ชนชาติที่นอนเก่งและแก้ผ้าไวที่สุด

ใคร เห็นข่าวนี้แล้วก็คงต้องอิจฉา แถมด้วยความหมั่นไส้ นั่นคือ ข่าวที่องค์กรแห่งความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ ของสหประชาชาติ ได้สำรวจพบว่า ชาวฝรั่งเศสเป็นชนชาติที่มีความสุขมากที่สุด
 

 
เพราะ พี่แกตะบี้ตะบันนอนอุตุ อยู่บนเตียงนานกว่าชาวโลก ซึ่งส่วนใหญ่จะนอนกันแค่คืนละ 6-7 ชั่วโมง แต่ชาวฝรั่งเศสนอนถึงคืนละเกือบ 9 ชั่วโมง มากกว่าชาวเกาหลี, อเมริกัน และสเปนถึงกว่า 1 ชั่วโมง สมัยหนึ่งชาวฝรั่งเศสยังนอนกลางวันแถมเข้าไปด้วยอีกชั่วโมงสองชั่วโมง (วัฒนธรรมนี้เคยพยายามเผยแพร่ในกลุ่มประเทศอินโดจีนมาแล้ว เช่น ลาว เขมร และเวียดนาม)

และนาน ยิ่งกว่าชาวญี่ปุ่นซึ่งใช้ เวลาในการทำงานและเดินทางไป-กลับระหว่างบ้านกับที่ทำงานมากกว่าชาติใดๆ ความจริงที่ยังตกสำรวจมีอยู่ว่า ผู้ชายญี่ปุ่นส่วนใหญ่นั้นกว่าจะกลับถึงบ้านได้ก็แวะเมาแประอยู่ตามร้านอา หารและสแน็ก บาร์จนดึกดื่น ทำให้เวลานอนยิ่งน้อยกว่าหลายชนชาติในโลก

นอก จากนี้ยังพบว่า ชาวฝรั่งเศสยังทำตัวได้น่าอิจฉายิ่งไปกว่านั้น ก็คือ พวกเขายังใช้เวลาจิบไวน์และละเลียดกับบรรดาอาหารชั้นเลิศนานกว่าคนอเมริกัน อังกฤษ และเม็กซิกันเกือบเท่าตัว

ลึก ไปกว่านั้น มีผลสำรวจจากองค์กรอื่นๆ อีกว่า คนฝรั่งเศสโดยเฉลี่ยนอกจากจะเน้นเรื่องเครื่องดื่มและอาหารการกินที่มีแต่นม เนย และหลายอย่างก็เต็มไปด้วยคอเลสเตอรอล แต่ไม่ยักมีสถิติเป็นโรคหัวใจและโรคอื่นๆ ที่สำคัญไม่อ้วนจ้ำม่ำเหมือนชนชาติอื่นๆ โดยเฉพาะอเมริกันที่กำลังมีปัญหาโรคอ้วนขนาดหนัก อยู่ในขณะนี้

ผู้หญิง กับความอ้วนเป็นสิ่งที่ ‘รับไม่ได้’ อย่างเด็ดขาด แต่ผู้หญิงฝรั่งเศสกลับได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงที่สามารถกำราบปราบปรามความ อ้วนได้อย่างชะงัดเหนือกว่าผู้หญิงหลายประเทศในยุโรป

มิ เรลล์ จูลิอาโน สาวใหญ่ชาวฝรั่งเศสเขียนหนังสือเอาไว้เล่มหนึ่งชื่อ French Women Don’t Get Fat เธอบอกว่า ชายและหญิงฝรั่งเศสกินอาหารด้วยความสุข โดยทุ่มเทความสนใจในการกินอาหารอย่างเต็มที่ เคี้ยวแต่ละคำอย่างช้าๆ ซึ่งไม่ได้ช้าเพราะเพียงแค่เป็นมารยาทเท่านั้น

ส่วน สาวมะกันกระดกน้ำอัดลม ชากาแฟ น้ำผลไม้บรรจุขวด แต่ดื่มน้ำเปล่าน้อยมาก ส่วนสาวฝรั่งเศสดื่มน้ำเปล่าวันละเป็นลิตรๆ และดื่มน้ำที่มีกาเฟอีนอย่างสาวมะกันน้อยมาก

หนังสือ ประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสยอมรับ ว่า การดื่มกินเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของฝรั่งเศส ไวน์จึงเป็นรากฐานอย่างหนึ่งของฝรั่งเศส จนมีคำกล่าวของนักปรัชญาที่ว่า

“ถ้า บนโลกนี้ไม่มีไวน์ ร่างกายและจิตใจของมนุษย์ย่อมว่างเปล่า ความว่างเปล่านี้สามารถทำลายคนเราได้ยิ่งกว่าการดื่มไวน์จะทำได้เสียอีก ไม่ผิดใช่ไหมหากจะบอกว่าคนที่ไม่ดื่มไวน์ทั้งที่จงใจและไม่จงใจนั้น ถ้าไม่โง่ก็เป็นที่ไม่จริงใจ คนที่ดื่มแต่น้ำเปล่าคือคนที่ต้องการจะซ่อนเร้นอะไรบางสิ่งบางอย่างไว้”

สิ่ง ที่ทำให้ ‘อังเคิลอลิศ’ ถึงกับขอบตา ร้อนผ่าวก็คือ การสำรวจอีกชิ้นหนึ่งที่บอกว่า เซ็กซ์ของคนฝรั่งเศสเป็นเซ็กซ์ที่มีคุณภาพมากที่สุด ทำได้บ่อยและมีประสิทธิภาพกว่าทุกชาติพันธุ์บนโลก (เรื่องนี้ผมพยายามจะไม่เชื่อสถิติใดๆ)

เขา ว่ากันว่า คนฝรั่งเศสไม่เคยรีบร้อน เรื่องเซ็กซ์ พวกเขาถือว่า นี่คือความรื่นรมย์ที่ละเมียดละไมประการหนึ่งซึ่งขาดไม่ได้ของมนุษย์ เท่าๆ กับที่ฝรั่งเศสละเลียดไวน์และอาหารที่เคี้ยวเอื้องแต่ละคำอย่างช้าๆ ทุกขณะเต็มไปด้วยรสชาติ ถือเป็นงานศิลปะประจำวัน (หรือวันเว้นวัน สัปดาห์เว้นสัปดาห์ แล้วแต่วัย) อันงดงามอีกชิ้นหนึ่ง

ประวัติ ศาสตร์ยังบอกเอาไว้อีกว่า ด้วยเหตุนี้คนฝรั่งเศสจึงแก้ผ้าไวมาก แฟชั่นชั้นยอดของโลกจึงเกิดขึ้น เหมือนที่ดีไซเนอร์ชื่อดังชาวฝรั่งเศส-จัง ลองแวงที่เคยพูดไว้ว่า “มีแต่ประเทศที่คนถอดเสื้อผ้าบ่อยที่สุดเท่านั้น จึงจะมีคนแต่งกาย ดีที่สุด”

แต่ นี่ไม่ได้หมายความว่า คนแก้ผ้าไวจะเป็นคนแต่งตัวดีที่สุดเสมอไปหรอกนะ เพราะคนคนนั้นอาจจะแต่งตัวไม่ได้เรื่อง แต่เผอิญแก้ผ้าแล้วจะดูดีมาก !

25 ก.ค. 52 เวลา 14:21 5,912 20 106
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...