วันเด็กแห่งชาติ (เสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคม)

 

 

 

 

วันเด็กแห่งชาติ (เสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคม)

 

 

จากคำกล่าวที่ว่า อนาคตของประเทศชาติ จะเป็นอย่างไรต่อไป ส่วนหนึ่งต้องขึ้นอยู่กับ คุณภาพชีวิตของเด็กในประเทศนั้น ๆ ว่าเป็นอย่างไร ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องให้ การพิทักษ์รักษาคุ้มครองทางด้านกฎหมาย ตลอดจนให้ความสำคัญแก่เด็ก ๆ เพราะถือว่า เด็กคิอมนุษย์ที่ยังอ่อนอยู่ทั้งทางร่างกายและจิตใจ

ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2525 ได้ให้ความหมาย ของคำว่า “เด็ก” ไว้ดังนี้

เด็ก หมายถึง คนที่มีอายุยังน้อย ยังเล็ก
เด็กชาย คือ คำนำเรียกเด็กผู้ชายที่มีอายุไม่เกิน ๑๔ ปีบริบูรณ์
เด็กหญิง คือ คำนำเรียกเด็กผู้หญิงที่มีอายุไม่เกิน ๑๔ ปีบริบูรณ์

ความเป็นมาของวันเด็กสากล

เมื่อปีพุทธศักราช 2498 ได้เกิดปฏิญญาว่าด้วยสิทธิเด็กขึ้น โดยองค์การสหประชาชาติทำให้ทั่วโลกเกิดความตื่นตัว และเห็นพ้องต้องกันว่าควรจะให้ความสำคัญแก่เด็ก ๆ ของตนมากขึ้น การขานรับในการนี้จากประเทศต่าง ๆ เป็นไปอย่างกว้างขวาง ในปีเดียวกันนั้นเอง ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกไม่น้อยกว่า 40 ประเทศต่างก็จัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติของประเทศตนขึ้นมา โดยกำหนดกันว่าจะถือเอาวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมของทุกปี เป็นวันเด็กแห่งชาติ

การจัดงานเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติในแต่ละประเทศขณะนั้นมีรูปแบบที่คล้ายคลึงกันเป็นส่วนใหญ่ โดยยึดหลักการให้ความสำคัญแก่เด็กเป็นวัตถุประสงค์หลักโดยเปิดสถานที่ราชการที่สำคัญเช่น พิพิธภัณฑ์ รัฐสภา เป็นต้น ให้เด็ก ๆ ได้เข้าชมและศึกษา บางแห่งจัดการแสดงมหรสพ มีการแจกอาหาร แข่งขันเกม แจกของขวัญ ฯลฯ ต่อมางานนี้ได้รับความสำคัญทั่วโลกจึงได้จัดกันแพร่หลายมาถึงปัจจุบัน

การจัดงานวันเด็กในประเทศไทย

ปีพุทธศักราช 2498 อันเป็นปีที่ทั่วโลกเริ่มจัดงานเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติกันขึ้นตามความเห็นคล้อยตามกับองค์การสหประชาชาติที่นำปัญหาเรื่องเด็กมาร่างเป็นปฏิญญาว่าด้วยสิทธิของเด็กขึ้นมา

ประเทศไทยได้รับข้อเสนอของนาย วี เอ็ม กุลกานี ผู้แทนองค์กรสมาพันธ์เพื่อสวัสดิภาพเด็กระหว่างประเทศ ผ่านมาทางกรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงมหาดไทยว่า ประเทศไทยควรจัดงานเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเห็นความสำคัญของเด็กให้มากขึ้น ดังที่นานาประเทศกำลังทำอยู่

ขณะนั้นสภาวัฒนธรรมแห่งชาติยังมิได้ถูกยุบเลิกไปแล้ว คณะกรรมการสภาวัฒนธรรมแห่งชาติจึงนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมเพื่อพิจารณา ในที่สุดที่ประชุมได้เห็นชอบ นำเรื่องเสนอต่อคณะรัฐมนตรีในขณะนั้น ต่อมาเมื่อวันที่ 27 กรกฏาคม พ.ศ.2498 ได้มีมติคณะรัฐมนตรีรับหลักการให้จัดงานวันเด็กแห่งชาติขึ้น โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงศึกษาธิการรับไปดำเนินการ ส่วนของค่าใช้จ่ายในการจัดงานั้น ได้อนุมัติเงินจากกองสลากกินแบ่งรัฐบาลมาดำเนินการ

