ผงะพบศพหนุ่มใหญ่-สาวใหญ่ ถูกยิงตายคาม่านรูดพระประแดง

พบศพหนุ่มสาวรุ่นใหญ่ใช้ปืนขนาด .38 ยิงตัวตายคาโรงแรมม่านรูดย่านพระประแดง ตร.เร่งสอบสวน

 เมื่อเวลา 18.20 น.ของวันที่ 8 มกราคม 2556  ร.ต.ท.อำพร  สพานหล้า พนักงานสอบสวน สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์วิทยุปราการว่ามีผู้พบศพผู้เสียชีวิตจำนวน 2 รายอยู่ภายในห้องพักของโรงแรมม่านรูดชื่อ HIP HOTEL ตั้งอยู่เลขที่ หมู่ที่ 1 ซ.สุขสวัสดิ์ 43 ต.บางครุ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งเหตุจึงรายงานให้ พล.ต.ต.ธัชชัย  หงษ์ทอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ทราบแล้วพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุทธิโรจน์ ไกรวชิรสิทธิ์ ผกก.สภ.พระประแดง ,พ.ต.ท.ธเนศ สุขชัย รอง ผกก.(ป) , พ.ต.ท.อุทัย ขันทอง รอง ผกก.(สส) , พ.ต.ท.เจริญ  พลเดช พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ , พญ.ภัทรา ศุกรกาศ แพทย์เวร รพ.บางจากและเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรุดเดินทางไปตรวจสอบอย่างเร่งด่วน

 ในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นห้องพักรั้วรอบของชิดโดยก่อสร้างแบบอาคารชั้นเดียวจัดแบ่งเป็นห้องพักเรียงยาวกันไปที่และบริเวณห้องพักห้องเลขที่ 36 ของโรงแรมจากการตรวจสอบทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพผู้ตายจำนวน 2 ราย 

 โดยศพแรกเป็นชายไทยทราบชื่อว่า นายไพศาล  บุญกลัด อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108 หมู่ที่ 3 ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ประกอบอาชีพส่วนตัวกิจการบ่อเลี้ยงกุ้งที่ ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ สภาพศพนอนหงายบนเตียงสวมเสื้อเชิ๊ตแขนสั้นสีครีมกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 นัดเข้าที่บริเวณหลังใบหูด้านขวาทะลุกะโหลกศีรษะดดยในมือขวาผู้ตายนั้นยังถืออาวุธปืนแบบลูกโม้สีดำ ยี่ห้อสมิทต์แอนด์เวสสัน ซึ่งยังไม่ทราบหมายเลขทะเบียน 

 ส่วนศพที่สองเป็นหญิงไทยทราบชื่อว่า นางสาวอุษา พิมพ์กลาง อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ที่ 2 ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ทำงานเป็นพนักงานแผนกอาหารของห้างสรรพสินค้าบี๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาประชาอุทิศ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร สภาพศพสวมเสื้อเชิ๊ตสีขาวกางเกงขายาวสีดำ มีบาดแผลถูกกระสุนขนาดชนิดเดียวกันยิงเข้าที่บริเวณโหนกแก้มขวาจำนวน 1 นัดและที่บริเวณหน้าอกอีกจำนวน 4 นัด นอนตะแคงเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณประตูทางเข้าของห้องพักดังกล่าว ซึ่งสภาพศพทั้งสองรายเสียชีวิตมาแล้วประมาณเกือบ 1 ชั่วโมงในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นได้มอบศพให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต๊กตึ้งนำส่งสถาบันนิติเวช รพ.ตร เพื่อตรวจพิสูจน์สาเหตุการตายตามขั้นตอนระเบียบต่อไป

 จากการสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนางสาวอุษา ผู้ตาย ซึ่งเป็นภรรยาน้อยได้ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮา รุ่นฟีราโน่สีแดง ทะเบียน อนม 53 กรุงเทพมหานคร ซ้อนนายไฟศาล ผู้ตายมาเปิดห้องพักของโรงแรมม่านรูดดังกล่าว จากนั้นได้ยินปืนดังขึ้นภายในห้องพักดังกล่าวจำนวนหลายนัดทางพนักงานของทางโรงแรมจึงได้แจ้งในทางผู้ดูแลรับผิดชอบรีบเดินทางมาตรวจดูจนพบว่าศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย แล้วแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ 

 เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าผู้ตายทั้งสองรายนั้นมาเช่าเปิดห้องพักเพื่อตกลงเจรจายุติปัญหาชีวิตกัน แต่ไม่สามารถเจรจาพูดคุยกันหรืออาจะเกิดความหึงหวงกันจนมีปากเสียงกันและเกิดความโกธรจึงใช้อาวุธปืนยุติปัญหากันเนื้องจากฝ่ายหญิงมีสามีอยู่แล้วและมักมีปากเสียงกันเป็นประจำ คาดว่าทางฝ่ายชายนั้นลงมือใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงฝ่ายหญิงจนเสียชีวิตไปก่อน จากนั้นจึงได้ใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวจ่อยิงศีรษะฆ่าตัวตายตามหลังกันไป แต่อย่างไรก็ดี ทางตำรวจได้นำเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติมาตรวจสอบในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดและสอบสวนพยานที่ใกล้ชิดผู้ตาย เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไปได้