เอเอฟพีรายงานวันที่ 12 ม.ค.ว่า อินเดียเผชิญคดีรุนแรงทางเพศซ้ำอีก เมื่อเด็กหญิงอายุ 7 ขวบถูกชายวัยรุ่นในหมู่บ้านฮาร์ปุระ เขตซันภทา รัฐอุตตรประเทศ ทางตอนเหนือ ลักพาตัวไปข่มขืนกระทำชำเราและฆ่าทิ้งตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค. โดยตำรวจพบศพและเร่งสืบสวนหาตัวคนร้ายจนจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ในวันต่อมา คดีดังกล่าวเกิดต่อเนื่องจากคดีสะเทือนขวัญที่นักศึกษาสาววัย 23 ปีถูกชาย 6 คนรุมโทรมบนรถเมล์ในกรุงนิวเดลีเมื่อ 16 ธ.ค.2555 และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ความคืบหน้าคดีข่มขืนนักศึกษาหญิงดังกล่าว เดลี่เมล์รายงานว่า นายราม ซิงห์ วัย 33 ปี ผู้ต้องหา 1 ใน 6 ที่รุมโทรมเหยื่อ เคยออกรายการรับร้องเรียนทางทีวีเมื่อปี 2554 โดยในตอนนั้นนายซิงห์เรียกร้องค่าชดเชยในอุบัติเหตุกับนายจ้าง แต่นายจ้างตอบโต้ว่านายซิงห์ลักลอบขับรถบัสออกไปโดยไม่ได้รับอนุญาต ซ้ำยังขับด้วยความประมาทจนทรัพย์สินเสียหาย อาการเจ็บป่วยของนายซิงห์มาจากการทำผิดเอง จึงจะไม่จ่ายเงินให้
อัยการแจ้งว่าจะนำข้อมูลจากรายการดังกล่าวไปพิจารณาประกอบการดำเนินคดีเอาผิดนายซิงห์และพวกที่รุมข่มขืนเหยื่อสาวอย่างเลือดเย็น โดยนักศึกษาสาวให้การไว้ในช่วงรักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลในสิงคโปร์ก่อนจะเสียชีวิตว่า ทันทีที่ตนและเพื่อนชายขึ้นรถเมล์ คนขับได้หรี่ไฟและชาย 5 คนตรงเข้ามาหาและลงมือทำร้าย จากนั้นดึงตนไปหลังรถ ฉีกเสื้อผ้าจนขาดและเริ่มข่มขืนทีละคน ระหว่างนั้นกลุ่มคนร้ายตีตนด้วยราวเหล็กและกัดไปทั่วร่างกาย
"ผู้ชาย 6 คนผลัดกันข่มขืนฉันเกือบชั่วโมงบนรถที่กำลังแล่น คนขับเองก็เปลี่ยนให้พวกไปขับแทนเพื่อที่เขาจะได้ข่มขืนฉันด้วย" นักศึกษาสาวกล่าว
ทั้งนี้ ศาลจะเปิดพิจารณาคดีอีกครั้งในวันที่ 14 ม.ค. หลังทนายความของผู้ต้องหา 3 ใน 5 คนปฏิเสธว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิดในการไต่สวนครั้งแรก พร้อมอ้างว่าลูกความคนหนึ่งของเขาถูกตำรวจซ้อมให้รับผิดด้วย