ยลโฉม 13 นาฬิกาข้อมือโลหะยอดนิยมสำหรับหนุ่ม ๆ (GM)
เรื่อง : ปัญญา ลีลาสุนทรกุล
แม้เศรษฐกิจของยุโรปจะชะงักลงไปบ้าง แต่อุตสาหกรรมนาฬิกาไม่เคยหยุดสร้างสรรค์จักรกลชิ้นเล็ก ๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตลาดนาฬิกาในจีนและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียกำลังเติบโตสวนทางภาวะเศรษฐกิจยุโรปอยู่นั่นเอง
เวลานี้คือโอกาสทองของผู้ผลิตนาฬิกา ในการสร้างผลงานชิ้นเอกออกมาเอาใจชาวเอเชีย นาฬิกาหลากแบรนด์ต่างทยอยเปิดตัวโดยชูจุดเด่นกันออกมาแข่งขันกันอย่างหลากหลาย ตั้งแต่หน้าปัดใหญ่เป็นพิเศษ ใช้วัสดุโลหะที่มีความทนทานสูง กันน้ำได้ลึกกว่าใคร หรือมีมาตรฐานเดียวกับนาฬิกาของนักบิน เป็นต้น
ดังนั้นวันนี้กระปุกดอทคอมจึงได้นำเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับนาฬิกา จากนิตยสารจีเอ็ม (GM) รวมรวมนาฬิกาโลหะที่เหมาะกับหนุ่ม ๆ รวมแล้ว 13 เรือน มาให้คุณได้ชมกัน ไม่แน่นะ ถ้าคุณได้เห็นแล้วอาจถึงกับหลงใหลในบางเรือน จนกระทั่งต้องขอปวารณาตัวเป็นเจ้าของเลยก็เป็นได้!
Parmigiani Pershing Chronograph
ผลงานจากความร่วมมือระหว่างแบรนด์เครื่องบอกเวลาคุณภาพสูง "Parmigiani" และผู้ผลิตเรือยอชท์แบรนด์อิตาลีชื่อดัง "Pershing" ได้ร่วมกันเนรมิตจนได้ออกมาเป็นนาฬิกาสไตล์สปอร์ตที่เอาใจคุณสุภาพบุรุษโดยเฉพาะ ด้วยความโดดเด่นของตัวเรือนขนาดใหญ่ 45.0 มิลลิเมตร เที่ยงตรงด้วยการทำงานของกลไกโครโนกราฟอัตโนมัติจับเวลาผ่านหน้าปัดย่อย พร้อมฟังก์ชันการแสดงเวลาชั่วโมง นาที วินาที บอกวันที่ผ่านช่องหน้าต่าง ณ 6 นาฬิกา มาพร้อมสายสเตนเลสสตีล รับกับตัวเรือนได้อย่างลงตัว
Chopard Mille Miglia Sport Classic
หนึ่งในคอลเลคชั่นอันเลื่องชื่อ มิลล์ มิเกลีย (Mille Miglia) มาพร้อมการทำงานของกลไกโครโนกราฟอัตโนมัติ ผ่านการทดสอบความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ เล่นด้วยคุณสมบัติการจับเวลาพร้อมแกะสเกล Tachymeter สำหรับวัดระยะความเร็วอยู่ที่ขอบตัวเรือน สามารถจับความเร็วโครโนกราฟ 1/5 วินาที สำรองพลังงานได้นานถึง 40 ชั่วโมง ตัวเรือนแกร่งทนทานกับวัสดุสเตนเลสสตีลคุณภาพสูง พื้นหน้าปัดสีดำสุดเท่ จับเวลาชั่วโมง ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา จับเวลานาที ณ 9 นาฬิกา และแสดงวินาทีผ่านหน้าปัดย่อยที่ 3 นาฬิกา
Zenith El Primero Stratos Flyback
นับว่าเป็นนาฬิกาโครโนกราฟที่สง่างามที่สุดก็ว่าได้ หน้าปัดมีขนาด 45.5 มิลลิเมตร ผนึกกระจกหน้าปัดด้วยคริสตัลแซฟไฟร์ ตัวเรือนและสายนาฬิกาผลิตจากสเตนเลสสตีลตกแต่งด้วย Alchron สีดำขลับ มาพร้อมกลไกอัตโนมัติ El Primero 405B ความถี่ 36,000 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงานได้นานถึง 50 ชั่วโมง ระบบจับเวลาโครโนกราฟแบบคอลัมน์วีล อันเป็นเอกลักษณ์ของรุ่นนี้ ในหน้าปัดย่อยสำหรับจับเวลา 30 นาที 12 ชั่วโมง และบอกวินาทีที่ตำแหน่ง 3 6 และ 9 นาฬิกา ตามลำดับ บอกวันที่ผ่านช่องหน้าต่าง ณ 6 นาฬิกา และกันน้ำได้ลึกกว่า 100 เมตร
