กันทรลักษ์ฮือ ทหารลุยอีก! โวย"ผู้จัดการ"
ชาวกันทรลักษ์ฮือ ต้านม็อบพธม.บุกเขาพระวิหาร วอนไปปลุกม็อบที่อื่น กลัวเป็นชนวนสงคราม ชาวบ้านจะเดือดร้อน ส่วนม็อบมากันแค่ 50 คน เลยต้องถอนทัพกลับ หลังตั้งเวทีได้เพียง 2 ชั่วโมง ขณะที่ทหาร-ตำรวจตั้งด่านตรวจเข้มเส้นทางขึ้นผามออีแดง ป้องกันเหตุบานปลาย รองโฆษกเพื่อไทยวอนอย่าโยงเรื่องอภัยโทษ ?ราตรี-วีระ? กับศาลโลกตัดสินคดีเขาพระวิหาร ถามกลับประชาธิปัตย์ สมัยเป็นรัฐบาลทำไมไม่ยอมช่วย ทหารหลายหน่วยตบเท้าไปบ้านพระอาทิตย์อีก เรียกร้องให้ออกมาขอโทษที่เสนอข่าวโจมตี ผบ.ทบ.
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 12 ม.ค. กลุ่มธรรมยาตรากอบกู้รักษาผืนแผ่นดินไทยประมาณ 50 คน นำโดย นายสมาน ศรีงาม ประธานกลุ่ม นายปราโมทย์ หอยมุก นพ.ประทีป ตลับทอง และนายเสวต ทีนะกุล อดีต สสร. ตั้งเวทีปราศรัยที่บ้านโศกขามป้อม ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นศูนย์ประสานงานหมู่บ้านสมัชชาธรรมยาตราพิทักษ์สยามทวงคืนเขาพระวิหาร โดยบรรดาแกนนำพากันผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนขึ้นไปปราศรัยเป็นเวลา 2 ชั่วโมง ก่อนแยกย้ายกันกลับ โดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด ท่ามกลางกำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 2 และตำรวจ สภ.บึงมะลู ซึ่งมารักษาความสงบเรียบร้อย พร้อมตั้งด่านตรวจเข้มตามเส้นทางไปผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด
ขณะเดียวกันชาวบ้านโศกขามป้อมต่างแสดงความไม่พอใจที่กลุ่มธรรมยาตราใช้พื้นที่หมู่บ้านดังกล่าว ซึ่งอยู่ติดชายแดนประเทศกัมพูชาจัดกิจกรรมเคลื่อนไหว เนื่องจากเกรงว่าอาจจะเป็นต้นเหตุทำให้เกิดสงครามระหว่างไทยกับกัมพูชาขึ้นมาอีกเหมือนกับเมื่อ พ.ศ.2554 พร้อมระบุว่า อยากให้ไปชุมนุมเรียกร้องในพื้นที่อื่น เพราะกลุ่มที่มาชุมนุมเป็นคนที่มาจากต่างถิ่น เมื่อเกิดมีสงครามขึ้นมาจะพากันไปอยู่ที่อื่น แต่ชาวบ้านยังต้องอยู่ในพื้นที่ต่อไป และต้องคอยหอบลูกจูงหลานวิ่งหลบหนีลูกปืนใหญ่อย่างยากลำบาก ทำให้ได้รับความเดือดร้อนเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
ด้านนายพยม ธารีชาญ รอง ผวจ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมครั้งนี้ จึงประสานงานกับทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เพื่อวางแผนในการป้องกันรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างเต็มที่ ขณะนี้ทั้งทหารและตำรวจตั้งด่านตรวจเข้มตลอดตามเส้นทางที่มุ่งสู่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ศรีสะเกษ เชื่อว่าจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด
วันเดียวกันที่พรรคเพื่อไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่ประเทศกัมพูชาเตรียมพระราชทานอภัยโทษให้กับ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ โดยจะได้รับการปล่อยตัวในช่วงงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระนโรดม สีหนุ ในวันที่ 1 ก.พ. และนายวีระ สมความคิด จะลดหย่อนโทษให้เป็นเวลา 6 เดือน ว่า ถือเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งสำหรับญาติของทั้งสองแกนนำคนไทยหัวใจรักชาติ ในฐานะคนไทยที่ไปตกระกำลำบากในต่างประเทศ
นายจิรายุกล่าวว่า รัฐบาลไทยนำโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ประสานงานไว้เมื่อครั้งไปเยือนกัมพูชา และการให้ความช่วยเหลือนี้ไม่ได้เลือกว่าจะเป็นใคร ขอให้เป็นคนไทย อะไรที่ทำได้คิดว่า นายกฯ ต้องทำเพื่อคนไทยทุกคนอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการอภัยโทษเป็นเรื่องกิจการภายในของประเทศกัมพูชา แต่กลับมีกลุ่มคนบางกลุ่มนำไปโยงกับเรื่องศาลโลกกรณีปราสาทพระวิหาร การจะปล่อยตัวหรือไม่ปล่อยตัวน.ส.ราตรีและนายวีระ ไม่สามารถไปสั่งการอะไรศาลโลกได้ วันนี้ประเทศกำลังเดินหน้าไปได้ดี ไทยกำลังจะกลับมาผงาดอีกครั้งในเวทีโลก และประชาคมอาเซียนก็ใกล้เข้ามา จึงไม่น่าจะทำให้เสียบรรยากาศ
