"บิ๊กกสทช."เผยสถานี หวั่นเนื้อหาขัด"ม.37" ไม่พบว่ารัฐแทรกแซง ฉัตรชัยโพสต์ขอบคุณ
"แม้ว-ปู" เป็นงงโดนลากไปพัวพันประเด็นช่อง 3 สั่งถอดละครเหนือเมฆ2"วราเทพ" รมต.ประจำสำนักนายก ย้ำอีกรัฐไม่เคยแทรกอซงให้ยุติการแพร่ภาพอีกทั้งดูเนื้อหาก็ไม่ได้กระทบกับรัฐบาลโฆากเพื่อไทยโต้ลือ "ทักษิณ"อยู่เบื้องหลังด้าน"พีระพงษ์ มานะกิจ" กรรมการกสทช.เผยช่อง 3 แจ้งมาเองว่าพิจารณาแล้วละครเหนือเมฆ2 มีเนื้อหาล่อแหลมขัด"มาตรา 37"ตามพ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ จึงสั่งงดออกอากาศด้วยตัวเอง หวั่นปล่อยออกไปเกิดปัญหาซ้ำรอย"เปลือยเต้า"วาดภาพในรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนท์
จากกรณีสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 ตัดสินใจยุติการออกอากาศละครของบริษัทเมตตาและมหานิยม จำกัด เรื่อง "เหนือเมฆ 2 ตอน มือปราบจอมขมังเวทย์" ก่อนกำหนดในวันศุกร์ที่ 4 ม.ค. 2556 จากเดิมมีโปรแกรมฉายจนถึงตอนอวสาน วันที่ 6 ม.ค. 2556 พร้อมยกเหตุผลประกอบว่า "ขออภัยท่านผู้ชมที่ต้องงดออกอากาศละครเรื่องเหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์ เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่ามีเนื้อหาบางช่วงบางตอนไม่เหมาะสมกับการออกอากาศ"
ขณะเดียวกัน ในสังคมโซเชี่ยลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ก รวมถึงเว็บบอร์ดชื่อดังต่างๆ ปรากฏว่ามีทั้งประชาชน ดารานักแสดง นักการเมือง นักวิชาการ และคนในแวดวงบันเทิงเข้าไปแสดงความเห็นกันอย่างถล่มทลาย โดยกลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เชื่อว่าฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแซง บีบให้ช่อง 3 ถอดละครเหนือเมฆ 2 ของผู้จัด นก-ฉัตรชัย เปล่งพานิช เพราะมีเนื้อหาโจมตีนักการเมืองและการทุจริตของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมตรี ต่างยืนยันตรงกันว่า รัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุถอดละครดังกล่าว
รบ.ย้ำไม่ได้ถอด"เหนือเมฆ"
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 5 ม.ค. นายวราเทพ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์ย้ำอีกครั้งถึงกระแสข่าวรัฐบาลสั่งช่อง 3 ยุติการออกอากาศละครเหนือเมฆ 2 ว่า ขึ้นอยู่กับความเห็นและความเชื่อของแต่ละบุคคลที่จะใช้วิจารญาณในการรับข้อมูล คงห้ามความคิดไม่ได้ ทั้งนี้ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามชี้แจงไปแล้วว่าไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง และจากการตรวจสอบไม่พบว่ารัฐบาลหรือคนในรัฐบาลสั่งให้ยุติการแพร่ภาพออกอากาศของละครเรื่องดังกล่าว และรัฐบาลไม่มีนโยบายที่จะดำเนินการลักษณะนั้น อีกทั้งสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ก็ได้ชี้แจงแล้วว่าสาเหตุที่ระงับการออกอากาศ เพราะมีเนื้อหาไม่เหมาะสม โดยไม่มีการเมืองเข้าไปแทรกแซง การกล่าวหารัฐบาลจึงเกิดจากความเข้าใจผิดของประชาชน
"เนื้อหาละครไม่ได้กระทบกับรัฐบาล จึงไม่มีความจำเป็นต้องไประงับการออกอากาศและเราก็ไม่ได้ไปติดตามหรือเฝ้าดูละครเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นพิเศษ ดังนั้นการพิจารณาความเหมาะสมจึงอยู่ที่ผู้รับผิดชอบ หรือหน่วยงานต้นสังกัดจะเป็นผู้พิจารณา" นาย วราเทพกล่าว
