มาดูสัตว์ประหลาดในตำนานของยุโรป กันครับ ว่าจะน่ากลัวขนาดไหน มีอะไรบ้าง
บาโฟเมด เดิมทีเป็นเทพแห่งการมีลูกดก ของชาวลัทธิเพเกิน ต่อมาศาสนาคริสต์เข้ามาแล้วได้เปลี่ยนให้เป็นสัญลักษณ์ของซาตานและแม่มด
สตอร์ม มังกรพายุ เจ้าแห่งเวหา ราชาแห่งมังกร มังกรที่บินได้เร็วที่สุดในบรรดาเผ่าพันธุ์มังกรด้วยกัน
สไคร่า จริงๆแล้วตัวนี้ซ้ำกับชุดเก่าค่ะ แต่รูปใหม่ดูยากขึ้นไปอีก และมันก็ไม่ได้คล้ายเซอร์เพน ( ที่ได้โพสไปภาคแรก) แต่เป็นปิศาจทั้งมนุษย์ และคน สุนัข ในร่างเดียวกัน …. อย่าเพิ่ง งง นะคะ ถ้าหากใครได้ดูหนังเรื่อง Troy แล้ว จะมีคนชื่อ โอดิสซิอุส คนนั้นแหละค่ะที่ทำม้าไม้ เพื่อนร่วมของอาคิริส ถ้าใครเกิดทันอีกจะได้ดูหนังเก่าอย่าง มหากาพย์ โอดิสซี่ ซึ่งจะได้เห็นเจ้าตัวสไคร่าด้วย มันกินเรือของโอดิสซิอุสไปทั้งลำเลย….. วู้ววว เจ๋งป่ะล่ะ
บาซิสิส ในแฮรรี่นั่นมีอยู่ตัว แต่ในรูปทำไมไม่เหมือน แต่เพื่อนรู้ไหมว่าบาสิลิสนั่นเป็น งูที่มีจะงอยปากคล้ายไก่ เรียกได้ว่าลูกผสม
คาโตเพิลบาส มังกรเก่าแก่อีกตัว ซึ่งไม่สามารถบินได้
ไซครอป ยักษ์ตาเดียว
อสูรถ้ำสังหาร ดาร์คแมนเทิลหรือเสื้อคลุมมรณะ ปลาหมึกถ้ำที่ชอบล่าเหยื่อด้วยการกระโดดใส่
เดท เทพแห่งความตายหรือยมทูต ผู้ถือเคียวปีศาจ
เกรมลิน ปีศาจในกรีโมวาล(ตำราไสยศาสตร์)ของยุโรป
Hoop Snake (ฮูปสเนค) ฮูปสเนคเป็นสัตว์ในนิทานพื้นบ้านของชาวอเมริกา มันเป็นงูที่อมปลายหางของตัวเองไว้ในปาก และเคลื่อนที่โดยการหมุนตัวบนพื้นดิน ฮูปสเนคสามารถเคลื่อนที่ได้รวดเร็วจนไม่มีใครหนีพ้น วิธีเดียวที่จะหนีจากมันก็คือกระโดดลอดผ่านรูที่เกิด จากการอมปลายหางของมัน จะทำให้ฮูปสเนคสับสนและเคลื่อนที่ผ่านเราไปโดยย้อนกล ับไม่ทัน บางครั้งฮูปสเนคก็เกี่ยวข้องกับสัญลักษณ์ “Uroboros (อุโรโบรอส)” (ถ้าอ่าน Full Metal Alchemist น่าจะเคยได้ยินนะ) สัญลักษณ์แห่งความอมตะและจักรวาลรวมเป็นหนึ่งในศิลปะ ของกรีกและอียิปต์ สัญลักษณ์อุโรโบรอสแสดงให้เห็นรูปของงูที่มีปลายหางข องมันอยู่ในปาก ตัวของมันโค้งเป็นวงกลม พญางูแห่งมิดการ์ดในตำนานของชาวนอร์สก็โอบล้อมโลกด้ว ยการอมหางของมันไว้ใน ปากเช่นกัน
