เมื่อ 9 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ สภาพบรรยากาศทั่วไปชาวบ้านยังคงประกอบอาชีพกันตามปกติ ขณะที่บ้านเลขที่ 125/1 ม.12 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของนายปรีชา แก้วลา อายุ 34 ปี และเปิดเป็นร้านขายของชำด้วย ปรากฏว่า ภายในบ้านของนายปรีชา ได้มีการจัดสร้างหลุมหลบภัยส่วนตัวไว้ในบ้านด้วย โดยมีการจัดสร้างอย่างแข็งแรงแน่นหนาถาวร เป็นหลุมหลบภัยกว้างประมาณ 3 เมตร ยาวประมาณ 4 เมตร ภายในหลุมหลบภัยมีการรักษาความสะอาดอย่างดีและพร้อมที่จะใช้งานได้ทันทีหากว่าเกิดสงครามขึ้นมาระหว่างไทยกับกัมพูชา และมีการเตรียมอาหารการกินน้ำดื่มสำรองไว้หากมีการปะทะกันระหว่างทหารทั้ง 2 ฝ่าย

 

นายปรีชา กล่าวว่า จากการที่กลุ่มธรรมยาตราและกลุ่มพลังมวลชนจากทั่วประเทศจะพากันมาชุมนุมที่บริเวณบ้านโศกขามป้อม ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งอยู่ติดกับเขตชายแดนไทย - กัมพูชา ในวันที่ 12 – 13 ม.ค. 56 นี้ ตนหวั่นเกรงว่าอาจจะเกิดสงครามขึ้นมาอีกครั้งก็ได้ เนื่องจากว่า ทหารกัมพูชาอาจจะเปิดฉากใช้ปืนใหญ่และจรวด บีเอ็ม 21 ยิงถล่มไทยได้ตลอดเวลา เหมือนกับเหตุการณ์เมื่อช่วงปี 2554 ที่ผ่านมา

 

ซึ่งช่วงนั้นตนและครอบครัวต้องหลบหนีภัยสงครามกันอย่างโกลาหล และในขณะนี้เมื่อมีการเคลื่อนไหวเรื่องเขาพระวิหารขึ้นมาอีก ตนจึงได้ใช้เงินจำนวน 30,000 บาท สร้างหลุมหลบภัยขึ้นมาภายในบ้านเพื่อเตรียมพร้อมที่จะใช้หลบภัยสำหรับตนเองและครอบครัว โดยหลุมหลบภัยที่สร้างขึ้นมากนี้จะใช้วัสดุที่แข็งแรงในการก่อสร้างและตนได้นำเอากระสอบทรายมาตั้งเรียงเอาไว้โดยรอบและบนหลุมหลบภัยเพื่อเสริมความแข็งแรงรอบบริเวณหลุมหลบภัยอีกด้วย เมื่อเกิดสงครามขึ้นมาตนและครอบครัวก็พร้อมที่จะใช้ในการหลบภัยได้ทันที