Fortis F-43 Flieger
ถือเป็นปีครบรอบ 100 ปีพอดิบพอดี สำหรับ Fortis นาฬิกาคอลเลคชั่นใหม่ ๆ จึงปรากฏตัวเพื่อเฉลิมฉลอง หนึ่งในนั้นคือนาฬิกาหน้าปัดสีดำสนิทตัดกับสายโลหะมันวาวเรือนนี้ ใช้ระบบกลไกอัตโนมัติ Valjoux 7750 ความถี่ 28,000 ครั้ง/ชั่วโมง มาพร้อมระบบจับเวลาโครโนกราฟ 30 นาที ในหน้าปัดย่อย 12 นาฬิกา และจับเวลา 12 ชั่วโมงในหน้าปัดย่อย 6 นาฬิกา ส่วนหน้าปัดย่อยบอกวินาทีอยู่ตรงตำแหน่ง 9 นาฬิกา พร้อมบอกวันที่ผ่านช่องหน้าต่าง ณ 3 นาฬิกา และกันน้ำได้ลึก 200 เมตร
Bremont ALT1-C Classic
ความเชี่ยวชาญของการประดิษฐ์นาฬิกาสำหรับนักบิน ได้ผันแปรมาสู่นาฬิกาเรือนนี้ มาพร้อมระบบกลไกอัตโนมัติ Calibre 13 1/4” BE-50AE ความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง ผ่านการทดสอบความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ รับรองโดยสถาบัน COSC สำรองพลังงาน 42 ชั่วโมง ขนาด 43.0 มิลลิเมตร แสดงผลจับเวลาด้วยระบบโครโนกราฟบนหน้าปัด ตัวเรือนผลิตจากสเตนเลสสตีล ด้านหลังเผยให้เห็นตัวเครื่องผ่านกระจกคริสตัล ทว่าผนึกแน่นหนาด้วยสกรูถึง 5 ตัว กันน้ำได้ลึก 100 เมตร
Audemars Piguet Selfwinding Royal Oak
ตัวเรียนสเตนเลสสตีลในรูปลักษณ์สปอร์ตของคอลเลคชั่นรอยัล โอ๊ค เจิดจรัสมายาวนานกว่า 40 ปีแล้ว ในครั้งนี้จึงปรับขนาดให้ใหญ่ขึ้นเป็น 41.0 มิลลิเมตร จากเดิม 39.0 มิลลิเมตร มีให้เลือก 2 เวอร์ชั่น คือ หน้าปัดสีน้ำเงินหรือโทนสีเงิน หรือตัวเรือนทองชมพูคู่กับหน้าปัดสีดำหรือโทนสีเงิน บรรจุกลไกอัตโนมัติ Calibre 3120 ความถี่ 21,600 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงานได้นาน 60 ชั่วโมง ขับเคลื่อนการแสดงชั่วโมง นาที และวินาทีผ่านเข็มชี้ บอกวันที่ทางช่องหน้าต่าง กันน้ำได้ลึก 50 เมตร
Rolex Oyster Perpetual Sky-Dweller
เพียงเอ่ยชื่อรุ่น Oyster ทุกคนล้วนนึกถึงการประสานกันของความสง่าและความแข็งแกร่ง สำหรับรุ่นนี้ติดตั้งกลไกใหม่ คาลิเบอร์ 9001 ตัวเรือนขนาด 42.0 มิลลิเมตร มาพร้อมสวิสโครโนมิเตอร์ ผ่านการรับรองอย่างเป็นทางการจากสถาบัน COSC บอกเวลา 2 โซน มีนวัตกรรมปฏิทินปี SAROS และการบอกเดือนด้วยช่องสี่เหลี่ยม บนเส้นรอบวงของหน้าปัดที่ไล่เรียงตามลำดับเดือนจำนวน 12 ช่องขอบตัวเรือนหมุนได้ Ring Command
TAG Heuer Carrera Calibre 17 Jack Heuer 80th Birthday Limited Edition
