สนุก / 96 สปอร์ตเรดิโอ : เบื้องหลังของศึกชิงแชมป์โลก รุ่นมินิมั่มเวท พรสวรรค์ กระทิงแดงยิม (ชนะ 27 น็อก 17 แพ้ 5 เสมอ 1) รองแชมป์โลกอันดับ 2 วัย 34 ปี ชาวไทย แพ้คะแนนอย่างไม่เป็นเอกฉันท์แบบค้านสายตาคนดูต่อ เรียว มิยาซากิ (ชนะ 18 น็อก 10 เสมอ 3) รองแชมป์โลกอันดับ 1 ชาวญี่ปุ่น ในการชกที่เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เมื่อคืนวันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด "คนเหล็ก2000" พรสวรรค์ กระทิงแดงยิม ก็ออกอาการซึมและเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องพัก และเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เคยคิดไว้ตั้งแต่ก่อนหน้าที่จะเดินทางมาญี่ปุ่นแล้วว่าถ้าชิงแชมป์โลกครั้งนี้แพ้อีกก็คงจะแขวนนวมเลิกชกแน่นอนเพราะอายุก็ล่วงไปถึง 34 ปีแล้ว
แต่จากผลการชกที่ออกมาทำให้ตนค้างคาใจมาก รู้สึกว่าตัวเองไม่สมควรแพ้เลย เข็มขัดแชมป์โลกเส้นนี้ตนต่างหากที่น่าจะได้คาดเอวกลับเมืองไทย รู้สึกเสียใจที่ทำให้แฟนมวยและกองเชียร์ต้องผิดหวังและอยากจะเจอกับ มิยาซากิ อีกหน แต่ยังไงก็ขอให้ได้กรรมการที่ยุติธรรมกว่านี้
ทางด้าน "แชแม้" นายนิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ โปรโมเตอร์ชาวไทย กล่าวว่าตนได้เจรจากับ มร.ยัง ซุป ชิม สักขีพยานการชกเพิ่มเติมอีกครั้งและได้รับการยืนยันว่าพร้อมที่จะลงลายมือชื่อในหนังสือประท้วงเพื่อเพิ่มน้ำหนักในการประท้วงผลการชกต่อสมาคมมวยโลกด้วย
ซึ่งเมื่อถึงเมืองไทยแล้วจะมอบหมายให้ฝ่ายต่างประเทศเดินเรื่องทันที คาดว่าจะทราบผลได้ทันทีในการประชุมจัดอันดับของ WBA ครั้งต่อไป จึงจะทราบว่าพรสวรรค์จะได้ล้างตากับคู่ปรับเก่าชาวญี่ปุ่นคนนี้หรือไม่
ทั้งนี้ หลังการชกจบลงตนได้รับโทรศัพท์จากบรรดาโปรโมเตอร์ชาวญี่ปุ่นที่สนิทสนมกันหลายรายไม่ว่าจะเป็นจาก กรีนซึดะ หรือ คาเนฮิร่า ซึ่งแต่ละคนล้วนแต่แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งยืนยันว่านักชกไทยน่าจะเป็นฝ่ายได้รับการชูมือบนเวทีมากกว่า
และเป็นอีกไฟต์หนึ่งที่ถือว่าเป็นไฟต์อัปยศของวงการมวยญี่ปุ่น ฉุดให้ภาพลักษณ์ของวงการมวยแดนอาทิตย์อุทัยที่กำลังได้รับการยอมรับไปทั่วโลกให้ต้องมามัวหมองตามไปด้วย
ขณะที่เว็บไซต์ในวงการหมัดมวยของญี่ปุ่น ก็ยังประโคมผลการตัดสินคู่ระหว่าง พรสวรรค์ กับ มิยาซากิ กันอย่างครึกโครม โดยส่วนใหญ่จะวิจารณ์ถึงการชกที่หยาบคายเต็มไปด้วยการทำฟาวล์ที่ผิดกติกาของมิยาซากิ
บ้างก็ประณามถึงขนาดว่าไม่สมควรได้แชมป์โลกและทำให้วงการมวยญี่ปุ่นต้องถูกมองว่าเต็มไปด้วยการคดโกงและมุ่งจะเอาชนะเพียงอย่างเดียวโดยไม่สนใจถึงวิธีการอีกด้วย
ซึ่งการชกของมิยาซากินั้นคงได้แต่ชกในประเทศแล้วอาศัยบารมีของกรรมการคุ้มกะลาหัวเท่านั้นเพราะหากเดินทางไปชกต่างประเทศเมื่อไหร่ก็คงยากจะได้รับชัยชนะและอาจถูกจับให้แพ้ฟาวล์ก็เป็นได้