พท.ยัน-"ทักษิณ"ก็ไม่รู้เรื่อง
ที่พรรคเพื่อไทย ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรค กล่าวถึงกระแสข่าวนักการเมืองและอดีตนายกฯ แทรกแซงสื่อสั่งลาจอละครเหนือเมฆ 2 ว่า เป็นไปไม่ได้ ไม่มีเหตุผลที่ใครจะไปทำอย่างนั้น หากเป็นพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จริง ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ต่างประเทศ ย่อมไม่มีโอกาสดูละครเรื่องนี้อยู่แล้ว นอกจากนี้บริษัทบางกอกเอนเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้บริหารช่อง 3 เป็นบริษัทมหาชนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ย่อมต้องมีแนวทางบริหารงานชัดเจน และมีทีมผู้บริหารคอยตัดสินใจเรื่องต่างๆ แบบมืออาชีพ รัฐบาลเข้าไปแทรกแซงไม่ได้อยู่แล้ว และไม่มีเหตุผลที่รัฐบาลจะทำเช่นนั้น คงไม่มีเวลาไปทำด้วย เพราะลำพังแค่บริหารประเทศ แทบไม่มีเวลาจะนอนอยู่แล้ว จะเอาเวลาที่ไหนไปตาม เช็กละครเรื่องนั้นเรื่องนี้
วอนเลิกโยงมั่วการเมือง
รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า ที่จริงการวิจารณ์รัฐบาล ถือเป็นเรื่องธรรมดา รัฐบาลยินดีรับฟัง ขนาดสื่อต่างๆ ที่ตั้งตัวเป็นศัตรู แต่งเรื่องใส่ร้ายโจมตีรัฐบาลโดยใช้ถ้อยคำก้าวร้าวรุนแรง ทั้งแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่างๆ นานา รัฐบาลก็ยังอดทน ไม่ได้ไปปิดกั้นเสรีภาพในการพูดของใครเลย แค่ละครเรื่องเดียว รัฐบาลคงไม่มีเวลาไปตอแยด้วย เพราะละครคือละคร จบเรื่องนี้ไป เดี๋ยวมีเรื่องใหม่มา ไม่เห็นมีอะไรต้องคิดมาก และไม่ว่าเนื้อหาของละครจะเป็นอย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะก็ไม่ได้เป็นละครที่ถูกพูดถึงอยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่รัฐบาลจะต้องไปขอให้หยุดแพร่ภาพ รัฐบาลจะไปช่วยเพิ่มเรตติ้งให้ละครโดยใช่เหตุทำไม ขอให้ทุกฝ่ายเลิกโยงเรื่องละครมาเป็นประเด็นการเมืองได้แล้ว
"นายกฯปู"ไม่เคยดูด้วยซ้ำ
ด้าน "แซนด์"ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ หลานและหนึ่งในทีมงานของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ เขียนทวิตเตอร์ถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีช่อง 3 สั่งถอดละครเหนือเมฆ 2 กะทันหันว่า ละครเรื่องดังกล่าวทั้งนายกฯ และทีมงานไม่เคยได้ดู ไม่รู้ว่าเนื้อเรื่องเป็นอย่างไร ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบและขอให้ทางสถานีช่อง 3 ใช้เวทีครอบครัวข่าวชี้แจงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
"ปชป."ร่วมโหนกระแส
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรค แถลงว่า การที่เจ้าของสถานีออกมาแถลงว่าเนื้อหาในละครเรื่องนี้ไม่เหมาะสม ตนขอถามว่าไม่เหมาะสม ในส่วนใด แต่จากที่ติดตามเห็นว่าเป็นละครที่พูดถึงคุณธรรมจริยธรรม คุณงามความดี พูดถึงเรื่องการบริหารประเทศโดยสุจริต ทั้งนี้ ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะออกมาปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องก็ตาม แต่รัฐบาลจะออกมาปฏิเสธไม่ได้ เพราะละครเรื่องนี้เป็นเรื่องของการเมือง รัฐบาลควรออกมาทำความเข้าใจ
