ไอ้แบงก์สารภาพ มีดโกน! เชือดวิตถารพริตตี้

อ้างเหตุเมา-แค้นถูกด่า! คลั่งตัดหูกับอวัยวะเพศ ฆ่าแมวให้ตายเป็นเพื่อน คุมทำแผนฯ-สุดชุลมุน



นาทีฆ่า - ตร.คุมตัวนายไพโรจน์ นันทตันติ หรือไอ้แบงก์ ทำแผนฯ นาทีฆ่าน.ส.อัฉราณี รักษ์เชื้อ สาวพริตตี้ ภายในจุดเกิดเหตุคอนโดฯ ที่จ.นนทบุรี ให้การอ้างทำไปเพราะเมาและแค้นถูกผู้ตายด่าบุพการี เมื่อวันที่ 8 ม.ค.

เปิดคำให้การ"ไอ้แบงก์"ฆาตกรวิตถารฆ่าแฟนสาวพริตตี้ สารภาพใช้มีดโกนกรีดหน้า-ทั่วตัว ก่อนตัดใบหูและอวัยวะเพศยัดใส่ปาก จากนั้นเขียนชื่อบุคคลต่างๆ ระบายอารมณ์ อ้างทำไปเพราะความเมาและถูกแฟนด่าลามปามถึงบุพการี หลังก่อเหตุโทรศัพท์หาเพื่อนพ่อให้พาหนี ระบุที่บวชเพราะฝันเห็นแฟนสาวจนเกิดความกลัว ตร.เช็กประวัติพบหมายจับรวม 4 คดี หนีมาตั้งแต่ปี 2552 เผยเคยได้เงินถึง 21 ล้านบาทจากหนุ่มแบงก์เพื่อนชายคนสนิทพิเศษ ที่ก่อคดียักยอกเงินแบงก์ แต่ใช้เงินเป็นเบี้ยจนหมด ระหว่างทำแผนฯต้องใส่เสื้อเกราะและมีคอมมาน โดคุ้มกัน เพราะมีเพื่อนและญาติพริตตี้สาวมาดูพร้อมตะโกนด่าและจะเข้าประชาทัณฑ์ ต้องรีบทำแผนฯและส่งเข้าเรือนจำทันที ส่วนศพพริตตี้สาวเผาแล้ว พ่อดีใจที่จับคนร้ายได้



จากกรณีตำรวจสามารถติดตามจับกุมนายไพโรจน์ นันทตันติ หรือแบงก์ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาฆ่าเผาน.ส.อัฉราณี หรือแอ้ม รักษ์เชื้อ พริตตี้แฟนสาวเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยมและวิตถารทั้งตัดหู อวัยวะเพศ พร้อมเขียนชื่อบุคคลบนศพ เหตุเกิดในห้องพักเดอะคิทท์ คอนโดมิเนียม ย่านแจ้งวัฒนะ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อคืนวันที่ 31 ธ.ค.2555 ต่อเนื่องถึง 1 ม.ค. 2556 ก่อนจะหลบหนีไปบวชและพยายามข้ามพรมแดนเข้าประเทศพม่าทางอ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ แต่ทหารประจำด่านตรวจจำหน้าได้จึงจับกุมส่งตำรวจ และพาขึ้นเครื่องบินเข้ากรุงเทพฯ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น



ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 8 ม.ค. พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภาค 1 พร้อมด้วยพล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผบก.ภ.นนทบุรี ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายไพโรจน์ หรือแบงก์ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 4/2556 ลงวันที่ 3 ม.ค.2556 และนายอดิศักดิ์ เครือเอม อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่พยายามพานายไพโรจน์ หลบหนีออกนอกประเทศ