ดังนั้นในวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ.2498 ประเทศไทยจึงมีงานเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก จากนั้นเป็นต้นมาทางราชการได้กำหนดวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมของทุกปีเป็นวันเด็กแห่งชาติสำหรับประเทศไทย และจัดติดต่อกันมาจนถึงปี พ.ศ.2506 ที่ประชุมคณะกรรมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติในปีนั้นมีความเห็นพ้องต้องกันว่าสมควรที่จะเสนอเปลี่ยนวันจัดงานวันเด็กแห่งชาติเสียใหม่เพื่อความเหมาะสมด้วยเหตุผลว่า ในเดือนตุลาคมสำหรับประเทศไทยเราเป็นเดือนที่ยังอยู่ในฤดูฝน มีฝนตกมาก เด็ก ๆ ไม่สะดวกในการมาร่วมงาน ประการต่อไปก็คือ วันจันทร์เป็นวันปฎิบัติงานของผู้ปกครองจึงไม่สามารถพาเด็กของตนไปร่วมงานได้ ตลอดจนการจราจรก็ติดขัด จึงเห็นว่าควรจะเปลี่ยนไปเป็นวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมเสียทุกสิ่งทุกอย่างได้สะดวกสบายขึ้น และมีความเหมาะสมมากกว่า

จากข้อเสนอดังกล่าว คณะรัฐมนตรีในขณะนั้นมีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการจัดงานวัดเด็กแห่งชาติเสนอมา ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2507 จึงประกาศเปลี่ยนงานฉลองวันเด็กแห่งชาติจากวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคม มาเป็นวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นมา ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้ปี พ.ศ.2507 ไม่มีงานวันเด็กแห่งชาติด้วยการประกาศเปลี่ยนได้เลยวันมาแล้ว

งานวันเด็กแห่งชาติได้เริ่มจัดขึ้นมาใหม่อีกครั้งในปี พ.ศ.2508 และจัดเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน นับเป็นเวลาได้ 38 ปีแล้ว (งดจัดในปี พ.ศ.2507 หนึ่งปี)

วัตถุประสงค์ของการจัดงาน วันเด็กแห่งชาติ

เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของเด็ก สนใจในการเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนเด็ก และช่วยเหลือสงเคราะห์เด็กเป็นพิเศษ
เพื่อให้เด็กและและเยาวชนยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
เพื่อให้เด็กรู้จักหน้าที่ของตน และอยู่ในระเบียบวินัยอันดี
เพื่อเผยแพร่ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิของเด็ก

ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิเด็กและเยาวชน ขององค์การสหประชาชาติ วันเด็กแห่งชาติ

ข้อ 1. เด็กและเยาวชนพึงได้รับสิทธิเท่าเทียมกันโดยปราศจากการแบ่งแยกหรือกีดกัน ไม่ว่าโดยวิธีใด ๆ ในเรื่อง เชื้อชาติ ผิว เพศ ภาษา ศาสนา ความคิดเห็นทางการเมือง เผ่าพันธุ์แห่งชาติหรือสังคมทรัพย์สิน กำเนิด หรือสถานะอื่น ๆ ไม่ว่าจะของเด็กหรือของครอบครัวก็ตาม

ข้อ 2. เด็กและเยาวชนพึงได้รับการพิทักษ์คุ้มครองเป็นพิเศษอันจะช่วยให้เด็กสามารถพัฒนาทั้งทางกาย ทางสมอง และจิตใจเพื่อให้ร่วมอยู่ในสังคมได้อย่างปกติชน

ข้อ 3. เด็กและเยาวชนมีสิทธิที่จะได้มีชื่อ และมีสัญชาติ แต่กำเนิด

ข้อ 4. เด็กและเยาวชนพึงได้รับความมั่นคงทางสังคม และเติบโตอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นทั้งแม่และเด็กควรได้รับการดูแลและคุ้มครองเป็นพิเศษ ทั้งเมื่ออยู่ในครรภ์ และภายหลังเมื่อคลอดแล้วโดยได้รับสิทธิในเรื่องที่อยู่อาศัย ได้รับอาหาร ได้รับการดูแลทางแพทย์ และโดยเฉพาะเด็ก ๆ ให้ได้รับการเล่นรื่นเริงเพลิดเพลินด้วย

ข้อ 5. เด็กและเยาวชนที่พิการทั้งทางร่างกาย สมอง และจิตใจ มีสิทธิที่จะได้รับการรักษาพิเศษ หมายถึงการดูแลรักษาและการศึกษาที่เหมาะสมกับสภาวะของเด็กโดยเฉพาะ

ข้อ 6. เด็กและเยาวชนพึงได้รับความรัก และความเข้าใจอันจะช่วยพัฒนาบุคลิกของตน โดยเติบโตอยู่ในความรับผิดชอบของบิดา มารดาของเด็กเอง และในทุกกรณีเด็กจะต้องอยู่ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความรักความอบอุ่นปลอดภัย และไม่พลัดพรากจากพ่อแม่ในกรณีที่เด็กไม่มีครอบคร้ว หรือมาจากครอบครัวที่ยากจน และมีลูกมากก็จะได้รับความช่วยเหลือเป็นพิเศษ จากรัฐหรือองค์การต่าง ๆ

