่งแซงในภาวะฉุกเฉินจริง ๆ ก็คงต้องบอกว่าอาจเหนื่อยหนักหน่อย เพราะเครื่องยนต์ที่แม้จะพัฒนามาใหม่แล้วก็ยังไม่สามารถรับมือกับการขับขี่แบบเต็มที่ได้ เรียกว่าทำมายังไงก็เหมาะแก่การขับไปไหนมาไหนในเมืองมากกว่าเท่านั้น
แถมอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่เป็นสิ่งที่เชฟโรเลตไม่ได้พูดถึง แต่จากการคำนวณแบบคร่าว ๆ อัตราการสิ้นเปลืองน่าจะอยู่ในระดับ 13-14 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งถือว่าไม่ได้เป็นจุดเด่นที่จะนำไปเคลมกับคู่แข่งได้ ซึ่งก็ตรงกับที่ทีมงานของเชฟโรเลตบอกว่าจากการทดสอบ เครื่องยนต์รุ่นใหม่และรุ่นเก่ามีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันไม่แตกต่างกันมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม จุดดีของอาวีโอก็ยังเป็นจุดดีในเรื่องของช่วงล่างแบบยูโรไรด์ที่ให้การ “เกาะถนน” ที่ไว้วางใจได้ แถมยังมีความนุ่มนวลมากพอสมควร สามารถฝ่าถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ หรือคอสะพานพัง ๆ ในกทม.หลายแห่งไปได้แบบสบาย ๆ โดยที่ไม่กระทบกระเทือนการโดยสารของผู้โดยสารมากนัก
อาวีโอ มาพร้อมกับระบบความปลอดภัย ตั้งแต่ระบบป้องกันการโจรกรรมจากกุญแจฝังชิปเฉพาะคันแบบอิมโมบิไลซ์เซอร์พร้อมรีโมต ล็อก-ปลดล็อกประตูและควบคุมการเปิดฝากระโปรงท้าย ด้านหน้าติดตั้งถุงลมนิรภัยทั้งฝั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า แกนพวงมาลัยเป็นแบบยุบตัวเมื่อเกิดการชนจากด้านหน้า มาพร้อมโครงสร้างตัวถังด้านหน้ายังทำหน้าที่กระจายแรงกระแทกเมื่อเกิดการชน
ด้านข้างเสริมคานรับแรงกระแทกและเสริมแผ่นเหล็กหลังเบาะผู้โดยสารด้านหลัง เพื่อลดแรงกระแทกจากสัมภาระเมื่อเกิดอุบัติเหตุ พร้อมระบบตัดการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ป้องกันการรั่วไหล อันอาจเป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้
เชฟโรเลต อาวีโอ 1.6 ลิตร มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น
ตั้งแต่รุ่นแอลเอสเอ็กซ์ ราคา 6.44 แสนบาท รุ่นแอลทีราคา 6.74 แสนบาท รุ่นเอสเอสราคา 6.89 แสนบาท และรุ่นท็อปลักซ์ราคา 7.09 แสนบาท โดยทุกรุ่นมาพร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ 4 จังหวะ ต้องถือเป็นการวางเดิมพันครั้งใหญ่ของเชฟโรเลตในการจัดสินใจเปิดรุ่นเครื่องยนต์ใหญ่ของอาวีโอออกมา แต่ก็ยังไม่แรงเท่ากับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรของคู่แข่ง แถมการเปิดตัวเครื่องยนต์ใหม่ ยังเป็นการดันราคาจำหน่ายของอาวีโอ ให้สูงขึ้นมาจนแพงกว่าคู่แข่งไปเป็นที่เรียบร้อย ก็น่าคิดเหมือนกันว่าจะสามารถผลักดันยอดจำหน่ายไปตามแผนงานที่จะมียอดขายจากรุ่น 1.6 ลิตรถึง 40% ได้หรือไม่
อาวุธสุดท้ายของอาวีโอกำลังจะตามออกมาภายในปีนี้ นั่นก็คืออาวีโอ ซีเอ็นจี ที่มีการยืนยันแล้วว่าอยู่ระหว่างการศึกษาและเตรียมการพัฒนาระบบซีเอ็นจีให้ใช้กับอาวีโอได้ งานนี้ดูแล้วท่าจะน่าสนใจไม่น้อย แต่ถ้าใครใจร้อนก็ลองไปขับเครื่องยนต์ 1.6 ลิตรดู แม้จะไม่จี๊ดจ๊าดถึงใจ แต่ก็เป็นรถที่ไว้ใจได้ในเรื่องการขับขี่ในเมืองเหมือนกัน!!!