นายจิรายุกล่าวอีกว่า จากการติดตามการเมืองมาตั้งแต่ปี 2549 รู้สึกเสียใจแทนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ครั้งนั้นน่าจะถามหาความช่วยเหลือจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ ว่าเหตุใดตอนเป็นนายกรัฐมนตรีจึงช่วยแค่นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เพียงคนเดียว ทำไมไม่เจรจาขอตัวหรือให้รัฐบาลเพื่อนบ้านช่วยพิจารณาลดโทษบ้าง ทำให้ดูเหมือนเป็นการโดดเดี่ยวกลุ่ม พันธมิตรฯ
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์ที่สวนสยาม กรุงเทพฯ ถึงกรณีกลุ่มพันธมิตรฯ เคลื่อนไหวแสดงจุดยืนเรื่องปราสาทพระวิหารในวันที่ 21 ม.ค.ว่า เป็นสิทธิที่จะแสดงออก แต่ขอให้ทุกฝ่ายมีความอดทน เพราะวันนี้ต้องช่วยกันรวมพลังต่อสู้ให้ชนะในเรื่องข้อพิพาทกับต่างชาติ คนไทยควรสามัคคีกัน
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ส่วนกรณีที่กลุ่มธรรมยาตรากอบกู้รักษาผืนแผ่นดินไทยกรณีเขาพระวิหาร-มณฑลบูรพา เตรียมชุมนุมในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องมีความระมัดระวังด้วย เพราะก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุกระทบกระทั่งกับชาวบ้านในพื้นที่แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องหาทางลดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการปะทะกัน และต้องดูแลทั้ง 2 กลุ่มให้ดี สำหรับกรณีที่ทางการกัมพูชาจะปล่อยตัวน.ส.ราตรีนั้น ต้องมองว่าเป็นการปล่อยตัวเนื่องในโอกาสสำคัญของกัมพูชา ส่วนเรื่องอื่นเป็นเรื่องที่ไทยต้องรักษาสิทธิและต่อสู้ตามสิทธิของเรา
วันเดียวกันมีทหารจากหลายหน่วยกว่า 50 นาย รวมตัวกันเดินทางมายังบ้านพระอาทิตย์ ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร ที่ตั้งสำนักงานหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการ เนื่องจากไม่พอใจที่เสนอข่าวโจมตีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ด้วยถ้อยคำไม่สุภาพ เป็นการหมิ่นศักดิ์ศรี และเรียกร้องให้ขอโทษ ผบ.ทบ. โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา ทหารจากกองทัพภาคที่ 1 และมณฑลทหารบกที่ 11 กว่า 50 นาย เดินทางมาแสดงความไม่พอใจที่บ้านพระอาทิตย์ไปแล้วครั้งหนึ่ง
จ.ส.อ.ชัยณัฐฏ์ โชคสถานทิพย์ กล่าวว่า วันนี้ไม่ได้นัดหมายกันและไม่ได้ออกมาปกป้อง ผบ.ทบ. แต่มาในฐานะประชาชนคนหนึ่งและมาด้วยหัวใจที่รักกองทัพบก เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม เพราะไม่อยากให้สื่อใช้คำพูดให้ร้ายกองทัพจนทำให้ประชาชนเข้าใจผิด หากทางหนังสือพิมพ์ยอมออกมาขอโทษกองทัพบกจะให้อภัยและถือว่าจบกันไป แต่ไม่ขอรับปากว่าจะเดินทางกันมาอีกครั้งหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่จ.ส.อ.ชัยณัฐฏ์กำลังพูดขอบคุณกลุ่มเพื่อนทหารที่ร่วมเดินทางมา มีประชาชนบางรายที่ไม่พอใจเข้ามาต่อว่า ว่าเป็นวันเด็กไม่สมควรมาทำแบบนี้ แต่เว็บหมิ่นสถาบันทหารกลับไม่ยอมไปจัดการ จนทางตำรวจ สน.ชนะสงคราม ต้องเข้ามาไกล่เกลี่ย ก่อนที่ทหารจะเดินทางกลับ
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า การกระทำดังกล่าวเป็นเพียงการปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรี ซึ่งเป็นความคิดเห็นของกำลังพลเอง และผบ.ทบ.ฝากขอบใจกำลังพลที่ทุกคนรักเกียรติของตัวเอง และไม่ได้ไปล่วงละเมิดสิทธิของคนอื่น และสั่งการไปยังผู้บังคับหน่วยของ ทบ.ให้หยุดการเคลื่อนไหว หากทุกคนเอาแต่ความรู้สึกเป็นที่ตั้งคงไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้ และไม่สามารถทำให้สถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายได้ ขอให้อภัยกัน เพื่อจะไม่ถูกนำไปกล่าวอ้างในทางไม่ดี
ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า กรณีทหารไปประท้วงหน้าเอเอสทีวี เมื่อวันที่ 11 ม.ค. สามารถทำได้ เพราะเป็นสิทธิ์ปกป้องกองทัพ ไม่ใช่การปกป้องตน เชื่อว่าจะไม่บานปลาย