"เรื่องนี้แทงใจดำของผู้อยู่เบื้องหลังรัฐบาลและรัฐบาล เพราะพฤติกรรมคล้ายกับละครเรื่องนี้หรือไม่ อย่างไรก็ตามถ้ารัฐบาลสั่งถอดละครเรื่องนี้จริง ผมก็เห็นเพียงรัฐบาลชาติเดียวที่ยอมรับว่าเป็นรัฐบาลอธรรม และเป็นรัฐบาลชาติเดียวที่เห็นการทุจริตคอร์รัปชั่นแล้วทนไม่ได้ จึงสั่งถอดละครออก คนดีทนดูหนังเรื่องนี้ได้ มีแต่คนเลวเท่านั้นที่ทนหนังเรื่องนี้ไม่ได้ ประเด็นเรื่องนี้เป็นการแทรกแซงสื่อและผู้ผลิตรายการอย่างร้ายแรง" นาย ชวนนท์กล่าว
จี้"ผู้ตรวจฯ"ตรวจสอบ
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า การถอดละครเป็นกรณีที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ในฐานะอดีตรมต.ประจำสำนักนายกฯ ดูแลสื่อของรัฐ อสมท สมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ รัฐบาลเราไม่พฤติกรรมยุ่งเกี่ยวการนำเสนอละครต่อประชาชน ปล่อยให้เป็นเรื่องของประกอบอาชีพตามจรรยาบรรณวิชาชีพโดยอิสระ แต่รัฐบาลนี้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง นอกจากถอดละครเหนือเมฆแล้ว ยังดูดเสียงถ้อยคำในละครบางเรื่องที่กระทบผู้มีอำนาจ การกระทำดังกล่าวเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบแทรกแซงการทำงานของสื่อมวลชน การทำละครที่เป็นสื่อบันเทิงก็ถือเป็นสื่อมวลชน
นายองอาจกล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้น่าจะมีผู้มีอิทธิพลเหนือรัฐมนตรีเข้าไปแทรกแซง เป็นการกระทำที่ลุแก่อำนาจ เชื่อว่านายวราเทพ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่ดูแลอสมท ไม่เกี่ยวข้องกับการถอดละครเรื่องเหนือเมฆ 2 ออกจากช่อง 3 เพราะทราบดีว่าหากดำเนินการก็จะขัดรัฐธรรมนูญ และการดำเนินการกับเรื่องเหนือเมฆนั้นมีหลายอย่างขัดรัฐธรรมนูญ เมื่อมีการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญแล้วนั้นตนอยากเรียกร้องให้องค์กรอิสระ เช่น ผู้ตรวจการแผ่นดิน ควรดูแลว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไรให้เป็นบรรทัดฐานต่อสังคมอย่างไร รวมทั้งคณะกรรมการกิจการโทรทัศน์ กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ไม่ควรนิ่งเฉย ควรมีบทบาทดำเนินการเพื่อสร้างบรรทัดฐานไม่ให้ดำเนินการลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกในสังคม ควรเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนมีเสรีภาพแสดงออก ไม่ควรขัดขวาง
"ผมเชื่อว่าเรื่องนี้ถ้าไม่มีผู้มีอำนาจสั่งการคงไม่เกิดขึ้น ไม่น่าจะเป็นไปได้ว่าจะเป็นการพิจารณาของช่อง 3 หรือผู้จัดละครอย่างอิสระในการถอดละครออกไปทั้งที่ยังไม่จบ จึงเห็นชัดเจนว่าเป็นการใช้อำนาจรัฐตอบสนองความต้องการของผู้มีอำนาจ" นายองอาจ ชี้
"ฉัตรชัย"โพสต์ขอบคุณ
ผู้จัดหนุ่ม "นก"ฉัตรชัย เปล่งพานิช ผู้ผลิตละครเรื่องเหนือเมฆ 2 โพสต์รูปลงอินสตา แกรมช่วงสายของวันนี้ เป็นรูปซีดีเหนือเมฆ 2 ตอน 9 ซึ่งเป็นตอนสุดท้ายในการออกอากาศก่อนจะโดนระงับการออกอากาศ 3 ตอนที่เหลือ แล้วเขียนข้อความด้วยลายมือตัวเองว่า "ขอบคุณทุกกำลังใจครับ"
