สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลอิตาลีได้สั่งระงับการจ่ายเงินจากการเบิกเงินธนาคารในนครรัฐวาติกันแล้ว เพื่อเป็นมาตรการลงโทษรัฐวาติกันที่ล้มเหลวในการให้ความร่วมมือเพื่อบรรลุการแก้ปัญหาการฟอกเงินของสหภาพยุโรป ขณะที่โฆษกวาติกันเผยว่าขณะนี้วาติกันได้ติดต่อเจรจากับสหภาพยุโรปอยู่ และเรียกร้องให้มาตรการดังกล่าวเป็นไปเพียงระยะสั้น ขณะที่สมเด็จพระสันตปาปา เบเนดิกส์ ที่ 16 ได้สัญญาว่า วาติกัน จะดำเนินการบริหารการเงินและการธนาคารอย่างโปร่งใส หลังจากที่ผ่านมา สถาบันด้านการทำงานเพื่อศาสนา หรือไอโออาร์ ถูกระบุว่าพัวพันกับพฤติกรรมการฟอกเงินที่ใหญ่โต
รายงานระบุว่า ที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า วาติกันสามารถสร้างความคืบหน้าในการปฎิรูปกฎหมายเพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของมาตรฐานอียูแต่วาติกันยังต้องแก้ปัญหาอีกมากขณะที่ความล้มเหลวที่จะแก้ปัญหานี้ จะส่งผลให้ธนาคารกลางอิตาลี ต้องสั่งให้ธนาคาร"ดอยช์ แบงก์ อิตาเลีย"ที่กำกับดูแลการทำธุรกรรมทุกประเภทของนครวาติกัน งดจ่ายเงินใด ๆ ให้แก่ผู้เบิกเงินในรัฐวาติกัน
ขณะที่มาตรการจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวยังรัฐแห่งนี้จะต้องจ่ายเงินสดสถานเดียว ในการซื้อของหรือใช้บริการใด ๆ ในการท่องเที่ยวรัฐนี้ ซึ่งอาจเป็นผลกระทบใหญ่ เพราะที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวกว่า 5 ล้านคนมาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์วาติกันเมื่อปีที่แล้ว และใช้เงินกว่า 50 ล้านยูโร ในการซื้อตั๋วชม และของที่ระลึกต่าง ๆ และมาตรการนี้จะยังทำให้นักท่องเที่ยวต้องจ่ายเงินสดอย่างเดียว รวมทั้งการบริจาคสิ่งของต่าง ๆ ให้แก่นครวาติกันในช่วงเทศกาลสันตปาปาออกมาพบปะประชาชนด้วย