พล.ต.ท.นเรศกล่าวว่า หลังจากนายไพโรจน์ หลบหนีหมายจับตำรวจตามแกะรอยกระทั่งพบเบาะแสว่าไปบวชเป็นสามเณรที่วัดถ้ำเขาชุมดง จ.ราชบุรี โดยมีนายอดิศักดิ์ ซึ่งเป็นเพื่อนของพ่อ และเป็นคนที่นายไพโรจน์โทรศัพท์ไปหาหลังจากก่อเหตุ เป็นคนพาหลบหนี และกำลังนำตัวข้ามพรมแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ทางเจ้าหน้าที่สืบทราบจึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังผาเมืองให้เฝ้าติดตามเณร 2 รูปที่มีท่าทางพิรุธ ระหว่างนั้นชุดจับกุมก็ได้ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อเจ้าหน้าที่ทหารสามารถจับกุม ผู้ต้องหาได้ ทางชุดจับกุมจึงไปรับตัวและนำขึ้นเครื่องกลับมากรุงเทพฯเพื่อสอบปากคำทันที ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ



ผบช.ภาค 1 กล่าวอีกว่า นอกจากคดีฆ่าพริตตี้สาวแล้ว นายไพโรจน์ ยังมีหมายจับอีก 4 คดี ประกอบด้วยหมายจับเลขที่ 833/2552 ข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ ท้องที่ สน.บางขุนเทียน คดีที่ 2 หมายจับเลขที่ 1120/2553 ข้อหาเดียวกับคดีแรก ท้องที่ สน.บางขุนเทียน คดีที่ 3 หมายจับเลขที่ 494/2553 ข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง ท้องที่สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม และหมายจับเลขที่ 1602/2553 ข้อหาเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนเองหรือของผู้อื่นโดยทุจริต ท้องที่สน. พระราชวัง แต่ผู้ต้องหายังรับว่ามีหมายจับทั้งหมด 7 คดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะได้ขยายผลต่อไปว่ามีคดีอะไรอีกบ้าง



ด้านนายไพโรจน์กล่าวว่า รู้จักกับน.ส.อัฉราณี หรือแอ้ม เนื่องจากเคยเปิดร้านเหล้าชื่อ"เหล้าปี่" อยู่ย่านม.ธุรกิจบัณฑิตย์ ส่วนผู้ตายทำงานเป็น พีอาร์อยู่ที่ร้านใกล้ๆ กัน โดยคบหากันมาประมาณ 1 ปี ปกติจะมีปากเสียงกันเป็นประจำ กระทั่งวันเกิดเหตุไปเลี้ยงฉลองปีใหม่กับน้องชายน.ส. อัฉราณี และมีปากเสียงกันอีก เมื่อกลับมาถึงห้องพักเกิดเหตุก็ยังทะเลาะกันไม่หยุด



นายไพโรจน์อ้างว่าแฟนสาวพาดพิงถึงบุพการี ประกอบกับความมึนเมาจนครองสติไม่อยู่ จึงคว้ามีดโกนปาดหน้าผู้ตาย และกรีดไปทั่วร่าง ตัดหู และเฉือนอวัยวะเพศ ก่อนจะยัดใส่เข้าไปในปาก ผู้ตาย ระหว่างที่ทำอยู่นั้นไม่ได้สติ ไม่รู้ว่าลงมือแบบนี้ทำไม คงเพราะความเมา จนเมื่อแฟนสาวเสียชีวิตและตั้งสติได้ จึงโทรศัพท์หานายอดิศักดิ์ เพื่อนของพ่อให้ช่วยเหลือพาหลบหนี ส่วนเรื่องการฆ่าแมว นายไพโรจน์ให้การว่าเคยตกลงกับแฟนสาวว่าหากใครเสียชีวิตก่อนให้ฆ่าแมวตามไปด้วยเพราะรักมาก



"ขอชมตำรวจว่าเก่งมากที่ตามจับผมได้ เพราะผมมีคดีติดตัวตั้งแต่ปี 2552 แต่ไม่เคยถูกจับหลบหนีได้ตลอด ผมซื้อบ้านไว้ที่จ.สระบุรี เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ แต่ไม่เคยไปอยู่ ส่วนการบวชเพราะหลังก่อเหตุฝันถึงแฟนสาวด้วย จึงเกิดความกลัวจึงตัดสินใจบวชเณร ถ้าผมไม่ดื่มเหล้าและสติหลุด ก็คงไม่เป็นแบบนี้ อยากจะบอกครอบครัวแฟนสาวว่า สิ่งที่ทำลงไป ขอชดใช้กรรมและจะแผ่เมตตาไปตลอดชีวิต จะขอโทษก็สายไปแล้ว ชีวิตมันทดแทนกันไม่ได้ จึงต้องยอมรับความจริง" นายไพโรจน์กล่าว



