'ลงขัน'ล่าโรคจิต'ข่มขืน-ฆ่า'4หญิงสูงวัย

 

ฆาตกรโรคจิต ก่อเหตุข่มขืนหญิงสูงวัยหลายราย จนเป็นที่หวาดผวาของชาวบ้านใน อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม และพื้นที่ใกล้เคียงเป็นอย่างมาก โดยพฤติกรรมของคนร้ายจะเลือกเหยื่อที่เป็นผู้หญิงสูงวัยอาศัยอยู่เพียงลำพังในบ้านกลางสวน หรือพบเจอเดินผ่าน บริเวณพื้นที่เปลี่ยว ฆาตกรโรคจิตก็จะลงมือทันที!

              ในช่วงปี 2555 มีหญิงสูงวัยตกเป็นเหยื่อแล้ว 4 ราย ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2555 คนร้ายก่อเหตุข่มขืนและฆ่าหญิงสูงวัย 61 ปี ซึ่งพักอาศัยอยู่ในบ้านพักกลางสวนมะพร้าวเพียงลำพัง คดีที่สองเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2555 คนร้ายก่อเหตุข่มขืนหญิงชราวัย 70 ปี ขณะออกไปดูแลสวนผลไม้ ซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุคดีแรกไม่มากนัก คดีที่สามเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2555 คนร้ายก่อเหตุข่มขืนหญิงสูงวัยอายุ 59 ปี และคดีสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2555 คนร้ายก่อเหตุทำร้ายร่างกายแล้วชิงทรัพย์หญิงสูงวัยอายุ 47 ปี

              พฤติกรรมต่อเนื่องของคนร้าย นับเป็นภัยสังคมที่ชาวบ้านกำลังหวาดผวา ตำรวจหลายหน่วยงาน ต้องระดมไล่ล่าฆาตกรโรคจิตรายนี้ โดยนำหลักเหยื่อวิทยาและหลักพฤติกรรมศาสตร์มาช่วยแกะรอย พร้อมกันนี้ นายรุจประทีป ธรรมรพีภัทร นายอำเภอบางคนที และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ร่วมกันลงขัน ตั้งรางวัลนำจับ 1 แสนบาท เพื่อให้ประชาชนชี้เบาะแสคนร้ายที่มีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศหญิงสูงวัยที่ก่อเหตุในครั้งนี้

              การให้เงินรางวัลนำจับคนร้ายทำให้มีผู้แจ้งเบาะแสมายัง พ.ต.อ.ประพาส อินตา ผกก.สภ.บางคนที และชุดสืบสวนจำนวนมาก ซึ่งชุดสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบข้อมูลแล้วขอความร่วมมือผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนแล้วขอเก็บเนื้อเยื่อบริเวณกระพุ้งแก้มเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของคนร้าย ซึ่งการสืบสวนสอบสวนติดตามคนร้าย พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผช.ผบ.ตร.ยืนยันว่า ผลตรวจดีเอ็นเอของคนร้ายที่ก่อเหตุทั้ง 4 คดีเป็นบุคคลเดียวกัน

              "สามคดีแรกพฤติกรรมคนร้ายที่ก่อเหตุ พบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าเป็นคนเดียวกัน จนกระทั่งคดีสุดท้าย เหยื่อซึ่งเป็นหญิงสาวสูงวัย คนร้ายที่ก่อเหตุพยายามชิงทรัพย์ด้วย ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่แปลกกว่าสามคดีแรก แต่คดีสุดท้ายคนร้ายกระโดดเหยียบกระจกแตกแล้วได้รับบาดเจ็บ ผลการตรวจดีเอ็นเอจากเลือดที่ติดอยู่บริเวณผ้าม่าน ตรงกับดีเอ็นเอของคนร้ายในสามคดีแรก สรุปก็คือเป็นคนร้ายคนเดียวกัน" พ.ต.อ.ประพาส กล่าว

              อย่างไรก็ตาม หลังเกิดคดีสะเทือนขวัญ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป.สั่งการให้ พ.ต.อ.วัชรพล ทองล้วน ผกก.5 บก.ป. พร้อมชุดสืบสวน กก.5 บก.ป. ลงพื้นที่ช่วยการแกะรอยจับคนร้ายที่มีพฤติกรรมต่อเนื่อง โดยใช้หลักเหยื่อวิทยา และหลักพฤติกรรมศาสตร์ เข้ามาช่วยในการคลี่คลายคดีอีกแรงหนึ่งด้วย