ข้อ 7. เด็กและเยาวชนมีสิทธิที่จะได้รับการศึกษาซึ่งครูควรจะจัดให้เปล่าอย่างน้อยในชั้นประถมศึกษา เพื่อเป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมโดยทั่ว ๆ ไป และให้เด็กเติบโตเป็นสมาชิกผู้ยังประโยชน์ต่อสังคมคนหนึ่ง การศึกษานี้คลุมไปถึงการแนะแนวทางชีวิต ซึ่งมีบิดามารดาเป็นผู้รับผิดชอบก่อนบุคคลอื่น ๆ เด็กจะต้องมีโอกาสได้รับควาาามสนุกสนานเพลิดเพลิน จากการเล่นและรื่นเริงพร้อมกันไปด้วย

ข้อ 8. เด็กและเยาวชนจะเป็นบุคคลแรกที่ได้รับการคุ้มครองและสงเคราะห์ในทุกกรณี

ข้อ 9. เด็กและเยาวชนพึงได้รับการปกป้องให้พ้นจากการถูกทอดทิ้ง จากความโหดร้ายทารุณ และการถูกข่มเหง รังแกทุกชนิด เด็กจะต้องไม่กลายเป็นสินค้า ไม่ว่าในรูปใดจะต้องไม่มีการรับเด็กเข้าทำงานก่อนวัยอันสมควร ไม่มีการกระทำใด ๆ อันจะมีชักจูงหรืออนุญาติเด็กให้จำต้องรับจ้างทำงาน ซึ่งอาาจะเป็นผลร้ายต่อสุขภาพของเด็ก หรือเป็นเหตุให้การพัฒนาทางกายทางสมองและทางจิตใจของเด็กต้องเสื่อมลง

ข้อ 10. เด็กและเยาวชนพึงได้รับการคุ้มครองให้พ้นจากการกระทำที่แสดงถึงการกีดกัน แบ่งแยกไม่ว่าทางเชื้อชาติ ศาสนาหรือรูปใด ๆ เด็กจะต้องได้รับการเลี้ยงดูให้เติบโตขึ้นมา ” ในภาวะแห่งจิตที่เต็มไปด้วยความเข้าอกเข้าใจ และมีการหย่อนหนักหย่อนเบามิตรภาพระหว่างชนชาติต่าง ๆ สันติภาพ และภาพสากล และด้วยการสำนึกเต็มที่ว่าพลกำลังและความสารถพิเศษในตัวเขา ควรจะอุทิศเพื่อรับใช้เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน”

คำขวัญ วันเด็กแห่งชาติ พ.ศ.2499 – 2556

ในปี พ.ศ. 2502 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เห็นคุณค่าความสำคัญ ของเด็ก จึงมอบคำขวัญให้เป็นข้อคิด สำหรับเด็ก นายกรัฐมนตรี ในสมัยต่อๆมา จึงได้ถือปฎิบัติสืบต่อมาดังต่อไปนี้

คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ. 2499
จงบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและส่วนรวม
โดย จอมพล ป.พิบูลสงคราม
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2502
ขอให้เด็กสมัยปฎิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความก้าวหน้า
โดย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2503
ขอให้เด็กสมัยปฎิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความสะอาด
โดย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2504
ขอให้เด็กสมัยปฎิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่อยู่ในระเบียบวินัย
โดย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2505
ขอให้เด็กสมัยปฎิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่ประหยัด
โดย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2506
ขอให้เด็กสมัยปฎิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่มีความขยันหมั่นเพียร
โดย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2507
– งดจัดงานวันเด็ก –
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2508
เด็กจะเจริญต้องรักเรียนและเพียรทำดี
โดย จอมพลถนอม กิตติขจร
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2509
เด็กที่ดีต้องมีสัมมาคารวะ มานะบากบั่น และสมานสามัคคี
โดย จอมพลถนอม กิตติขจร
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2510
อนาคตของชาติจะสุกใส หากเด็กไทยแข็งแรง เรียนดี และ มีความประพฤติเรียบร้อย
โดย จอมพลถนอม กิตติขจร
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ. 2511
ความเจริญและความมั่นคงของไทยในอนาคต ขึ้นอยุ่กับเด็กที่มีวินัย เฉลียวฉลาด และรักชาติยิ่ง
โดย จอมพลถนอม กิตติขจร
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2512
รู้เรียน รู้เล่น รู้สามัคคี เป็นความดีที่เด็กพึงจำ
โดย จอมพลถนอม กิตติขจร
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2513
เด็กประพฤติดีและศึกษาดีทำให้มีอนาคตแจ่มใส
โดย จอมพลถนอม กิตติขจร
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ. 2514
ยามเด็กจงหมั่นเรียน เพียรกระทำดี เติบใหญ่จะได้มีความสุขความเจริญ
โดย จอมพลถนอม กิตติขจร
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2515
เยาวชนฝึกตนดี มีความสามารถ
โดย จอมพลถนอม กิตติขจร
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2516
เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ
โดย จอมพลถนอม กิตติขจร
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2517
สามัคคี คือ พลัง
โดย นายสัญญา ธรรมศักดิ์
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2518
เด็กคือทายาทของชาติไทย ต้องร่วมใจร่วมพลังสร้างความดี
โดย นายสัญญา ธรรมศักดิ์
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2519
เด็กที่ต้องการเห็นอนาคตของชาติรุ่งเรือง จะต้องทำตัวให้ดี
โดย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2520
รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็น คุณสมบัติของเยาวชนไทย
โดย นายธานินทร์ กรัยวิเชียร
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2521
เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติมั่นคง
โดย พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2522
เด็กไทยคือหัวใจของชาติ
โดย พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2523
อดทน ขยัน ประหยัด เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย
โดย พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2524
เด็กไทยมีวินัย ใจซื่อสัตย์ รู้ประหยัด เคร่งครัดคุณธรรม
โดย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2525
ขยัน ศึกษา ใฝ่หาความรู้ เชิดชูชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย
โดย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2526
รู้หน้าที่ ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด มีวินัย และคุณธรรม
โดย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2527
รักวัฒนธรรมไทย ใฝ่ดี มีความคิด สุจริต ใจมั่น หมั่นศึกษา
โดย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ. 2528
สามัคคี มีวินัย ใฝ่คุณธรรม
โดย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2529
นิยมไทย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม
โดย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2530
นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม
โดย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2531
นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม
โดย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2532
รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม
โดย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2533
รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม
โดย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2534
รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่คุณธรรม นำชาติพัฒนา
โดย นายอานันท์ ปันยารชุน
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2535
สามัคคี มี วินัย ใฝ่ศึกษา จรรยางาม
โดย นายอานันท์ ปันยารชุน
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2536
ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม
โดย นายชวน หลีกภัย
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2537
ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม
โดย นายชวน หลีกภัย
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2538
สืบสานวัฒนธรรมไทย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม
โดย นายชวน หลีกภัย
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2539
มุ่งหาความรู้ เชิดชูความเป็นไทย หลีกไกลยาเสพติด
โดย นายบรรหาร ศิลปอาชา
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2540
รู้คุณค่าวัฒนธรรมไทย ตั้งใจใฝ่ศึกษา ไม่พึ่งพายาเสพติด
โดย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2541
ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย
โดย นายชวน หลีกภัย
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2542
ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย
โดย นายชวน หลีกภัย
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2543
มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย
โดย นายชวน หลีกภัย
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2544
มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย
โดย นายชวน หลีกภัย
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2545
เรียนให้สนุก เล่นให้มีความรู้ สู่อนาคต ที่สดใส
โดย พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2546
เรียนรู้ตลอดชีวิต คิดอย่างสร้างสรรค์ ก้าวทันเทคโนโลยี
โดย พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2547
รักชาติ รักพ่อแม่ รักเรียน รักสิ่งดี ๆ อนาคตดีแน่นอน
โดย พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2548
เด็กรุ่นใหม่ต้องขยันอ่าน ขยันเรียน กล้าคิด กล้าพูด
พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2549
อยากฉลาด ต้องขยันอ่าน ขยันคิด
โดย พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2550
มีคุณธรรมนำใจ ใช้ชีวิตพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข
โดย พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ. 2551
สามัคคี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เชิดชูคุณธรรม
โดย พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ. 2552
“ฉลาดคิด จิตบริสุทธิ์ จุดประกายฝัน ผูกพันรักสามัคคี”
โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ. 2553
“คิดสร้างสรรค์ ขยันใฝ่รู้ เชิดชูคุณธรรม”
โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ. 2554
“รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ”
โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ. 2555
“สามัคคี มีความรู้คู่ปัญญา คงรักษาความเป็นไทย ใส่ใจเทคโนโลยี”
โดย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ. 2556
“รักษาวินัย ใฝ่เรียนรู้ เพิ่มพูนปัญญา นำพาไทยสู่อาเซียน”
โดย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
Credit: http://www.tlcthai.com/education/history-of-thailand/4403.html
6 ม.ค. 56 เวลา 14:58 1,831
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...