ทั้งนี้ ล่าสุดมีคนเข้าไปจัดตั้งกลุ่ม "เอาเหนือเมฆ 2 กูคืนมา" ในเว็บเฟซบุ๊ก เพื่อเรียกร้องให้ช่อง 3 นำตอนจบเหนือเมฆ 2 กลับมาออกอากาศ
"สุภิญญา"ไล่บี้"ช่อง3"ชี้แจง
น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า วันที่ 7 ม.ค. นี้ เตรียมนัดหารือกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ซึ่งมีกรรมการทั้งหมด 5 คน กรณีไทยทีวีสีช่อง 3 สั่งแบนละครเหนือเมฆ 2 เมื่อ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา ทั้งที่ยังไม่ถึงตอนอวสาน โดยอ้างว่ามีเนื้อหาไม่เหมาะสม อย่างไรก็ดี กระแสสังคมในขณะนี้กดดันให้ช่อง 3 ออกมาชี้แจง ซึ่งกสทช.ที่มีอำนาจกำกับดูแลช่อง 3 โดยตรงก็เห็นด้วยที่จะต้องแสดงท่าทีเพื่อให้ผู้บริหารช่อง 3 ออกมาชี้แจงต่อกรณีการสั่งแบนละครเหนือเมฆกลางอากาศ ซึ่งถือว่าผิดปกติ และกระทบผู้ชมที่รอดูละครเรื่องนี้จำนวนมากทำให้ผู้บริโภคเสียหาย ฉะนั้นช่อง 3 ต้องมีคำอธิบายว่าแบนด้วยเหตุผลอะไร และทางสถานีต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น
ซัดปิดกั้นเสรีภาพประชาชน
น.ส.สุภิญญาระบุว่า ขณะเดียวกันหากช่อง 3 กังวลว่าเนื้อหาของละครอาจกระทบกับการเมืองก็ถือเป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะเป็นการปิดกั้นสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ในทางตรงข้าม หากเนื้อหาละครถูกถูกแทรกแซงจากทางการเมืองหรือมือที่มองไม่เห็นก็ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณผิดๆ เพราะขณะนี้อยู่ในช่วงเรียกร้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน อีกทั้งทำให้อุตสาหกรรมโทรทัศน์ไทยถดถอย ทั้งที่ละครเสียดสีสังคมการเมืองในต่างประเทศแรงกว่ามากเพื่อต้องการยกระดับการรับรู้ของประชาชนให้ก้าวหน้าขึ้น และหากโดนแทรก แซงจากฝ่ายการเมืองจริง จะทำให้ผู้ประกอบการไม่กล้านำเสนอละครสร้างสรรค์สังคม
"กสทช.มีอำนาจตามมาตรา 37 ตาม พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และที่ผ่านมายังไม่เคยใช้และระวังการใช้มาก แม้แต่ละครเรื่องแรงเงา ที่มีผู้ร้องเรียนเรื่องเนื้อหาละครเข้ามาจำนวนมาก กสท.ยังไม่เคยแบน แต่แนะนำให้ระวังการใช้คำให้เหมาะสม" น.ส.สุภิญญากล่าว
แนะ"ช่อง 3"ให้รีบทิ้งสัมปทาน
กรรมการกสทช. กล่าวอีกว่าโดยส่วนตัวหากช่อง 3 ปลดละครเหนือเมฆกลางอากาศเพราะกลัวมือที่มองไม่เห็น หรือกลัวการเมือง เนื่องจากขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการต่อสัมปทาน 10 ปีของช่อง 3 เมื่อปี 2553 ว่าอาจกระทำผิดเงื่อนไขสัญญาสัมปทานนั้น แนะนำว่าให้ช่อง 3 ทิ้งสัญญาสัมปทานดังกล่าว และให้หันมาส่งสัญญาณผ่านทีวีดิจิตอลที่กสทช.กำลังจะเปิดประมูล 24 ช่อง
"หากเรื่องสัญญาสัมปทานดังกล่าวยังมีปัญหาอยู่ ไม่แน่ใจว่าการเมืองจะสร้างเงื่อนไขในการนำเสนอเนื้อหาการออกอากาศของช่อง 3 ไปตลอดอีก 10 หรือไม่" น.ส.สุภิญญากล่าว
สถานีแจ้งข้อมูล"กสทช."แล้ว
พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการกสทช. ในฐานะประธานอนุกรรมการกำกับเนื้อหา ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนกรณีช่อง 3 ระงับการออกอากาศเหนือเมฆ 2 ว่า ในหลักการเมื่อเทียบกับประเทศเจริญแล้ว ถ้าปล่อยให้สื่อไปหารายได้เอง ผลคือรายการที่ผลิตออกมาจะขึ้นอยู่กับเรื่องของการตลาดไม่อิงกับหลักการของปรัชญาและศาสนา เพราะไม่ได้เป็นเรื่องของการตลาด