              "ผู้บังคับการกองปราบปรามมีความห่วงใยประชาชน จึงให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ร่วมคลี่คลายคดีที่เกิดขึ้น โดยชุดสืบสวนนำหลักเหยื่อวิทยา คือการเข้าพูดคุยกับผู้เสียหายที่ยังมีชีวิต และนำสำนวนการสอบสวนคดีฆาตกรรม เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ว่า คนร้ายชอบเหยื่อลักษณะแบบไหน เพราะเหตุใดถึงเลือกเหยื่อที่เป็นหญิงชราและหญิงสูงวัย นอกจากนี้ นำหลักพฤติกรรมศาสตร์ของคนร้ายมาวิเคราะห์ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของการก่อเหตุ รวมถึงพฤติกรรมอื่นๆ ที่ต้องหาข้อมูลลึกลงไปมากกว่าแผนประทุษกรรมของคนร้ายโดยทั่วไป" แหล่งข่าวในชุดสืบสวนของ กก.5 บก.ป. กล่าว

              นอกจากนี้ การสืบสวนสอบสวนของชุดสืบสวนในพื้นที่ คาดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุทั้ง 4 คดี น่าจะเป็นคนในพื้นที่ หรืออาจจะอยู่ในละแวกใกล้เคียง ซึ่งพฤติกรรมการก่อเหตุของคนร้ายค่อนข้างชัดเจนว่าเลือกเวลาในการก่อเหตุช่วงระหว่างหลังเที่ยงคืนไปแล้ว

              "การตั้งข้อสังเกตในคดีเกี่ยวกับคนร้าย คาดว่าเป็นคนร้ายในพื้นที่ หรืออาจอยู่ใกล้เคียง เพราะจุดเกิดเหตุแต่ละที่ค่อนข้างอยู่ห่างกัน อีกทั้งคนร้ายน่าจะรู้ความเคลื่อนไหวของเหยื่อแต่ละรายพอสมควร โดยรู้ว่าเหยื่อรายไหนพักอาศัยอยู่เพียงลำพัง อีกทั้งคาดว่า การที่เลือกเหยื่อเป็นหญิงชรา เพราะคิดว่าจำหน้าผู้ก่อเหตุไม่ได้ ไม่เอะอะโวยวายหรือต่อสู้ ยกเว้นเหยื่อรายแรกที่ต่อสู้จนกระทั่งถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต โดยผลการชันสูตรของแพทย์ลงความเห็นว่า กระดูกซี่โครงหัก ตับแตก ม้ามแตก และเหยื่อรายสุดท้ายพยายามต่อสู้เช่นกัน" แหล่งข่าวในชุดสืบสวนของ สภ.บางคนที กล่าว

              ด้าน น.ส.เรณู เล็กนิมิตร นายก อบต.บางคนที กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นรู้สึกตกใจ เพราะอยู่ในพื้นที่เกือบ 50 ปี ไม่เคยเจอเรื่องร้ายแรงแบบนี้ ซึ่งในพื้นที่รับผิดชอบเกิดเหตุกับผู้เสียหายคนเดียว ซึ่งคนร้ายที่ก่อเหตุไม่ได้พยายามล่วงละเมิดทางเพศหรือล่วงละเมิดทางเพศ คนร้ายเพียงต้องการทรัพย์สินเท่านั้น

              "ส่วนเหตุที่เกิดสามคดีแรกเกิดในพื้นที่ ต.บางยี่รงค์ แต่เหตุสุดท้ายเกิดในพื้นที่ ต.บางคนที หลังเกิดเหตุทางตำรวจก็กวดขันหาทางป้องกันอย่างเต็มที่แล้ว พยายามติดตามจับคนร้ายที่ก่อเหตุ โดยตำรวจยืนยันว่า คนร้ายเป็นคนเดียวกัน ตอนนี้ทราบว่าตำรวจหลายหน่วยงานเข้ามาร่วมกันคลี่คลายคดีที่เกิดขึ้น โดยเชิญผู้ต้องสงสัยหลายคนในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงไปสอบสวนเก็บพยานหลักฐาน แต่ตอนนี้เชื่อว่าคนร้ายอาจไม่ได้อยู่ในพื้นที่แล้ว" น.ส.เรณู กล่าว

 

ที่มา : คมชัดลึก

Credit: http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=23889&page=1
8 ม.ค. 56 เวลา 15:43 2,982 30
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...