Hippocampus (ฮิปโปแคมปัส) อาจจะไม่คุ้นชื่อนะครับสำหรับตัวนี้ ฮิปโปแคมปัสเป็นสัตว์ครึ่งม้าครึ่งปลา ชื่อของมันแปลว่า “Sea Horse” ครับ (จะแปลว่า ม้าทะเล หรือ ม้าน้ำ ดีล่ะ...) มันมีหัวและขาหน้าเหมือนกับม้า แต่เท้าเป็นพังผืดและแผงคอมีครีบ ลำตัวของมันยาวเหมือนม้า ส่วนท่อนล่างเป็นหางปลา
Golem (โกเลม) ว่ากันว่าพระชาวยิวในเมืองปราก (Prague) เมืองหลวงของเชโกสโลวะเกีย เป็นคนสร้างโกเลมขึ้น ในตอนนั้นชาวยิวที่อาศัยอยู่ในสลัมของปรากกำลังถูกข่ มเหง โกเลมจึงเกิดขึ้นเป็นสัญลักษณ์ของการปกป้อง (Protection) โกเลมถูกสร้างขึ้นจากดินเหนียว และจะมีชีวิตเมื่อพระเขียนคำว่า shem (“ชื่อ”) บนกระดาษหนังแล้วใส่เข้าไปในปากของมัน นอกจากนั้นพระยังเขียนคำว่า emet (“สัจธรรม” Truth) บนหน้าผากของมัน โกเลมมีร่ายกายที่แข็งแกร่งและคอยปกป้องชาวยิวตลอดมา อย่างไรก็ตาม ผู้คนในเมืองเริ่มเกรงกลัวสิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้น พระจึงได้ทำลายโกเลมด้วยการเปลี่ยนคำว่า emet เป็น met ซึ่งหมายถึง “ความตาย”
เป็นสัตว์ ทะเลขนาดยักษ์ เพศเมีย มีหลายหัว มันมีพละพลังมหาศาล มีโครงสร้างร่างกายที่แกร่งกล้า มีเกล็ดตามร่างกายที่หนาถึง 2 ชั้นซึ่งเปรียบเหมือนเสื้อนอก ที่แต่ละชั้นแนบชิดติดตัวและต่อกันเป็นเนื้อเดียวเหม ือนตราผนึกที่แข็งแกร่ง จนลมไม่สามารถผ่านเข้าออกได้ มันมีดวงตาที่ส่องสว่างเปรียบเหมือนแสงอันเจิดจ้าของ อรุณรุ่ง (หมายถึงมันโผล่ตาขึ้นมาเหนือน้ำเหมือนที่จระเข้ทำเว ลาล่าเหยื่อ ตามันจะโผล่พ้นน้ำมาเล็กน้อย เหมือนพระอาทิตย์โผล่พ้นเหลี่ยมเขาในตอนเช้า) มีฟันแหลมคมเหมือนจระเข้
....สามารถพ่นไฟได้ และแม้เพียงหายใจก็มีควันคุกรุ่นออกมาเหมือนหม้อเดือ ด เนื้อหนังมังสาที่อยู่ภายใต้เกล็ดแกร่งนั้นเล่าก็หล่ อติดกันแน่น จนไม่ว่าใครก็ไม่สามารถทำอะไรมันได้ อีกทั้งช่วงล่าง (หรือคงเป็นช่วงท้อง) ก็มีสภาพเป็นเกล็ดแหลมคม อาวุธต่างๆ ไม่สามารถสร้างความเสียหายและระคายเคือง อีกทั้งหัวใจยังแข็งแกร่งเหมือนแท่นโม่หิน......"