ด้านพล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวว่า หลังจากจับกุมผู้ต้องหาได้ เจ้าหน้าที่ก็สอบปากคำทั้งคืน พบว่า ผู้ต้องหาเคยได้รับเงินสดจำนวน 21 ล้านบาท จากอดีตหนุ่มแบงก์ ผู้ต้องหาคดียักยอกเงินธนาคารกรุงไทย เมื่อปี 2552 โดยผู้ต้องหาที่ถูกจับ มอบเงินสดให้กับนายไพโรจน์ เพราะสนิทสนม และมีความสัมพันธ์กันเป็นพิเศษ เหตุเกิดในพื้นที่ สน.พระราชวัง



รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับการเขียนชื่อบุคคลต่างๆ ลงไปบนศพนั้น นายไพโรจน์ ระบุว่าเขียนไปเพราะความเมา โดยชื่อ"สำเริง สุวรรณพงษ์" ซึ่งตรงกับชื่อนายตำรวจระดับรองผบช.น. นั้น นายไพโรจน์ อ้างว่าเป็นชื่อที่แฟนสาวชอบนำมาอ้างเวลาทะเลาะกันว่าเป็นอา และเป็นนายตำรวจใหญ่ ส่วนชื่อโอบาม่า และเปิ้ล ท่าทราย เป็นเพื่อนสนิทของนายไพโรจน์ ที่เคยเข้าหุ้นเปิดร้านเหล้าด้วยกัน แต่ระยะหลังน.ส.อัฉราณี ไปสนิทสนมทำให้นายไพโรจน์เกิดระแวง ประกอบกับเงินที่ได้มาจากหนุ่มแบงก์ที่สนิทสนมกันเริ่มร่อยหรอ จึงมักจะมีปัญหากับแฟนสาวบ่อยครั้ง



หลังจากแถลงข่าวเสร็จสิ้นตำรวจพานายไพโรจน์ หรือแบงก์ ไปทำแผนประทุษกรรมประกอบคำรับสารภาพยังห้องเกิดเหตุ โดยให้สวมเสื้อเกราะกันกระสุน และมีกำลังหน่วยคอมมานโดคุ้มกันแน่นหนา เพราะมีเพื่อนๆ และญาติของน.ส.อัฉราณี เดินทางมาดูการทำแผนฯ ตลอดเวลาตะโกนด่า และพยายามฮือเข้าประชาทัณฑ์ เจ้าหน้าที่ต้องรีบทำแผนฯ ก่อนพาขึ้นรถนำตัวไปฝากขังเข้าเรือนจำ พร้อมคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ และผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลบหนีด้วย



วันเดียวกันที่วัดสำเภาเชย ต.ปะนาเระ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี นายพิทักษ์ ก่อเกียรติพิทักษ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปัตตานี เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพน.ส.อัฉราณี โดยมีญาติ เพื่อนสนิทมาร่วมงานด้วยความเศร้าสลด นายนิคม รักษ์เชื้อ บิดากล่าวว่า ทราบข่าวที่ตำรวจจับคนร้ายได้แล้ว ความจริงอยากให้นายแบงก์มาขอขมาศพหรือมาขอขมาตน ส่วนเรื่องคดีขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย ทางครอบครัวกำลังปรึกษากับทนายว่าอาจจะฟ้องร้องเพื่อเรียกค่าเสียหายอีกทางหนึ่งด้วยหรือไม่ ไว้หลังจากจัดการงานศพให้เรียบร้อยก่อน



ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกอย่างไรที่จับคนร้ายได้ นายนิคมกล่าวว่า ในแง่คดีรู้สึกดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับคนร้ายได้เร็ว แต่ในส่วนจิตใจไม่ได้โกรธแค้นเพราะเชื่อในสิ่งที่ใครทำดีต้องได้ดี ใครทำชั่วต้องได้ชั่ว เวรกรรมมีอยู่แล้ว ถ้าไปโกรธแค้น ลูกสาวอาจจะไม่สบายใจ อยากให้ทุกคนได้หลุดพ้น

 

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...