สลด! สุนัขแสนรู้สู้โจรย่องขโมยปลา ถูกจับกดน้ำตายคาสระ

ชายเมาย่องขโมยปลาช่อนอะเมซอน จับสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ที่เจ้าของบ้านเลี้ยงไว้กดน้ำจนตาย หลังต่อสู้กันในสระน้ำนานกว่าครึ่งชั่วโมง อ้างไม่มีทางเลือก เพราะสุนัขไม่ยอมปล่อย

                เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 มกราคม) มีรายงานว่า นายอนุชิต วิกัยพัฒน์ อายุ 34 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ให้ดำเนินคดีกับ นายประมวล ขาดลำ อายุ 39 ปี ข้อหาบุรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน และทำให้เสียทรัพย์ โดยนายอนุชิต เล่าว่า ที่บ้านเลี้ยงสุนัขไว้ 2 ตัว ตัวแรกเป็นสนุขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ ชื่อ นิล ส่วนอีกตัวเป็นพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ชื่อ ทาโร่ โดยเมื่อคืนวันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา ตนได้ยินเสียงสุนัขทั้ง 2 ตัวเห่าเหมือนเกิดการต่อสู้กันเป็นเวลานาน เมื่อเปิดประตูออกมาดู ก็พบว่า นายประมวล กำลังเกาะเชือกที่ผูกเครื่องปั่นน้ำ อยู่กลางสระน้ำในบ้าน ในสภาพอ่อนแรง และมีเลือดโชกอยู่ทั่วใบหน้า ดังนั้นตนจึงเรียกญาติ ๆ มาช่วยกันดึงตัวนายประมวลขึ้นจากน้ำ เพราะเกรงว่าจะจมน้ำตาย

                นายอนุชิต เล่าต่อว่า จากนั้นเมื่อซักถามนายประมวลกับยอมรับว่า เข้ามาเพื่อจะขโมยปลาช่อนอะเมซอน ขนาดตัว 120 เซนติเมตร ตอนแรกก็ไม่คิดจะเอาเรื่อง เพราะเห็นว่าเป็นคนเมา และตอนที่กำลังจะปล่อยตัวไป นายประมวลกลับพูดออกมาว่า ได้ลงมือฆ่าสุนัขตายในสระแล้ว และเมื่อตนลองเรียกหา แต่เจ้านิลก็ไม่โผล่มา จนรุ่งเช้าจึงได้เรียกกู้ภัยมาช่วยงมหาเจ้านิลตตามคำพูดของนายประมวล โดยไม่แน่ใจว่านายประมวลได้ฆ่าเจ้านิลไปจริง ๆ หรือเปล่า แต่ปรากฏว่า กู้ภัยได้ก็พบร่างเจ้านิลจมอยู่ก้นสระ ตามที่นายประมวลพูดจริง ๆ จึงตัดตัดสินใจมาแจ้งความเอาผิดที่สถานีตำรวจ

                ทั้งนี้ ระหว่างการสอบปากคำ นายประมวลที่ยังคงมีอาการมึนเมา ได้กล่าวยอมรับว่า สุนัขที่ตายเป็นสุนัขแสนรู้ เพราะตอนที่เข้ามาในบ้าน เจ้านิล และเจ้าทาโร่ ต่างวิ่งไล่กัดตน จนต้องวิ่งหนีลงไปในสระ และกอดเชือกเอาไว้ แต่หลังจากนั้น เจ้านิลก็กระโดดลงมาในน้ำเพื่อจะเข้ามาทำร้ายตนอีก ดังนั้นตนจึงไม่มีทางเลือก เพราะเมื่อดำน้ำหนี สุนัขก็ดำน้ำตาม ซ้ำยังต่อสู้กันในน้ำนานกว่าครึ่งชั่วโมง ดังนั้นตนจึงตัดสินใจใช้วิธีจับคอสุนัขกดลงไปในน้ำจนสุนัขแน่นิ่งไป

               เมื่อเสร็จสิ้นการสอบปากคำแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาบุรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน และทำให้เสียทรัพย์ เพื่อนำตัวนายประมวลไปดำเนินคดีตามกฎหมาย