พล.ท.พีระพงษ์ระบุต่อว่า วันนี้จะบอกว่าสื่อไม่รักชาติคงไม่ใช่ เพราะประเทศไทยมีหลักการแบบนี้ ซึ่งต้องลงทุน ต้องหารายได้ และไม่มีอะไรฟรี ส่วนกรณีของละครเหนือเมฆ 2 กสทช.ทำหน้าที่กำกับรายการและเนื้อหา โดยไม่มีระบบเซ็นเซอร์เนื้อหา ซึ่งการทำหน้าที่นี้ช่อง 3 ต้องแจ้งรายละเอียดผังรายการที่เปลี่ยนมาให้กสทช.ทราบ โดยที่ในเนื้อหารายละเอียดต่างๆ ของรายการ ช่อง 3 มีระบบตรวจสอบของสถานีเอง อาทิ กรณีไทยแลนด์ก็อตทา เลนต์ที่เปลือยอกวาดภาพ ช่อง 3 ก็ยอมรับว่าเกิดการตรวจสอบที่ผิดพลาดและชี้แจงมายัง กสทช. ดังนั้น เมื่อเคยเกิดความผิดพลาดยิ่งทำให้ช่อง 3 ต้องระวังมากขึ้น ดังนั้น กรณีของละครเหนือเมฆ 2 ช่อง 3 คงตรวจสอบแล้วว่าอาจผิดตามมาตรา 37 จึงสั่งให้หยุดการออกอากาศ ซึ่งเป็นการกำกับดูแลตัวเองของช่อง 3
บิ๊กช่อง 3 รับ-เนื้อหาขัด ม.37
พล.ท.พีระพงษ์ชี้ว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นการทำงานศิลปะต้องดูด้วยว่าไปกระทบกับใคร เพราะอาจเข้าข่ายละเมิด เรื่องที่ว่าดีเป็นเรื่องของอัตวิสัย ถ้าดีแล้วเข้าข่ายหมิ่นประมาท ช่อง 3 อาจมองว่าตัดออกดีกว่า ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงว่าผลกระทบจะก่อให้เกิดความขัดแย้งไหม
"ส่วนตัวได้คุยกับผู้บริหารระดับสูงของช่อง 3 ซึ่งบอกว่าเนื้อหาของละครขัดมาตรา 37 จึงต้องงดออกอากาศ แต่ไม่ได้บอกว่าเนื้อหาตรงส่วนไหนขัด การที่ช่อง 3 งดออกอากาศละครเหนือเมฆ 2 คิดว่าช่อง 3 คงพิจารณาดีแล้วว่าตัวเนื้อหาละครไม่เหมาะสม"
สำหรับมาตรา 37 ตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ระบุว่า ห้ามออกอากาศเนื้อหารายการที่มีลักษณะล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือกระทำซึ่งเข้าลักษณะลามกอนาจารหรือมีผลกระทบต่อการให้เกิดความเสื่อมทรามทางจิตใจหรือสุขภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง
ไม่เห็นรัฐบาลแทรกแซง
พล.ท.พีระพงษ์เผยว่า กสทช.มีอำนาจหน้าที่ถามและขอให้ช่อง 3 ชี้แจงสาเหตุของการงดออกอากาศละครเหนือเมฆ 2 มาที่ กสทช.กรณีมีประชาชนเดือดร้อนจากการไม่ได้รับชมร้องเรียนเข้ามา ซึ่งการเปลี่ยนเรื่องละครที่จะออกอากาศ ช่อง 3 ได้แจ้งมาที่ กสทช.แล้ว เป็นลักษณะการเปลี่ยนเรื่องละคร ไม่ได้เปลี่ยนแปลงลักษณะรายการ ขณะที่ส่วนตัวมีความคิดเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการปรับตัวของสื่อ ซึ่งเกิดจากระบบตรวจสอบที่เคยผิดพลาดกรณีไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ทำให้ช่อง 3 มีการตรวจสอบที่เข้มงวด และตรวจสอบก่อนจะผิดพลาดอีก ซึ่งสิ่งที่ต้องทำของช่อง 3 ขณะนี้คือ ต้องชี้แจงกับประชาชนว่าทำไมต้องจบละครเรื่องเหนือเมฆ 2 เร็ว
"โดยส่วนตัวเห็นว่าประเทศไทยควรทำละครที่มีเนื้อหาการเมือง แต่ต้องเน้นให้คนเข้าใจที่ข้อเท็จจริง ไม่ใช่เน้นตัวบุคคล แต่ให้ชี้ไปที่โครงสร้างซึ่งปัญหาในเรื่องของโครงสร้างเป็นสิ่งที่เราต้องไปจับจ้อง และกรณีเหนือเมฆ 2 ที่งดออกอากาศ รัฐบาลไม่มีสิทธิ์มาแทรกแซง และไม่เห็นว่ารัฐบาลเข้าไปยุ่งหรือกำกับสื่อแต่อย่างใด" กรรมการ กสทช.กล่าว