ตัวนี้น่าจะคุ้นกันดี คิมีร่าเป็นสัตว์ที่มีหัวเป็นสิงโต ตัวเป็นแพะ และหางเป็นงู ลมหายใจของมันก่อให้เกิดเพลิงร้อนแรงถึงตายได้เชียวน ะ คิมีร่า Chimera หรือ Chimaera ชื่อกรีก= Χιμαιρα ชื่อภาษาละติน= Chimæra
....คิ มีร่าเป็นสัตว์ในตำนานกรีก มีส่วนผสมของสัตว์อีกสามชนิด ได้แก่ สิงโต แพะ และงูหรือมังกร โดยมันมีส่วนหัวปกติจนไปถึงอกเป็นสิงโต ส่วนกลางของมันเป็นแพะ และมีส่วนท้ายเป็นงู มีหัวงูอยู่ที่ตรงปลายหางสามารถศัตรูได้ ซึ่งแต่ละหัวของมันนั้น มีความคิดเป็นของตัวเอง หัวมังกรของมันสามารถพ่นไฟได้ หายใจเป็นเปลวไฟ หางมันเป็นงูพิษร้ายแรง กัดแล้วถึงตายในทันที คิเมร่าเป็นลูกของอสูรกายไทฟอน และอิคิดนา มีพี่น้องหกตัวได้แก่ เซอร์บีรัส ไฮดรา นีเมียน สฟิงซ์ และเลดอน
Griffin กริฟฟิน....Griffon (ฝรั่งเศส), Griffin (อังกฤษ) สัตว์ประหลาดในตำนานเทพนิยายกรีก โดยกริฟฟอนจะมีหน้าที่สำคัญอยู่ 2 อย่าง คือหนึ่งเป็นผู้ลากราชรถของเหล่าเทพ ซึ่งกริฟฟอนเหล่านี้จะแตกต่างจากกริฟฟอนทั่วไปคือมีร ่างและปีกเป็นสีดำ และหน้าที่ที่ 2 ก็คือคอยลงโทษเหล่ามนุษย์ที่มักมากในทรัพย์สมบัติ ซึ่งอันนี้มาจากนิสัยของกริฟฟอนที่ชอบสะสมสมบัติมีค่ า หรือชอบทำรังไว้ใกล้ ๆ กับขุมสมบัติ
....กริฟฟิน หรือ กริฟฟอน (griffin, gryphin, griffon หรือ gryphon) คือสัตว์ในเทพนิยายร่างกายเป็นครึ่งนกอินทรี ครึ่งสิงโต โดยส่วนหัว ขาคู่หน้าและปีก เป็นนกอินทรี ส่วนลำตัวและขาคู่หลังเป็นสิงโต และมีหางเป็นงู บางจำพวกก็มี หางของสิงโต ขนบนหลังเป็นสีดำ ขนที่อยู่ข้างหน้าเป็นสีแดง ส่วนขนปีกเป็นสีขาว. อาศัยอยู่ในถ้ำตามภูเขาตามตำนานกรีก
....กริฟฟินถูกเปรียบเทียบให้เป็นเหมือนกับซาตาน ที่คอยล่อลวงวิญญานของมนุษย์ให้ติดกับ แต่ต่อมากริฟฟินก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของทั้งทวยเทพ และมนุษย์ สำหรับพระเยซู เพราะมันเป็นเจ้าแห่งพิภพและเวหา อีกทั้งมีรังสีแห่งแสง อาทิตย์. ศัตรูของกริฟฟินคือ บาซิลิสก์ ซึ่งเปรียบได้กับรูปจำลองของซาตาน
... ไฮดราเป็นบุตรของ Echidna กับ Typhon มันอาศัยอยู่ในหนองน้ำของเลอร์นา (Lerna) ไฮดราเป็นสัตว์เก้าหัวที่มีพิษถึงตายได้ และมันมีหัวหนึ่งที่เป็นอมตะ ทุกครั้งที่หัวหนึ่งโดนตัดก็จะงอกขึ้นมาใหม่ได้ (บอสของบางเกมก็เอามุขนี้ไปใช้เหมือนกัน) เฮอร์คิวลิสฆ่าไฮดราโดยการใช้คบไฟลนตรงแผลที่ถูกตัดจ นปิดสนิท เพื่อไม่ให้หัวใหม่งอกขึ้นมาได้ และฝังหัวที่เป็นอมตะไว้ใต้ก้อนหิน
....อสุรกายตัวนี้อาศัย ณ บึงร้างเลอร์นาในอาร์โกลิส เป็นมอนสเตอร์ร่างใหญ่อีกหนึ่งในตระกูลไทฟอน(ยักษ์ร้ อยหัว) และ อิคิดนา (นางปีศาจครึ่งคนครึ่งงู) แต่บางเวอร์ชั่นว่าเป็นบุตรของไททันพาลลาส(Pallas)แล ะสติกซ์(Styx เทพีแห่งแม่น้ำแห่งความตายสติกซ์) เป็นพี่น้องกับนีเมียน เคอบีรอส ไคเมรา ลาดอน และสฟิงซ์
