จะไม่เรียกอย่างนั้นได้ไง ในเมื่อของที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์นี้ล้วนแล้วแต่มีที่มาแบบเดียวกัน นั่นคือ เป็นของแห่งความหลังเมื่อครั้งรักยังหวาน แต่ตอนนี้ไม่เป็นที่ต้องการแล้ว
แต่จะทิ้งไปเฉยๆ รึก็เสียดาย หลายคนที่ "อกหัก" เลยเอาความหลังพวกนี้ไปฝากไว้ที่พิพิธภัณฑ์ดีกว่า
สำหรับ พิพิธภัณฑ์คนอกหักนี้ เกิดขึ้นจากแนวคิดของ โอลิงก้า วิสติกา หญิงสาวชาวโครเอเชียที่เคยเจ็บปวดจากการหย่าร้าง เลยหวังให้นิทรรศการนี้ช่วยคลายทุกข์ให้คนที่ตกอยู่ในสภาพเดียวกัน ให้ดีวันดีคืนอย่างรวดเร็ว
วิธี ง่ายๆ ที่โอลิงก้าบอก คือการนำของที่เห็นทีไรก็ทำร้ายความรู้สึกทุกทีนั้นมาบริจาคที่พิพิธภัณฑ์ พร้อมเขียนคำอธิบายสั้นๆ ถึงที่มาที่ไป ความหมายและระยะเวลาของความสัมพันธ์
พิพิธภัณฑ์ นี้เป็นพิพิธภัณฑ์เคลื่อนที่ จึงมีการเปลี่ยนสถานที่จัดแสดงไปเรื่อยๆ โดยครั้งแรกจัดที่เบอร์ลิน เยอรมนี ซึ่งมีผู้คนมากมายหลั่งไหลเข้าชมงาน ในจำนวนนั้นไม่ใช่จะมีแต่คนอกหักที่อยากบอกเล่าเรื่องราวตัวเองเท่านั้น แต่ยังมีคู่รักอีกไม่น้อยที่เกี่ยวก้อยกันมาชี้ชวนดูสิ่งของต่างๆ พลางหวังในใจว่า วันหนึ่งคงไม่ต้องนำของจากอีกฝ่ายมาทิ้งไว้
สำหรับ ของที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์มีตั้งแต่ของพื้นๆ อย่างจดหมายรัก แหวนคู่ ตุ๊กตา ชุดแต่งงาน ไปจนถึงของแปลกๆ อย่างขาเทียม ขวานที่ใช้จามเฟอร์นิเจอร์ของแฟนจอมเจ้าชู้ ฯลฯ
ถ้าอยากดูหรืออยาก บริจาคต้องอดใจไว้ รอให้เขามาเปิดพิพิธภัณฑ์ในเมืองไทย
เริ่มๆ มองข้าวของจากแฟนเก่าที่ทำให้เราช้ำใจ เพื่อเอาไปมอบให้พิพิธภัณฑ์กันรึยัง?