คอลเลคชั่นสุดพิเศษ ผลิตขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบอายุ 80 ปีของ แจ็ค ฮอยเออร์ ลูกชายของผู้ก่อตั้งนาฬิกายี่ห้อนี้ ดังนั้นจึงพิถีพิถันกันตั้งแต่ตัวเรือนสเตนเลสสตีลขัดเงา หน้าปัดนาฬิกาขนาด 43.0 มิลลิเมตร กระจกคริสตัลแซฟไฟร์ เคลือบสารกันแสงสะท้อน ติดตั้งกลไกอัตโนมัติ Calibre 17 แสดงผลการจับเวลาและบอกวันที่ บนหน้าปัดสีเงิน แต่งด้วยลวดลายรัศมีดวงอาทิตย์ เคียงคู่มากับโลโก้ Red Heuer สีแดงเด่นสไตล์วินเทจ กันน้ำได้ลึก 100 เมตร
Maurice Lacroix Les Classiques Chronographe Phase de Lune
นาฬิกา มอริส ลาครัวซ์ ไม่ต่างอะไรจากผลงานศิลปะชิ้นเอก แม้เรือนนี้จะมาในรูปลักษณ์สปอร์ตหรูด้วยตัวเรือนสเตนเลสสตีล ขนาด 40.0 มิลลิเมตร แต่อ่อนช้อยด้วยกลไกควอตช์โครโนกราฟ ML49 พร้อมหน้าปัดมีให้เลือกระหว่างสีเงินและสีดำ ขณะที่หน้าปัดย่อยแสดงผลการจับเวลา 30 นาที และ 60 วินาที จัดวางไว้ ณ ตำแหน่ง 10 และ 2 นาฬิกาตามลำดับ แสดงข้างขึ้น-ข้างแรมบนแผ่นดิสก์และบอกวันที่ ณ ตำแหน่ง 4 นาฬิกา
Tudor Pelagos
มรดกตกทอดจากอดีตยาวนานกว่า 60 ปีของทิวดอร์รังสรรค์ออกมาเป็นนาฬิการุ่น เพลากอส ที่ว่ากันว่าทนทานเป็นที่สุด ส่วนหนึ่งเพราะกันน้ำได้ลึกถึง 500 เมตร แต่อีกส่วนเป็นผลมาจากวัสดุไทเทเนียมและเหล็กกล้าของตัวเรือน กระจกคริสตัลแซฟไฟร์ มาพร้อมขอบตัวเรือนไทเทเนียมหมุนได้ทางเดียวพร้อมขอบเซรามิกสีดำ กลไกไขลานอัตโนมัติพลังงานสำรองประมาณ 38 ชั่วโมง
Baume & Mercier Hampton 10047, 10048
โบม เอต์ แมร์ชิเยร์ มาพร้อมความโดดเด่นของงานออกแบบสายสเตนเลสสตีลขัดเงาและขัดด้านซาติน รวมถึงตัวพับล็อกสายแบบ 3 ชั้นขึ้นใหม่ให้กับ 2 รุ่นในปีนี้ บรรจุด้วยกลไกอัตโนมัติ ETA 2895 ประกอบทับทิม 27 เม็ด แยกแสดงวินาที บนหน้าปัดเล็กที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา และแสดงวันที่ผ่านช่อง หน้าต่างที่ 3 นาฬิกา ผนึกฝาหลังด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ใสหรือฝาหลังสเตนเลสสตีลสำหรับงานแกะสลักข้อความเฉพาะบุคคล โดยกันน้ำได้ลึกระดับ 50 เมตร
IWC Pilot’s Watch Chronograph (Ref.3777)
ความแข็งแกร่งดุดันไม่เคยลดความภูมิฐานสุดคลาสสิกของไอดับเบิลยูซี พรั่งพร้อมด้วยสมรรถนะแห่งความเที่ยงตรงฟังก์ชั่น และความไว้วางใจได้จากการทำงานของกลไกอัตโนมัติโครโนกราฟ Calibre 79320 สำรองพลังงานได้นาน 44 ชั่วโมง แสดงวันที่และวัน ฟังก์ชั่นจับเวลา และปกป้องจากอิทธิพลของสนามแม่เหล็กด้วยการติดตั้งเหล็กนุ่มด้านในของตัวเรือน ภายนอกทำจากสเตนเลสสตีลขนาด 43.0 มิลลิเมตร
Omega Speedmaster Racing
นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1957 จนพัฒนามาสู่เวอร์ชั่นล่าสุด โอเมก้าไม่เคยทำให้ผิดหวังในการบอกเวลาอันเที่ยงตรง สำหรับรุ่นนี้มีขนาด 40.0 มิลลิเมตร บรรจุกลไกอัตโนมัติโครโนกราฟ Calibre 3330 ติดตั้งคอลัมน์วีล และบาลานซ์สปริง Si 14 Silicon ผนึกกระจกคริสตัลแซฟไฟร์จับคู่กับตัวเรือนและสายนาฬิกาสเตนเลสสตีลอันทนทานกันน้ำได้ลึก 100 เมตร