(Werewolf)มนุษย์หมาป่า
เป็น ผีจำพวกเดียวกับแวมไพร์และมีพฤติกรรมคล้ายกัน คือ ดื่มกินเลือดและเนื้อของมนุษย์และสัตว์อื่นเป็นอาหาร เป็นความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ของชาวยุโรปในยุคกลาง โดยที่เชื่อว่า บุคคลที่เป็นมนุษย์หมาป่าจะกลายร่างเป็นหมาป่าในคืนว ันพระจันทร์เต็มดวง อาจจะแปลงร่างเป็นหมาป่าทั้งตัวเลยก็ได้ หรือครึ่งคนครึ่งหมาป่า หรือแม้กระทั่งแปลงเป็นสัตว์ป่าชนิดอื่น เช่น หมี เป็นต้น
....โดยที่วิธีการฆ่ามนุษย์หมาป่าจะคล้าย ๆ กับแวมไพร์ โดยตอกด้วยลิ่ม หรือเผา ที่เห็นบ่อยโดยเฉพาะในภาพยนตร์ก็คือ การยิงด้วยกระสุนที่ทำจากเงินหรือกระสุนผ่านการปลุกเ สก มนุษย์หมาป่าก็แพ้แสงแดด และถูกตามล่าเหมือนกับแวมไพร์
เป็น ไปได้ว่าความเชื่อเรื่องมนุษย์หมาป่านั้น มีที่มาจากความกลัวหมาป่า โดยเฉพาะหมาป่าที่พบในยุโรป ที่มีลำตัวขนาดใหญ่ และมักออกล่าเป็นฝูง โดยอาจดักซุ่มโจมตีมนุษย์หรือสัตว์เลี้ยงในเวลากลางค ืน ผนวกกับความเชื่อและความหวาดกลัวบุคคลนอกสังคม ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นปีศาจ อย่างแม่มดหรือแวมไพร์ ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า เรื่องมนุษย์หมาป่านั้น แท้จริงแล้วคือ สัญชาตญาณสัตว์ป่าที่มีอยู่ในตัวมนุษย์
....รากศัพท์ที่มาของคำว่า มนุษย์หมาป่า นั้น Were เป็นภาษาอังกฤษโบราณที่หมายถึง "มนุษย์" นั่นเอง และความเชื่อเรื่องของมนุษย์ที่กลางร่างเป็นกึ่งคนกึ ่งสัตว์ที่มีทั่วทุกมุม โลก เช่น ในอเมริกาใต้มีมนุษย์งูเหลือม หรือมนุษย์จระเข้ ที่แอฟริกามีมนุษย์เสือดาว หรือเสือดำ หรือปีศาจช้าง ที่อินเดียมีมนุษย์สิงโต หรือ " นรสิงห์ " นั่นเอง
Kraken (คราเคน)
...ใน บรรดาเรื่องเล่าเกี่ยวกับสัตว์ยักษ์ใต้สมุทร คงไม่มีเรื่อง ใดจะน่าสยดสยองเท่าความดุร้ายของ Kraken อีกแล้วจากเรื่องเล่าขาน เจ้าสัตว์ยักษ์ตัวนี้มีขนาด มหึมา มีหนวดใหญ่ยุ่บยั่บ โผล่ขึ้นจากน้ำพรวดเดียวก็สูงกว่าเสากระโดงเรือ เจ้า Kraken ชอบที่จะโจมตีเรือเดินสมุทรอย่างกะทันหัน โอบหนวดของมันรัดลำเรือเอาไว้ หนวดที่ เหลือมันจะรัดลูกเรือจนกระดูกแหลกเหลว บ้างก็รัดเข้ามา ป้อนเข้าปากอันน่ากลัวของมัน
....แต่เรื่องราวในช่วงถัดมาเกี่ยวกับคราเก้นก็ค่อยๆ ลดขนาดของมันลงเรื่อยๆ ไม่มหึมา โอฬารอย่างในอดีต ถึงกระนั้นก็ยังจัดเป็นสัตว์ไซส์ยักษ์อยู่ดี Kraken ในตำนานของทะเล เหนือ ในสายตาของนักชีววิทยาแล้ว มันคงเป็นสัตว์ประเภทปลาหมึกยักษ์เสียมากกว่า ลักษณะของปลาหมึกชนิดนี้มักจะก้าวร้าวรุกราน และขึ้นมาหาเหยื่อเหนือผิวน้ำ เมื่อแล เห็นมนุษย์ ขนาดของมันไม่ถึงกับยาวกว่าครึ่งไมล์ ตามบันทึกของท่านบิชอปหรอกนะ ถึงกระนั้นขนาดของมันก็สูสีกับสัตว์ที่ตัวใหญ่ที่สุด ในโลก คือปลาวาฬเสปิร์มอยู่ดี